อสังหาฯ ภูเก็ตเดือด"ชาญอิสสระ" งัดทำเล-ต้นทุน-แบรนด์ดันยอดขาย

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังเป็นธุรกิจที่เผชิญปัจจัยลบจากเศรษฐกิจในประเทศอันดับต้นๆ จากกำลังซื้อภายในประเทศลดลง  หนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น แต่รายได้ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นได้น้อย จนเกิดสถานการณ์ผู้ประกอบการอสังหาฯ เปิดโครงการในปีนี้น้อยลงและเน้นกลุ่มตลาดเซกเมนต์ที่มีความแน่นอนด้านกำลังซื้อโดยเฉพาะกลุ่มตลาดต่างประเทศทั้งซื้ออาศัยและเพื่อการลงทุน 

หากพูดถึงพื้นที่มีศักยภาพเป็น  Strategic Locations โฟกัสไปจังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยม “ภูเก็ต” เป็นตลาดรวมผู้ประกอบการอสังหาฯ ที่โหมการแข่งขันเข้าไปจับตลาดลักชูรี่กันอย่างหนาแน่น      “สงกรานต์ อิสสระ”   ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร    บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ CI เป็นผู้นำตลาดลักชูรี่อันดับต้นตลาดอสังหาฯ เข้าไปทำตลาดนี้ภายใต้เรือธงแบรนด์ “ศรีพันวา ” ยังต้องระมัดระวังออกโครงการมากขึ้น

 "ตลาดพรีเมี่ยม-ลักชูรี่วันนี้ต่างกับอดีตที่ซัพพลายมีน้อย พอผ่านไป 30 ปีตอนนี้ทุกเจ้าเข้ามาทำโครงการตลาดนี้จำนวนมากเลยทำให้สินค้าล้นเพราะคนซื้อก็มีจำนวนเท่าเดิม  กลุ่มชาญอิสสระเน้นตลาดพรีเมียมมาตั้งแต่แรกต้องทำสินค้าและบริหารอย่างระมัดระวัง จะเปิดโครงการและก่อสร้างจำนวนมากไม่ได้แล้วเพราะการเร่งยอดขายเริ่มทำได้ช้าลง "

มุมมองทำอสังหาฯ 48 ปีที่ผ่านมาสามารถนิยามตลาดอสังหาฯ วันนี้คำว่า “ซบเซา”  ได้เลยเพราะเป็นเกือบทุกตลาดในแต่ละเซกเมนต์ แม้แต่ตลาดเซกเมนต์ระดับบนหรือพรีเมียมเริ่มเห็นว่ามีผู้ประกอบการหลายรายเข้ามาทำเยอะขึ้น  แต่ภาพรวมตลาดโตช้าลงและเป็นมาหลายปี  ยิ่งวันนี้ยังไม่มีอะไรใหม่มากระตุ้น ทางรัฐบาลยังไม่ได้ทำอะไรมากในด้านนโยบาย ซึ่งเห็นชัดสุดถือการแจกเงินแต่ไม่ได้กระตุ้นเศรษฐกิจมากด้วยเม็ดเงินที่ใช้ไม่ได้มีผลมาก 

ฐานะผู้ประกอบการอยากเห็นมาตรการหนุนธุรกิจออกมา ปัจจุบันมีมาตการต่ออายุลดค่าธรรมเนียมแต่ยังได้ผลน้อย หากต้องการกระตุ้นกำลังซื้อที่อยู่อาศัยยังต้องมี “มาตรการมากกว่านี้และต้องทำพร้อมๆกัน” เพราะความท้าทายธุรกิจวันนี้อยู่ที่กำลังซื้อหดหายและเกิดกับทุกภาคส่วนด้วย

หากลงมาดูตลาดเซกเมนต์ล่าง-กลาง เจอกู้ไม่ผ่าน แบงก็ไม่ปล่อยกู้ จากหนี้ครัวเรือนสูงทำให้กู้ได้ยาก ถัดขึ้นมาตลาดเซกเมนต์กลางบน  10 -50 ล้านบาท ซัพพลายเหลือเยอะมากเลยทำให้ตลาดโตช้าตามไปด้วย  ดังนั้นเมื่อซัพพลายล้นแบบนี้หลายเจ้าก็ไม่อยากออกโครงการใหม่มาก   ดูแล้วก็มีความน่าเป็นห่วงธุรกิจอสังฯในทุกเซกเมนต์และเทียบกันแล้วคล้ายกับช่วง “วิกฤติฟองสบู่ปี 2540” แต่เป็นการกระทบคนละด้านเพราะวันนี้ี้แบงก์ไม่ได้ล้มยังแข็งแรงแต่ธุรกิจอื่นกลับไม่แข็งแรงแทน

“ตลาดอสังหาฯภูเก็ต ตอนนี้ยังเป็นตลาดปลอดภัยเพราะกำลังซื้อยังดีอยู่ ต้องมาสู้ที่ทำเลและต้นทุนที่มียังถูกกว่ารายใหม่เข้ามาแข่งขันบวกกับแบรนด์ศรีพันวาเป็นที่ต้องการของลูกค้าไทยและต่างชาติ มีสัดส่วนลูกค้าต่างชาติ 70 % คนไทย 30 % และจับตลาดลักชัวรี่มาตั้งแรกยังทำยอดขายไปได้อยู่เพียงแต่ภายใต้คู่แข่งเพิ่มมากขึ้น” 

 รวมทั้งการเตรียมพร้อม “สภาพคล่อง” ไว้ในมือรองรับอนาคตทั้งเร่งยอดขาย หาสภาพคล่องเพิ่มเติมด้วยการนำสินทรัพย์เข้ากองทุนปีนี้มีตึกออฟฟิคชาญอิสสระ 1 และ 2 บางส่วน มูลค่าประมาณ 170 ล้านบาท พิจารณาสินทรัพย์ส่วนศรีพันวาเข้ากองทุนและการออกหุ้นกู้ 

“ดิฐวัฒน์  อิสสระ” กรรมการและผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มชาญอิสสระ แนวงโน้มการเติบโตปี 2568 เตรียมเปิดโครงการใหม่มูลค่ารวมกว่า 16,000 ล้านบาท เป็นลักชัวรี่คอมมูนิตี้ ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เริ่มจากบริเวณพระราม 9 - กรุงเทพกรีฑา มี 2 โครงการ คือโครงการ อิสสระ เรสซิเดนท์บนที่ดิน 19 ไร่ จำนวน 23 ยูนิต และโครงการ บ้านอิสสระบนที่ดิน 21 ไร่ จำนวน 67 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 5,123 ล้านบาท 

โครงการมิกซ์ยูส บนเกาะภูเก็ต “ศรีพันวา ลากูน”บนที่ดิน 62 ไร่ มูลค่าโครงการ 8,000 ล้านบาท ที่มีทั้งโรงแรมหรู วิลล่า และคอมมูนิตี้ ย่านเชิงทะเล, The Sky Series เวิลด์คลาสลักชัวรี่วิลล่า บนที่ดินกว่า 2 ไร่ จำนวน 4 หลัง มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท  ,โครงการ อิสสระ วิลล์ หัวหิน (ISSARA VILLE)ลักชัวรี่พูลวิลล่า หัวหิน บนที่ดิน 4 ไร่ จำนวน 8 ยูนิต มูลค่าโครงการ 144 ล้านบาท รวมถึงโครงการ ซาซ่าส์ หัวหิน (SASA HUA HIN)A NEW STYLISH BEACH CONDOMINIUM บนที่ดิน 3 ไร่ จำนวน 248 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,706 ล้านบาท ที่ได้ทั้งวิวทะเล และวิวสนามกอล์ฟ

สำหรับธุรกิจโรงแรม มุ่งหน้าขยายสู่ Wellness ระดับ World Class โดยความร่วมมือกับ BDMS เพื่อ ให้ศรีพันวาเป็นที่พักผ่อน ผสมผสานไปกับการดูแลสุขภาพกายและใจ ให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) อย่างแท้จริง

โดย โรงแรมศรีพันวา ภูเก็ต เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ BDMS Wellness Clinic ถือว่าเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งที่สุดในไทย  ด้าน Wellness  ในการมอบประสบการณ์ด้านสุขภาพที่ครอบคลุมร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ ผสานความเป็นเลิศ ทางการแพทย์ และการดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคล ภายใต้การดูแลของ BDMS Wellness Clinic เข้ากับ การพักผ่อนที่หรูหราและสงบสุขของศรีพันวา เพื่อการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน และฟื้นฟูความสมบูรณ์ ของร่างกายอย่างเต็มรูปแบบ โดยมีโปรแกรมดูแลสุขภาพ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้บริการ อย่างใกล้ชิด ลดการใช้สารเคมี เน้นการใช้ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก ส่งเสริมการรับประทานอาหารที่ดี ต่อสุขภาพ การออกกำลังกาย และใช้ชีวิตที่คำนึงถึงธรรมชาติ

นอกจากนี้ ยังเตรียมพัฒนาโปรดักส์ใหม่ในกลุ่มของ “ธุรกิจดูแลสุขภาพผิว”  ภายใต้แบรนด์ “BABA SKIN CLUB”  ด้วยแนวคิด Skin Vacation นวัตกรรมใหม่เพื่อให้ผิวได้รับการบำรุง, พักผ่อน ซึ่งใช้ สารสกัดจากธรรมชาติมาเป็นส่วนผสม โดยคาดว่าจะเปิดตัวในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2568 โดยมี คุณกรัชเพชร อิสสระ รับตำแหน่ง เป็นแบรนด์ไดเร็กเตอร์ ของผลิตภัณฑ์ BABA SKIN CLUB  นำร่องเป็นผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดเป็นชุดแรก ที่คำนึงถึงกลุ่มลูกค้าทุกเพศ ทุกวัย ให้สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ได้จบครบในหลอดเดียว ทั้งปกป้อง ดูแล ฟื้นฟู ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

อย่างไรก็ตามจากนโยบาย และกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่กล่าวไปข้างต้น กลุ่มชาญอิสสระเชื่อมั่นว่า จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหนุน ให้สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ในการมุ่งสู่การพัฒนาธุรกิจ ตรงตามนิยามความเป็นชาญอิสสระ“Live Excellence”