THAI เคาะราคาเพิ่มทุนผู้ถือหุ้นเดิม 4.48 บาท 9,822 ล้านหุ้นจองซื้อ 6-12 ธ.ค.

THAI เคาะราคาเพิ่มทุนผู้ถือหุ้นเดิม 4.48 บาท 9,822 ล้านหุ้นจองซื้อ 6-12 ธ.ค.

THAI เคาะเพิ่มทุนผู้ถือหุ้นเดิม 9,822 ล้านหุ้น กำหนดอัตรา 1 หุ้นสามัญเดิมต่อ 4.5 หุ้นสามัญเพิ่มทุน ที่ราคา 4.48 บาท กำหนดวันจองจองซื้อและชำระค่าหุ้น  6 -12 ธ.ค. 67 หลังเจ้าหนี้ 3 กลุ่มเพิ่มทุนรวม 15,851 ล้านบาท

              บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI  แจ้งการแปลงหนี้เป็นทุนตามแผนฟื้นฟูกิจการ (Mandatory Conversion) และผลการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน  ดังนี้   
            ส่วนที่ 1. การแปลงหนี้เป็นทุนตามแผนพื้นฟูกิจการ (Mandatory Conversion)
ตามที่กำหนดในแผนฟื้นฟูกิจการ ข้อ 5.6.3 (ข) ซึ่งกำหนดให้บริษัทฯ จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อรองรับ
การแปลงหนี้เป็นทุนซึ่งเป็นหน้าที่ของเจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ (Mandatory Conversion) ของเจ้าหนี้กลุ่มที่ 4เจ้าหนี้กลุ่มที่ 5 เจ้าหนี้กลุ่มที่ 6 และเจ้าหนี้ผู้ถือหุ้นกู้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ

          ในการนี้ ที่ประชุมคณะผู้บริหารแผนได้มีมติอนุมัติให้มีการดำเนินการแปลงหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการของเจ้าหนี้ซึ่งปรากฎรายชื่อเป็นเจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ ณ วันที่ 28 ตลาคม 2567 เป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุน ภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการ โดยคำนวณจากภาระหนี้เดิมตามแผนฟื้นฟูกิจการ ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567 ซึ่งมีจำนวนรวมทั้งสิ้น 37,601 ล้านบาท

          โดยหากคำนวณแล้วมีจำนวนหนี้ที่เจ้าหนี้รายใดจะได้รับหุ้นไม่เต็มจำนวน 1 หุ้น อันเกิดจากการหารที่ไม่ลงตัว ให้ปัดเศษของหุ้นทิ้ง ซึ่งภายหลังจากการคำนวณตามวิธีดังกล่าวแล้ว เจ้าหนี้จะได้รับจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจากการแปลงหนี้เป็นทุนซึ่งเป็นหน้าที่ของเจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ (Mandatory Conversion) ตามแผนฟื้นฟูกิจการ จำนวนรวมทั้งสิ้น 14,773,659,802 หุ้น ทั้งนี้ ภายหลังการจัดสรรหุ้นดังกล่าวแล้ว มีหุ้นสามัญเพิ่มทุนคงเหลือภายหลังการจัดสรรสำหรับการแปลงหนีเป็นทุนตามแผนฟื้นฟูกิจการ เป็นจำนวนรวมทั้งสิ้น 88,709,831 หุ้น
 

          ส่วนที่ 2 ผลการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจากการแสดงเจตนาใช้สิทธิแปลงหนี้เป็นทุนของเจ้าหนี้กลุ่มที่ 4
เจ้าหนี้กลุ่มที่ 5 เจ้าหนี้กลุ่มที่ 6 และเจ้าหนี้ผู้ถือหุ้นกู้ตามแผนฟื้นฟูกิจการตามที่เจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการที่มีสิทธิแปลงหนี้เป็นทุนได้แสดงเจตนาใช้สิทธิแปลงหนี้เป็นทุนโดยสมัครใจในระหว่างวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 ถึงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 บริษัทฯ ขอแจ้งให้ทราบว่าเจ้าหนี้ที่ได้แสดงเจตนาใช้สิทธิแปลงหนี้เป็นทุนสามารถตรวจสอบผลการจัดสรรหุ้นของตนได้ที่เว็บไซต์ของบริษัทฯ ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป
          ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอแจ้งผลการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจากการแสดงเจตนาใช้สิทธิแปลงหนี้เป็นทุนของ
เจ้าหนี้กลุ่มที่ 4 เจ้าหนี้กลุ่มที่ 5 เจ้าหนี้กลุ่มที่ 6 และเจ้าหนี้ผู้ถือหุ้นกู้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ โดยมีรายละเอียดดังนี้

          1. การแปลงหนี้เดิมเป็นทุนเพิ่มเติมโดยสมัครใจของเจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ (Voluntary
Conversion)เนื่องจากจำนวนหุ้นสามัญเพิ่มทุนซึ่งเจ้าหนี้ได้แสดงเจตนาใช้สิทธิแปลงหนี้เดิมเป็นทุนเพิ่มเติมตามแผนฟื้นฟูกิจการ  (Voluntary Conversion) มีจำนวนรวมมากกว่าจำนวนหุ้นสามัญเพิ่มซึ่นซึ่ง
จัดสรรไว้เพื่อรองรับการใช้สิทธิแปลงหนี้เป็นทุนตามแผนฟื้นฟูกิจการ 

       บริษัทฯ จึงได้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่เจ้าหนี้ที่ใช้สิทธิแปลงหนี้เป็นทุนตามสัดส่วนภาระหนี้เงินต้นต้นของเจ้าหนี้แต่ละรายตามแผนฟื้นฟูกิจการ (pro rata basis) โดยหากคำนวณแล้วมีจำนวนหนี้ที่จะได้รับหุ้นหุ้นไม่เต็มจำนวน 1 หุ้น อันเกิดจากการหารที่ไม่ลงตัว ให้ปัดเศษของหุ้นทิ้ง โดยบริษัทฯ ได้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนรวมทั้งสิ้น 4,911,236,792 หุ้น ให้แก่เจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการที่ได้แสดงเจตนาใช้สิทธิแปลงหนี้เดิมตามตามแผนฟื้นฟูกิจการเป็นทุนเพิ่มเติม คิดเป็นภาระหนี้ที่ได้มีการใช้สิทธิแปลงหนี้เป็นทุนตามแผนฟื้นฟูกิจการ จำนวนรวมทั้งสิ้น 12,500,079,881.78 บาท

       โดยภายหลังจากการจัดสรรหุ้นตามวิธีการดังกล่าวแล้ว มีหุ้นสามัญเพิ่มทุนคงเหลือภายหลังการจัดสรรอันเกิดจากการปัดเศษของหุ้นในกระบวนการใช้สิทธิแปลงหนี้เป็นทุนตามแผนฟื้นฟูกิจการ  เป็นจำนวนรวมทั้งสิ้น 21 หุ้น

          2. การใช้สิทธิแปลงหนี้ดอกเบี้ยใหม่ตั้งพักเป็นทุนโดยสมัครใจของเจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ
บริษัทฯ ได้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนรวมทั้งสิ้น 1,304,549,684 หุ้น (สุทธิหลังการหักภาษี ณ
ที่จ่าย) ให้แก่เจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการที่ได้แสดงเจตนาใช้สิทธิแปลงหนี้ดอกเบี้ยใหม่ตั้งพักเป็นทุน คิดเป็นภาระหนี้ที่ได้มีการใช้สิทธิแปลงหนี้เป็นทุนตามแผนฟื้นฟูกิจการ จำนวนรวมทั้งสิ้น 3,351,213,177.95 บาท
          โดยเจ้าหนี้ทุกรายที่ได้แสดงเจตนาใช้สิทธิแปลงหนี้ดอกเบี้ยใหม่เป็นทุนได้รับการจัดสรรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามจำนวนหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เจ้าหนี้ได้แสดงเจตนาใช้สิทธิ  ทั้งนี้ ภายหลังจากการจัดสรรหุ้นดังกล่าวแล้ว มีหุ้นสามัญเพิ่มทุนคงเหลือภายหลังการจัดสรรสำหรับ การใช้สิทธิแปลงหนี้เป็นทนตามแผนฟื้นฟูกิจการ เป็นจำนวนรวมทั้งสิ้น 599,058,492 หุ้น 

          ในการนี้ แผนฟื้นฟูกิจการ ข้อ 5.6.7 กำหนดให้ผู้บริหารแผนมีอำนาจดำเนินการลดทุนจดทะเบียน
เพื่อตัดหุ้นสามัญเพิ่มทุนส่วนที่ไม่มีการจัดสรรสำหรับการแปลงหนี้เป็นทุนตามแผนฟื้นฟูกิจการ ข้อ 5.6.3 (ก)
ข้อ 5.6.3 (ข) และข้อ 5.6.3 (ค) จำนวนรวมทั้งสิ้น 687,768,344 หุ้น ดังกล่าว (รวมทั้งหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ไม่ได้มีการจัดสรรภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการ ข้อ 5.6.4) ได้ต่อไปตามที่ผู้บริหารแผนเห็นสมควร

          ส่วนที่ 3 การมีผลใช้บังคับของแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และหนังสือชี้ชวนสำหรับการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมก่อนการปรับโครงสร้างทุนและพนักงานภายใต้แผนพื้นฟูกิจการตามที่บริษัทฯ ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบ 69-1) และร่างหนังสือชี้ชวนของบริษัทฯ (รวมเรียกว่า "แบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ฯ")

         สำหรับการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ก่อนการปรับโครงสร้างทุนตามแผนฟื้นฟูกิจการและพนักงานของ บริษัทฯต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ("สำนักงาน ก.ล.ต.") และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2567 ดังมีรายละเอียดปรากฏตามเอกสารที่อ้างถึง 1. 2. 2. ข้างต้นนั้น

         บริษัทฯขอแจ้งให้ทราบว่า แบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ฯ สำหรับการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุมทุนภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการให้แก่ (ก) ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ก่อนการปรับโครงสร้างทุนตามแผนฟื้นฟูกิจการที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ กล่าวคือ ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ซึ่งมีที่อยู่ในการจัดส่งเอกสารในประเทศไทยตามข้อมูลที่ปรากฏในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567 ("ผู้ถือหุ้นเดิมซึ่งมีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นฯ") และ (ข) พนักงานของบริษัทฯ ที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ่นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ("พนักงานของบริษัทฯ") (ก) และ (ข) รวมเรียกว่า "การเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนตามแผนฯ") ได้มีผลใช้บังคับแล้วเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2567

           ในการนี้ บริษัทฯ ขอแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนตามแผนฯ ให้แก่ ผู้ถือหุ้นเดิมซึ่งมีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นฯ ดังนี้
         1.จำนวนหุ้นเพิ่มทุมสุดท้ายที่จะเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมซึ่งมีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นฯ
ตามที่กำหนดในแผนฟื้นฟูกิจการ หุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ที่จะเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ซึ่งมี
สิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นฯ ประกอบด้วย (ก) หุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 9,822,473,626 หุ้น ซึ่งแผนฟื้นฟูกิจการ
ข้อ 5.6.4 กำหนดให้จัดสรรและเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมซึ่งมีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นฯ

           และ (ข) หุ้นสามัญเพิ่มทุนทุนทุนที่เหลือจากการจัดสรรเพื่อรองรับการใช้สิทธิแปลงหนี้เป็นทุนโดยสมัครใจของเจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ (VoluntaryConversion) ตามแผนฟื้นฟูกิจการ ข้อ 5.6.3 (ก) (หากมี)ในการนี้ เนื่องไม่มีหุ้นสามัญเพิ่มทุนคงเหลือจากการใช้สิทธิแปลงหนี้เป็นทุนโดยสมัครใจของเจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ (Voluntary Conversion) ตามแผนฟื้นฟูกิจการ ข้อ 5.6.3 (ก) ดังนั้น หุ้นสามัญเพิ่มของ บริษัทฯสุดท้ายที่จะเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ซึ่งมีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นฯ มีจำนวนรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 9,822,473,626 ทุน
           2. อัตราการใช้สิทธิจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน (Ratio)อัตราการใช้สิทธิจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน (Rato) เท่ากับ 1 หุ้นสามัญเดิมของบริษัทฯ 4.5 หุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ซึ่งผู้ถือหุ้นเดิมซึ่งมีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นฯ สามารถจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนได้ทั้งตามสัดส่วนการถือหนของตนและการจองชื่อเกินกว่าสิทธิ (Oversubscription) โดยในกรณีที่มีเศษของหุ้นที่เป็นทศนิยมที่เกิดจากการคำนวณ ให้ปัดเศษของหุ้นนั้นทิ้งทั้งทั้งจำนวน
         ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นเดิมซึ่งมีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นฯ ที่แสดงความจำนงจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนเกินกว่าสิทธิ
จะได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนในส่วนที่แสดงความจำนงจองซื้อเกินกว่าสิทธิ ก็ต่อเมื่อผู้ถือหุ้นเดิมซึ่งมีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นฯที่ได้จองซื้อตามสิทธินั้นได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามสัดส่วนการถือหุ้นก่อนการปรับโครงสร้างทุนที่ได้จองซื้อตามสิทธิครบถ้วนทั้งหมดและยังมีหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เหลืออยู่ภายหลังจากการจัดสรรหุ้นตามสิทธิแล้วเท่านั้น

        โดยบริษัทฯ จะจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนส่วนที่จองชื่อเกินกว่าสิทธิ ตามสัดส่วนการถือหุ้นเดิมหรือผู้ลงทุนสถาบันหรือลูกค้าที่มีบัญชีหลักทรัพย์กับผู้จัดการการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์เท่านั้น) หรือตัวแทนจำหน่ายหลักทรัพย์ หรือ (2) การจองซื้อผ่านระบบออนไลน์ (Online) ของตัวแทนจำหน่ายหลักทรัพย์
(ผ่านระบบ Money Connect by Krungthai u Krungthai NEXT Application หรือผ่างเว็บไซต์
https//moneyconnect.krungthai.com)