'ซีเซียม-137' สธ.เฝ้าระวัง 3 กลุ่มอาการ ป่วยรีบพบแพทย์
สัมผัสซีเซียม-137 สธ.เร่งตรวจสุขภาพคนในโรงงานหลอมเหล็ก เฝ้าระวัง 3 กลุ่มอาการ ป่วยรีบพบแพทย์ ย้ำอันตรายกับทุกคนทุกกลุ่มอายุ เบื้องต้นจำกัดวงคนจ.ปราจีนบุรี ใช้เวลา 30 ปีสลาย50% คาดความรุนแรงไม่เท่าเหตุการณ์โคบอลต์-60
เมื่อวันที่ 20 มี.ค.2566 ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการติดตามผลกระทบต่อสุขภาพหลังมีท่อบรรจุสารซีเซียม – 137 หายออกจากโรงงานว่า ในส่วนของการดูแลสุขภาพประชาชน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.)ปราจีนบุรีได้มีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านสาธารณสุข(ส่วนหน้า) ซึ่งซีเซียม – 137 เป็นสารกัมมันตรังสี มองไม่เห็น ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ความเป็นพิษต่อร่างกายจะมีความรุนแรงแตกต่างกันขึ้นอยู่กับชนิดสาร ความเข้มข้นของสาร ระยะเวลาการสัมผัส และระยะห่างของการสัมผัส
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
'ซีเซียม-137อันตราย' เช็ก อาการเมื่อสัมผัส ช่องทางเข้ารับรักษา
อธิบดีกรอ. เผย ‘ซีเซียม-137’ ถูกหลอมถลุงเป็นฝุ่นแดงแล้ว
ขณะนี้ได้มีการวางระบบเฝ้าระวังอาการป่วยใน 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มผิวหนัง เนื้อเยื่อ อาการจะมีตั้งแต่ตุ่มน้ำใส เนื้อตาย เป็นต้น 2. กลุ่มอาการทั่วไป คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ และ3.กลุ่มอื่นๆ ระยะกลางและระยะยาว จะไวต่อเซลล์ที่มีการแบ่งตัว เช่น เม็ดเลือดขาว และผม เป็นต้น จากข้อมูลที่มีขณะนี้กำหนดขอบเขตโดยการตรวจสุขภาพของคนงานในโรงงานหอมเหล็กทุกคน โดยผู้เชี่ยวชาญจะประเมินอีกครั้งว่าจะต้องตรวจอะไรบ้าง ตั้งแต่ตรวจสุขภาพ ตรวจการปนเปื้อนในปัสสาวะ และอื่นๆ
ซึ่งในการตรวจจะต้องใช้ห้องปฏิบัติการ(แล็ป)พิเศษของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ขณะที่ประชาชนทั่วไปในอำเภอกบินทร์บุรี และจังหวัดปราจีนบุรี หากมีอาการ 3 กลุ่มดังกล่าวให้รีบพบแพทย์ ทั้งนี้หากได้รับข้อมูลการสอบสวนการกระจายของซีเซียม-137จะพิจารณาปรับการเฝ้าระวังอีกครั้งและจะใช้ระยะเวลาเฝ้าระวังจนกว่าสำนักงานปรมาณูฯจะประกาศพ้นระยะเฝ้าระวัง
นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า จากการติดตามผลกระทบทางด้านสุขภาพใน 3 กลุ่มอาการนี้นับตั้งแต่ที่มีรายงานการสูญหาย เบื้องต้นยังไม่พบผู้ได้รับผลกระทบที่มีอาการป่วยผิดสังเกต แต่ก็ต้องเฝ้าระวังต่อไป เพราะอาจจะมีคนที่ได้รับผลกระทบน้อยๆ ยังไม่มีอาการอะไรก็ได้ หากประชาชนมีความรู้สึกว่ามีอาการผิดปกติ สามารถประสานไปที่สถานพยาบาลในพื้นที่ได้ ซึ่งสารซีเซียม – 137 มีค่าครึ่งชีวิตอยู่ที่ 30 ปีหรือจะสลายไป 50 % ใน 30 ปี ไม่ว่าจะเป็นในร่างกายหรือสิ่งแวดล้อม จึงมีความสำคัญที่ต้องมีการตรวจติดตามต่อเนื่อง
“ผลกระทบต่อสุขภาพจากซีเซียม – 137 ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ได้รับ ระยะเวลา ระยะห่างที่สัมผัส จึงเกิดผลกระทบกับทุกคนที่ได้ ไม่เฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่มีโรคประจำตัว เด็ก ผู้สูงอายุเท่านั้น คนทั่วไปก็ได้รับผลกระทบไม่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นผู้เชี่ยวชาญประเมินว่าความเข้มข้นความรุนแรงไม่เท่ากับเหตุการณ์โคบอลต์-60(cobalt 60) ที่มีคนสัมผัสใกล้ชิดและเสียชีวิต 3 ราย”นพ.โอภาสกล่าว