หุ้นค้าปลีกกำไรโตต่อ อานิสงส์แจกเงินหมื่น-เข้าสู่ไฮซีซัน
หุ้นค้าปลีกกำไรโตต่อ อานิสงส์แจกเงินหมื่น-เข้าสู่ไฮซีซัน "กูรู" ชี้ ไตรมาส 4/67 ถึง ปีหน้า ยังเติบโต หลังผลงานโดดเด่น
ภายหลังรัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจจากนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้กลุ่มเปราะบาง 14 ล้านคน ไปช่วงเดือนปลายก.ย.2567 ที่ผ่านมา ส่งผลให้กลุ่มค้าปลีกกลับมาคึกคักอีกครั้ง ซึ่งเดือน ต.ค.2567 ความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าปลีก ปรับตัวดีขึ้นจากเดือน ก.ย.2567 ดังนั้นหุ้นกลุ่มค้าปลีกผลงานจึงออกมาดีกว่าคาด แม้ในช่วงไตรมาส 3/67 จะเป็นช่วงโลซีซั่นก็ตาม
ล่าสุด วันที่ 19 พ.ย.67 นี้ รัฐบาลเตรียมนัดประชุมคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อผลักดันแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 2 อีกครั้ง และคาดหุ้นกลุ่มดังกล่าวยังคงได้รับอานิสงค์ต่อเนื่อง
ประกิต สิริวัฒนเกตุ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เมอร์ชั่นพาร์ทเนอร์ จำกัด ให้ข้อมูลกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า ผลประกอบการของกลุ่มค้าปลีกออกมาดีใกล้เคียงจากที่คาดการณ์ ไว้ ขณะที่ CRC มีรายพิเศษเข้ามา รวมถึงรายได้จากการส่งเสริมการขายที่เพิ่มขึ้น ทำให้ภาพรวมของกลุ่มค้าปลีกดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
อย่างไรก็ดี ในช่วงไตรมาส 4/67 หุ้นกลุ่มค้าปลีกมีโอกาสปรับตัวได้ดีขึ้นกว่าไตรมาส 3/67 เนื่องจากว่า เป็นช่วงไฮซีซั่น บวกกับสัปดาห์หน้าวันที่ 19 พ.ย.2567 ทีมคณะเศรษฐกิจของรัฐบาลจะมีการหารือเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจแจกเงินดิจิทัลเฟส 2 อีกครั้ง รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กลุ่มค้าปลีกในช่วงสิ้นปี 2567 และปีหน้ากลับมาคึกคักต่อได้อีก
นอกจากนนี้ ยังได้รับแรงหนุนจากนักท่องเที่ยวเข้ามาได้มีโมเมนตัมที่ดี ขณะที่นโยบายทรัมป์ มองว่า หุ้นกลุ่มค้าปลีกได้รับผลกระทบค่อนข้างน้อย เนื่องจากกลุ่มดังกล่าวมีการพึ่งพิงอุปสงค์ภายในประเทศส่วนใหญ่ ซึ่งหากจะได้รับผลกระทบอาจเป็นทางอ้อมมากกว่า เช่น เศรษฐกิจหากมีการติดลบ หรือหากประชาชนมีการจับจ่ายใช้สอยที่น้อยลง หรือนักท่องเที่ยวอาจจะมาน้อย เป็นต้น
กรรณ์ หทัยศรัทธา นักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด ให้ข้อมูลเสริมว่า ส่วนใหญ่ไตรมาส 3 ของทุกปีเป็นโลซีซั่น บวกกับเข้าสู่ฤดูหน้าฝนที่คนจับจ่ายใช้สอยน้อย และนักท่องเที่ยวเข้ามาน้อย ผลงานไม่ควรหวือหวามาก แต่ในไตรมาส 3/67 กลับสามารถทำกำไรได้ดีกว่าคาด โดยเฉพาะ หุ้น CRC งบออกมาดี รายได้อื่น ๆ สูง และค่าใช้จ่ายคุมได้ดี รวมถึงค่าไฟที่ถูกลง หลังจากที่รัฐบาลควบคุมไว้ ทำให้ผลงานของหุ้นกลุ่มค้าปลีกออกมาค่อนข้างดี
