ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ ร่วงลง 1,500 จุด ไร้ข่าวดีเลื่อนภาษีทรัมป์

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ ร่วงลง 1,500 จุดในวันอาทิตย์ ตลาดร่วงลงต่ออย่างหนักจากนโยบายภาษีศุลกากรของทรัมป์ ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดจะเผชิญกับภาวะเลวร้ายอีกครั้งในวันจันทร์
ซีเอ็นบีซี รายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ ร่วงลง 1,531 จุด หรือ 4% ในเย็นวันอาทิตย์(6 เม.ย.) ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดจะเผชิญกับภาวะเลวร้ายอีกครั้งในวันจันทร์ โดย ดัชนี S&P 500 ฟิวเจอร์ ร่วงลง 4% และ ดัชนี Nasdaq-100 ฟิวเจอร์ ร่วง 4%
ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์สร่วงลงติดต่อกันมากกว่า 1,500 จุดเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งรวมถึงร่วงลง 2,231 จุดในวันศุกร์
ดัชนี S&P 500 ร่วงลง 6% ในวันศุกร์ ซึ่งถือเป็นผลงานที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 ในเดือนมีนาคม 2020 โดยดัชนีดังกล่าวร่วงลง 10% ใน 2 วัน ทำให้ดัชนีลดลงมากกว่า 17% จากระดับสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งใกล้เคียงกับระดับตลาดหมีที่ 20%
ดัชนี Nasdaq Composite เข้าสู่ภาวะตลาดหมีในวันศุกร์ ซึ่งลดลง 22% จากระดับสูงสุด หลังจากร่วงลงเกือบ 6% ในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์
นักลงทุนไม่ได้รับข่าวดีในช่วงสุดสัปดาห์ โดยพวกเขาหวังว่ารัฐบาลทรัมป์จะเจรจากับประเทศต่างๆ เพื่อลดอัตราดอกเบี้ยได้สำเร็จ หรืออย่างน้อยที่สุดก็พิจารณาเลื่อนกำหนดการจัดเก็บภาษีแบบตอบโต้ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 เมษายนออกไป แต่ประธานาธิบดีและที่ปรึกษาหลักของเขากลับลดความสำคัญของการเทขายหุ้นลง
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทรัมป์โพสต์ข้อความลงบแพตลฟอร์มโซเชียลมีเดียTruth Social ว่าขอให้ทุกคน “อดทนยืนหยัด” และนี่คือ “การปฏิวัติทางเศรษฐกิจ”
ฮาวเวิร์ด ลัทนิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวกับทีวีซีบีเอสนิวส์ว่าจะไม่เลื่อนการจัดเก็บภาษีออกไป “ภาษีศุลกากรกำลังจะมา... ภาษีเหล่านี้จะคงอยู่ไปอีกหลายวันหลายสัปดาห์”
รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสก็อตต์ เบสเซนต์ กล่าวกับเอ็นบีซี นิวส์ว่า มีประเทศต่างๆ มากกว่า 50 ประเทศติดต่อขอเจรจากับฝ่ายบริหาร แต่เตือนว่า “พวกเขาเป็นพวกไม่ดีมานานแล้ว และไม่ใช่สิ่งที่จะเจรจาให้เลิกได้ในไม่กี่วันหรือไม่กี่สัปดาห์”
หวั่นวงจรอุบาทว์
นักลงทุนต่างประหลาดใจกับอัตราภาษีสูงที่เรียกเก็บจากคู่ค้าหลายประเทศ ซึ่งดูเหมือนว่าจะใช้สูตรที่ไม่มีเหตุผลตามทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการยอมรับ นักลงทุนรู้สึกสับสนยิ่งขึ้นเมื่อจีนตัดสินใจตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ ทั้งหมด 34% แทนที่จะเจรจากันในวันศุกร์
“วันปลดแอกของทรัมป์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ก่อให้เกิดวันแห่งการทำลายล้างในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ โดยนักลงทุนในตลาดหุ้นไม่เห็นด้วยกับนโยบายเก็บภาษีทรัมป์” เอ็ด ยาร์เดนี ประธานและหัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุนของ Yardeni Research เขียนไว้ในบันทึกถึงลูกค้าเมื่อวันอาทิตย์
ในขณะที่ฝ่ายบริหารกล่าวว่าอย่างน้อย 50 ประเทศได้เสนอตัวเข้ามาเพื่อเริ่มการเจรจา แคนาดาและสหภาพยุโรปกำลังวางแผนที่จะทำตามแนวทางของจีนและเตรียมที่จะเรียกเก็บภาษีตอบโต้ต่อสหรัฐฯ เวียดนามได้เสนอที่จะลดภาษีต่อสหรัฐฯ ลงเหลือศูนย์แล้ว ตามที่ทรัมป์กล่าว แต่ดูเหมือนว่าจนถึงขณะนี้พวกเขาจะเป็นประเทศเดียว
ความกลัวเพิ่มขึ้นในวอลล์สตรีทว่าการเทขายจะส่งผลดีต่อตัวเอง โดยกองทุนเฮดจ์ฟันด์ยังถูกบังคับให้ขายหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ เพื่อหาเงินสดและตอบสนองการเรียกชำระเงินประกันเพิ่ม และยังมีความกังวลว่าการตกต่ำอย่างรวดเร็วของตลาดหุ้นจะนำไปสู่วงจรอุบาทว์ที่จะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคในสหรัฐฯ ก่อนที่ภาษีจะมีผลเสียด้วยซ้ำ
“ราคาหุ้นที่ร่วงลงตั้งแต่วันปลดแอกทำให้โอกาสที่ผลกระทบเชิงลบต่อความมั่งคั่งจะกดการใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเพิ่มโอกาสของภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งส่งผลให้ราคาหุ้นตกต่ำลง” ยาร์เดนีกล่าว