หุ้น RS ดิ่งฟลอร์ 3 วันติด มาร์เก็ตแคปวูบ 6 พันล้าน พบออเดอร์ขายกว่า 200 ล้านหุ้น

หุ้น RS ดิ่งฟลอร์ 3 วันติด มาร์เก็ตแคปวูบ 6 พันล้าน พบออเดอร์ขายกว่า 200 ล้านหุ้น

หุ้น RS ดิ่งฟลอร์ 3 วันติด มาร์เก็ตแคปวูบ 6 พันล้าน พบออเดอร์ขายกว่า 200 ล้านหุ้น นักวิเคราะห์ระบุ ผลการดำเนินงานอ่อนแอ หลังประสบวิกฤติเศรษฐกิจ การแข่งขันอีคอมเมิร์ซสูง ผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรม

ความเคลื่อนไหว "ตลาดหุ้นไทย" ภาคเช้า ณ วันที่ 9 ม.ค.68 เวลา 10.35 น.หุ้น RS หรือ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ดิ่งฟลอร์ต่อเป็นวันที่ 3 ที่ 30% หรือราคาลดลง 0.78 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 1.82 บาท ส่งผลให้มาร์เก็ตแคปลดลงไป 6,110.21 ล้านบาท 

หุ้น RS ดิ่งฟลอร์ 3 วันติด มาร์เก็ตแคปวูบ 6 พันล้าน พบออเดอร์ขายกว่า 200 ล้านหุ้น

ดิษฐนพ วัธนเวคิน นักวิเคราะห์อาวุโส บล.กรุงศรี เปิดเผยกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า หลังจากที่ RS มีการแจ้งตลาดว่า ราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงมามากเกิดจากกลไกของตลาด และปัจจัยภายนอก ดังนั้นยังคงต้องติดตามในการตรวจสอบของ RS ว่ามีทิศทางอย่างไร แต่ถ้าดูจากราคาหุ้นที่เปิดมาแล้วฟลอร์มีการสั่งขายจำนวนหุ้นค่อนข้างเยอะ วันนี้ (9 ม.ค.68) มีค่าขายที่ราคาต่ำสุดด้วยจำนวนหุ้นกว่า 200 กว่าล้านหุ้น ซึ่งค่อนข้างมีแนวโน้มว่าผู้ถือหุ้นอาจจะมีการโดนบังคับขายออกมา จึงมีการตั้งคำสั่งขายรอไว้ค่อนข้างเยอะที่ราคาฟลอร์จากราคาหุ้นที่ปรากฏในการซื้อขายทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงมา

ทั้งนี้ เมื่อกลับมาดูที่ผลการดำเนินงานช่วงที่ผ่าน RS ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี และพฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่ง RS มีการพึ่งพิงธุรกิจหลักๆ อยู่ 2 ส่วนๆ แรกธุรกิจคอมเมิร์ซได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ และการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นที่มีการขายสินค้าผ่านทางสื่อทีวี หรือเทเลเซลล์ ซึ่งที่ผ่านมารายได้มีการลดลงมาเรื่อยๆ 

ขณะที่ธุรกิจเอนเทอร์เทนส์ ที่เกี่ยวกับธุรกิจสื่ออย่างสื่อทีวีที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงจากพฤติกรรมผู้บริโภคมีการดูทีวีน้อยลงทำให้เม็ดเงินสื่อโฆษณาทีวีน้อยลง

ซึ่งถ้าไปดูผลประกอบการไตรมาส 3/67 มีกำไรสุทธิ 189 ล้านบาท ซึ่งมีกำไรพิเศษจากขายเงินลงทุน ซึ่งถ้าไม่รวมจะมีผลจากการดำเนินงานปกติ 301 ล้านบาท จะเห็นภาพชัดว่า ธุรกิจค่อนข้างเหนื่อยจากภาวะเศรษฐกิจ และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค โดยในช่วงที่ผ่านมา RS มีการปรับโครงสร้างเพื่อที่จะรับกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าไตรมาส 4/67 จะเป็นไฮซีซันของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และธุรกิจเอนเทอร์เทนเมนต์ ที่มีการจัดคอนเสิร์ตมากขึ้น แต่ด้วยไตรมาส 3/67 ขาดทุนกว่า 300 ล้านบาท แต่คาดการณ์ว่า ไตรมาส 4/67 จะยังขาดทุนอยู่แต่อาจจะขาดทุนลดลงจากไตรมาส 3/67 

ขณะที่ ฐานะทางการเงินไตรมาส 3/67 มีหนี้สินที่มีดอกเบี้ย 3,839 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินกู้ระยะสั้น 1,507 ล้านบาท เงินกู้ระยะยาว 1,835 ล้านบาท ครบกำหนด 1 ปี 502 ล้านบาท และหนี้สินสัญญาเช่าทางการเงิน 497 ล้านบาท และมีส่วนของผู้ถือหุ้น 3,141 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนหนี้สินที่มีดอกเบี้ยต่อทุน 1.5 เท่า เรามองว่าฐานะการเงินไม่แข็งแรงนักภายใต้สภาวะที่ผลการดำเนินงานยังมีแนวโน้มขาดทุน

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ช่วง RS ผลการดำเนินงานไม่ค่อยดีนัก เรายังคงไม่มีคำแนะนำและราคาเป้าหมาย หากเริ่มมีการปรับโครงสร้างธุรกิจ และมีแนวโน้มการฟื้นตัวจะกลับมาให้คำแนะนำ และราคาเป้าหมายอีกครั้ง 

"RS มีความพยายามที่จะปรับโครงสร้าง แต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา แต่การปรับโครงสร้างไม่ประสบความสำเร็จ รวมถึงความกังวลหุ้นที่มีการโดนบังคับขายออกมาจากบุคคลที่นำหุ้นไปค้ำประกัน เมื่อไปดูข้อมูลที่มีการเปิดเผยจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ล่าสุดเดือนพ.ย.67 ของผู้ถือหุ้นทุกคนมีการนำหุ้นไปวางหลักทรัพย์ค้ำประกันในบัญชีมาร์จินของลูกค้า"


 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์