ขณะที่ไตรมาส 4/67 จะดีขึ้นไปอีก เนื่องจากมีเทศกาลเฉลิมฉลองค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลปีใหม่ คริสมาส รวมถึงแจกเงินกระตุ้นเงินเฟส 1 ที่ได้แจกไปช่วงปลายก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งได้มีการเห็นการจับจ่ายใช้สอยเข้ามา โดยเฉพาะสินค้าตกแต่งบ้านมากขึ้น
“ในส่วนของงบไตรมาส 4/67 จะเติบโตได้ต่อ รวมถึงไตรมาส 1/ 68 โดยนักลงทุนอาจจะใช้จังหวะรอตอนย่อแล้วค่อยเข้าไปสะสม โดยเฉพาะหุ้น CRC ถือเป็นหุ้นท็อปพิกของค้าปลีก ราคาหุ้นมีการปรับขึ้นมาแรง ขณะที่มูลค่าหุ้นยังไม่แพง”
ส่วนในปีหน้ามองว่า ยังเติบโตได้อีก หลังจากที่รัฐบาลเตรียมกระตุ้นเงินดิทัลเฟส 2 โดยในสัปดาห์หน้าจะมีการแถลงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสำหรับการแจกเงินสด หรือในรูปแบบดิจิทัลเฟส 2
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มค้าปลีกจะมีความเสี่ยงเดียว คือ การมาของทรัมป์กับนโยบายต่าง ๆ อาจจะทำให้ฟันด์โฟลว์ไหลออก รวมถึงเม็ดเงินในเอเชีย เนื่องจากหุ้นค้าปลีกส่วนใหญ่ต่างชาติถือค่อนข้างเยอะ ถ้ามีเม็ดเงินไหลออกอาจจะโดนเทขายได้
บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า หุ้น CPALL ไตรมาส 3/67 มีกำไรโตเด่นสุด +24% YoY จากการเติบโตจากยอดขายสาขาเดิม และสาขาใหม่ที่คาดมีการเปิดเพิ่มขึ้นมากกว่า 500 แห่ง ในช่วง 9 เดือนปี 2567 นอกจากนี้คาดจะมีมาร์จิ้นดีขึ้นตามสัดส่วนการขายที่เพิ่มขึ้นของสินค้าที่สร้างมาร์จิ้นสูง อย่างอาหารพร้อมทาน ขณะที่สินค้ามาร์จิ้นต่ำอย่าง บุหรี่ ยังคงมีสัดส่วนลดลงต่อเนื่อง
นอกจากนี้่ ผลบวกจากฤดูกาล ในไตรมาส 4 ของทุกปี จะเป็น High season ของกลุ่ม เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองส่งท้ายปี ที่ผู้บริโภคมักมีการจับจ่ายสูงช่วงปลายปีเป็นฤดูท่องเที่ยว และมีวันหยุดยาว ทำให้มีการเดินทางทั้งจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ และคนไทยที่เดินทางในประเทศมากขึ้น หนุนยอดขายในสาขาที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว รวมทั้งการขายสินค้าประเภทอาหารพร้อมทาน และของใช้ส่วนตัว ซึ่งจะช่วยผลักดันอัตรากำไรขั้นต้น
ขณะที่ภาครัฐออกมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายอย่าง “โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567” ที่แจกเงินให้แก่กลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคน เป็นกลุ่มแรก ตั้งแต่ปลาย ก.ย.67 เป็นเงินสดซึ่งจะทำให้กลุ่มเป้าหมายสามารถจับจ่ายได้ตามต้องการ รวมทั้งการซื้อสินค้าใน 7-Eleven, Makro และ Lotus’s