MVP รับขาดสภาพคล่อง-ค้างหนี้ เร่งปรับโครงสร้างหนี้แล้วเสร็จรวม 23 ล้าน

MVP รับขาดสภาพคล่อง-ค้างหนี้ เร่งปรับโครงสร้างหนี้แล้วเสร็จรวม 23 ล้าน

MVP ยอมรับขาดสภาพคล่องจนผิดนัดชำระหนี้สถาบันการเงิน 2 แห่งรวม 23 ล้านบาท จนต้องเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้จนแล้วเสร็จปรับอัตราดอกเบี้ยเป็น MLR และ MOR ต่อปี และ การแบ่งจ่ายชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยคงค้างเป็นรายงวด

        นายโอภาส เฉิดพันธุ์    ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MVP แจ้งการปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงินตามหมายเหตุประกอบงบการเงินข้อ 11 เรื่อง เงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงิน ในระหว่างงวดสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2567 บริษัทผิดนัดชำระเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง ซึ่งมียอดคงเหลือ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 จำนวน 4.12 ล้านบาท

 

         จากปัญหาสภาพคล่องชั่วคราวตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2567 โดยการผิดเงื่อนไขของสัญญาเงินกู้ยืมดังกล่าว จึงถือว่าเป็นเหตุแห่งการผิดเงื่อนไขในสัญญาเงินกู้กับสถาบันการเงินอีกแห่งหนึ่งซึ่งมียอดคงเหลือ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 จำนวน 20.58 ล้านบาท ต่อมาในเดือน สิงหาคม 2567

        บริษัทได้ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงิน เพื่อแก้ไขเงื่อนไขในสัญญาเงินกู้ซึ่งประกอบด้วยการเลื่อนกำหนดระยะเวลาการชำระหนี้และปรับอัตราดอกเบี้ยภายใต้สัญญาเงินกู้ ซึ่งได้เผยแพร่ไปแล้วนั้น

          บริษัทขอชี้แจงว่าบริษัทได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงินสำเร็จเรียบร้อยแล้ว โดยไม่มีสถานะการผิดนัดชำระหนี้แต่อย่างใด โดยมีรายละเอียดดังนี้

     

MVP รับขาดสภาพคล่อง-ค้างหนี้ เร่งปรับโครงสร้างหนี้แล้วเสร็จรวม 23 ล้าน MVP รับขาดสภาพคล่อง-ค้างหนี้ เร่งปรับโครงสร้างหนี้แล้วเสร็จรวม 23 ล้าน

 

 

          ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 บริษัทมีวงเงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงินที่ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้รวมเป็น จำนวน 23,024,917.27 บาท (ยี่สิบสามล้านสองหมื่นสี่พันเก้าร้อยสิบเจ็ดบาทยี่สิบเจ็ดสตางค์)

          โดยการดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ดังกล่าว ส่งผลให้เกิดการปรับอัตราดอกเบี้ยเป็น MLR และ MOR ต่อปี และ การแบ่งจ่ายชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยคงค้างเป็นรายงวด ซึ่งช่วยให้บริษัทมีความสามารถในการจัดการหนี้สินได้อย่างมี ประสิทธิภาพและเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินการดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ดังกล่าวถือเป็นผลประโยชน์ต่อบริษัท

          อีกทั้งไม่ก่อให้เกิดผลกระทบเชิงลบต่อฐานะทางการเงินของบริษัท เนื่องจากบริษัทยังคงมีสภาพคล่องทางการเงินเพียงพอสำหรับการชำระหนี้ตามแผนการที่กำหนด นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงดำเนินการพัฒนากลยุทธ์เพิ่มเติมเพื่อเพิ่มสภาพคล่องและสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินในระยะยาว