ปฐมบท “หมอดัง” คราบ "นักบุญ"ปั่นป่วนตลาดทุนไทย
ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยบอบช้ำและนักลงทุนมีบาดแผลจาก บจ. ในตลาดหุ้นหลายเคสที่สร้างความเสียหายไว้ระดับหมื่นล้านจนทำให้ตลาดหุ้นไทยถูก “กระทบด้านความเชื่อมั่น” อย่างหนัก
หลายเคสที่เกิดต่างสร้างความ เซอร์ไพรส์ ผสม กังวล ว่าบริษัทใหญ่ - ผู้บริหารมีชื่อเสียง กลับมาเล่นแร่แปรธาตุซะเองจนทำลายชื่อเสียงแทบหมดสิ้น
กรณีเคส “หมอดัง” ที่เป็นคลื่นใต้สร้างกระแสข่าวใหญ่ ตั้งแต่เดือนต.ค. - ก.ย. กล่าวหาว่า นำหุ้นธุรกิจโรงพยาบาลดังไปจำนำนอกตลาดหุ้น เพื่อกู้เงินมาทำธุรกิจจนเกิด ปัญหาสภาพคล่องไม่สามารถชำระหนี้ได้ นำไปสู่การฟ้องร้องเป็นคดีความจากเจ้าหนี้ทั้งนักธุรกิจ รายย่อย รวมไปถึง อดีตคนในครอบครัว “ลูกสะใภ้” ที่ดำเนินการฟ้องร้องกรณีปลอมแปลงเอกสารเจ้าของหุ้นเพื่อนำไปจำนำ
ข้อกล่าวหาเริ่มจาก “หมอดัง” ต้องการหาแหล่งระดมทุนจำนวนมาก ตั้งแต่ปี 2559-2560 แต่ที่สามารถระดมเงินกู้ได้จำนวนมหาศาลปี 2564-2565 จากการระบาดโรคโควิดนำเสนอนำเข้าวัคซีนเข้ามาให้บริการจำนวนมากจนทำให้ราคาหุ้นพุ่งทะยานจาก 60 บาทมาที่ 96.25 บาท นิวไฮทุกระดับ จนทำให้จะกลายเป็นหุ้นที่แตะหลัก 100 บาทได้ง่าย จึงทำให้กลายเป็นหุ้นดี- เนื้อหอมออฟเฟอร์หาแหล่งเงินทุนได้ไม่ยาก
กลวิธีเริ่มให้ คนในครอบครัว และ เลขาข้างกาย เสนอหาแหล่งเงินล่อใจด้วย ดอกเบี้ยสูงถึง 15 % แต่มีการหักหัวคิวค่าจัดการคนกลางมาตลอดทางจนทำให้กว่าจะถึงตัวแหล่งเงินทุนเหลือดอกเบี้ย 7-8 % แต่ยังถือว่าสูงกว่าในตลาดบวกกับเครดิต ความน่าเชื่อถือของ “หมอดัง” ทำให้ไม่มีปํญหาในการกู้ให้ดอกเบี้ยโหดขนาดนี้
เม็ดเงินทีี่ได้รับการกู้มีระบุสูงถึงระดับ “หมื่นล้านบาท” มีตัวกลางจัดหาแหล่ง “ธุรกิจโบรกเกอร์” และที่ทำเอาตกตะลึงมี ผู้บริหาร บจ. ใหญ่ และนามสกุลดังอดีต โทรคมนาคม ปล่อยกู้ร่วมกันเกือบ 2 หมื่นล้านบาท !!
ด้วยจำนวนเงินมหาศาลที่ได้ไปมีการนำไปลงทุนในธุรกิจโรงพยาบาล เวสเนส และที่จมทุนมากที่สุดถือการเก็งกำไรซื้อที่ดิน ในพื้นที่ EEC และที่ดินภาคใต้ตามมติครม.ปี 2565 ให้พื้นที่จังหวัดชุมพร จังหวัดระนอง จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นระเบียงฯ ภาคใต้ หรือ Southern Economic Corridor: SECเพื่อพัฒนาเป็นศูนย์กลางของภาคใต้ในการเชื่อมโยงการค้าและโลจิสติกส์กับพื้นที่เศรษฐกิจหลักของประเทศ และภูมิภาคฝั่งทะเลอันดามัน (BIMSTEC) เป็นฐานการพัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพและการแปรรูปเกษตรมูลค่าสูง และเพื่อยกระดับคุณภาพและมาตรฐานการท่องเที่ยวสู่นานาชาติ
กลายเป็นกับดัก “หมอดัง” เข้าไป กว้านซื้อที่ดินภาคใต้มาไว้ในมือนับหมื่นล้านบาท เมื่อทุนจมโครงการไม่ได้ดำเนินการตามที่คาดการณ์ไว้ บวกกับการเปลี่ยนแปลงการเมืองทำให้เงินขาดมือ บรรดาเจ้าหนี้ทวงถามดอกเบี้ยจนลุกลามไปยังขอหนี้คืนทั้งหมด แต่สุดท้ายกลายเป็นเอกสารหุ้นที่นำมาค้ำประกัน รวมทั้งสินทรัพย์อื่นมีการปลอมแปลงเอกสาร ทำเอาโรงพยาบาลระส่ำมีการเปลี่ยนกรรมการ - ผู้บริหารยกชุด
สุดท้ายเรื่องใหญ่ที่ไม่สามารถปิดเงียบได้ เริ่มมีการกลับมาพูดถึงการกระทำของ “หมอดัง” คนดังกล่าวที่สร้างความเสียหายให้กับเจ้าหนี้ ครอบครัว และน่าจะต้องจับตาไปยังกิจการโรงพยาบาลยังเผชิญความเสี่ยงอะไรอีกบ้างหลังไตรมาส 3 ปี 2567 ประสบตัวเลขขาดทุนหนักจากการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ
ส่วน “เจ้าตัว” หนีหายไปต่างประเทศเป็นที่เรียบร้อย