อีก 2 วันรู้ผลตรวจผู้สัมผัสกลุ่มเสี่ยงสูง 5 ชีวิต ใกล้ชิด 'ดีเจ' ติดโควิด
กทม.ลุยสอบสวนโรค อีก 2 วันรู้ผลตรวจผู้สัมผัสกลุ่มเสี่ยงสูง 5 ชีวิต ใกล้ชิด "ดีเจ" ติดโควิด
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวว่า กรณีพบผู้ต้องขังชายไทย 1 ราย ซึ่งเป็นผู้ต้องขังเข้าใหม่ในทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลางบางเขน ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น ผู้ต้องขังรายนี้ได้รับการตรวจหาเชื้อไวรัส ตามกระบวนการของเรือนจำในระหว่างการกักตัวก่อนเข้าเรือนจำ พบว่ามีผลการตรวจเชื้อเป็นบวก โดยในการกักตัวได้แยกกักกันตัวสำหรับผู้ต้องขังใหม่ตามแนวทางควบคุมป้องกันโรค ไม่ได้อยู่รวมกับนักโทษอื่นๆ ซึ่งเป็นการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศไทยหลังจากไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อภายในประเทศมา 100 วัน จากกรณีดังกล่าว สำนักอนามัยได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงที่ทำงานของผู้ติดเชื้ออีกทั้งมีการสอบถามหาผู้ใกล้ชิดเพิ่มเติมด้วย
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่สอบสวนโรคที่บ้านของผู้ต้องขังที่ติดเชื้อ พบผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 5 คน ได้ให้คำแนะนำและทำการเก็บตัวอย่างสิ่งส่งตรวจหาเชื้อทั้ง 5 คน ซึ่งจะทราบผลภายใน 2 วัน พร้อมทั้งขอให้กักตัวในที่พักอาศัยและได้มอบชุด Home Quarantine สำหรับใช้ในการสังเกตอาการตนเอง 14 วัน โดยมีศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่ติดตามดูแล สำหรับกลุ่มผู้สัมผัสที่เป็นกลุ่มผู้ต้องขังจะมีทีมเจ้าหน้าจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์เป็นผู้ดูแล ในส่วนของร้านที่ผู้ติดเชื้อทำงานได้มีการปิดร้านเป็นเวลา 14 วัน เพื่อทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรค สำนักอนามัยได้ลงพื้นที่สอบสวนโรคติดตามให้คำแนะนำ และเก็บสิ่งส่งตรวจ ซึ่งจะทราบผลภายใน 2 วัน
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า สำหรับอาคารสถานที่ทั้งที่พักอาศัย และสถานที่ต่างๆ ที่ผู้ติดเชื้อได้เดินทางไป เจ้าหน้าที่ได้แนะนำให้ทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อตามมาตรฐานที่กำหนด ก่อนเจ้าหน้าที่จะฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้ออีกครั้ง โดยร้าน 3 วัน 2 คืน @พระราม 3 และร้านเฟิร์สคาเฟ่ สำนักงานเขตพื้นที่ได้สั่งปิดให้บริการอย่างน้อย 14 วัน นอกจากนี้สำนักอนามัยได้จัดทีมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ให้คำแนะนำในการดูแลประชาชนในพื้นที่เสี่ยง ทั้งนี้ หากประชาชนมีความกังวลใจว่าตนเองจะเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่ สามารถทำแบบประเมินความเสี่ยงได้จากระบบคัดกรองความเสี่ยง BKK COVID-19 ด้วยตนเองได้ที่เว็บไซต์ http://bkkcovid19.bangkok.go.th/ หรือขอคำปรึกษาแนะนำได้ที่เบอร์โทร. 0 2203 2393 และ 0 2203 2396 ตลอด 24 ชั่วโมง
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ที่ผ่านมา กทม.ยังคงดำเนินมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อย่างต่อเนื่อง ดังนี้ 1.ตรวจสอบและกำกับดูแลให้สถานประกอบการต่างๆ ที่ได้รับการผ่อนปรนอนุญาตให้เปิดกิจการดำเนินการตามมาตรการควบคุมที่ กทม. ได้มีประกาศออกไป โดยคณะทำงานด้านการประสานงานการดูแลความสงบเรียบร้อยได้จัดให้มีชุดตรวจร่วม ระหว่าง บช.น., กอ.รมน. และสำนักงานเขต โดยแยกพื้นที่ปฏิบัติการออกเป็น 9 บก.น. ทั่วพื้นที่ กทม. จากการดำเนินการที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. – 3 ก.ย. 63 มีการตรวจสอบสถานประกอบการทั้งหมด 116,726 ครั้ง มีการให้คำแนะนำเพิ่มเติม 83 แห่งและตรวจสอบซ้ำ 190 แห่ง ซึ่งในปัจจุบันมีการตรวจสถานประกอบการประมาณวันละ 500 แห่งต่อวัน
"หากเป็นการตรวจสอบเฉพาะสถานประกอบการประเภทสถานบริการ ผับ บาร์ และคาราโอเกะ ได้มีการตรวจสอบไปแล้วทั้งหมด 4,225 แห่ง ซึ่งสถานประกอบการต่างๆ ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามมาตรการด้วยดี 2.คณะทำงานด้านการประสานงานการดูแลความสงบเรียบร้อยได้มีการสุ่มตรวจ Home quarantine ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. - 3 ก.ย. 63 รวม 243 แห่ง และ 3.เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสถานบันเทิง และสถานบริการในพื้นที่กรุงเทพฯ ให้ปฏิบัติตามมาตรการหลักและมาตรการเสริมอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการติดเชื้อและการแพร่ระบาดในระลอกสองต่อไป"ผู้ว่าฯ กทม.ระบุ