ตั้งวงก๊งเหล้าติดโควิดไม่น้อยกว่า'คลัสเตอร์ทองหล่อ'

ตั้งวงก๊งเหล้าติดโควิดไม่น้อยกว่า'คลัสเตอร์ทองหล่อ'

จากสถิติที่กลุ่มนี้รวบรวมข่าวคนติดเชื้อจากการตั้งวงกินดื่มกันเองตามบ้าน งานบวช งานศพ สูงถึง 56 ข่าวหรือร้อยละ74 สะท้อนว่า การตั้งวงสังสรรค์เป็นอีกปัญหาใหญ่ที่ไม่ควรมองข้าม

อีกเรื่องที่น่าห่วง คือ การตั้งวงก๊งเหล้า ท่ามกลางโควิดรุนแรง พบข้อมูลคนส่วนใหญ่ติดโควิดจากวงเหล้าในบ้าน งานบวช งานศพ ไม่น้อยกว่าคลัสเตอร์ทองหล่อ-รัชดา

ชูวิทย์   จันทรส ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ (ครปอ.)  กล่าวว่า โควิด-19 รอบนี้หนักกว่าสองรอบที่ผ่านมา ชัดเจนว่าคลัสเตอร์จากแหล่งอบายมุขร้านเหล้าผับบาร์  บ่อนพนัน เป็นจุดของการแพร่เชื้อ ซึ่งประชาชนกำลังจับตาว่า ผับบาร์ไฮโซย่านทองหล่อ รัชดา นนทบุรี นครราชสีมา สงขลา ภูเก็ต หรือเชียงใหม่ ที่เป็นคลัสเตอร์สำคัญๆในครั้งนี้ ผู้รักษากฎหมายจะสามารถเอาผิดคนที่เกี่ยวข้องได้มากน้อยแค่ไหน

ทั้งนี้ จากการมอนิเตอร์ข่าวที่ปรากฏทางสื่อมวลชนในช่วงโควิดรอบใหม่เดือนเมษายน2564 รวบรวมโดยเว็บไซต์stopdrink พบว่า มีข่าวผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถึง134 ข่าว เฉลี่ยวันละ ข่าว ส่วนใหญ่เป็นข่าวการติดเชื้อโควิด-19 กว่าร้อยละ 60ที่เหลือเป็นข่าวความรุนแรงในครอบครัว อุบัติเหตุ การทะเลาะวิวาท และล่วงละเมิดทางเพศ

เมื่อพิจารณาข่าวโควิด-19 ที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปเกี่ยวข้อง พบเป็นข่าวคลัสเตอร์สถานบันเทิงผับบาร์ ร้านเหล้า (ย่านทองหล่อ-รัชดา นครราชสีมา นนทบุรี สงขลา ภูเก็ต ฯลฯ) รวมถึงข่าวการแพร่เชื้อต่อจากคลัสเตอร์เหล่านี้ 20 ข่าว หรือร้อยละ26 

ที่น่าตกใจคือเป็นข่าวติดเชื้อจากการตั้งวงกินดื่มกันเองตามบ้าน ริมหาด งานบวช งานบุญ งานศพ สูงถึง 56 ข่าวหรือร้อยละ74 สะท้อนว่า การตั้งวงสังสรรค์เป็นอีกปัญหาใหญ่ จึงอยากวิงวอนพี่น้องประชาชนให้งดการตั้งวงกินดื่มในช่วงนี้อย่างเด็ดขาด  ขอให้คิดไว้เสมอว่าคนที่นั่งกินกับคุณอาจจะติดเชื้อมา และทางที่ดีลด ละ เลิก จะดีที่สุด

“นอกจากการแพร่ระบาดที่ถือว่าร้านเหล้าผับบาร์-วงเหล้า สัมพันธ์ชัดเจนกับการแพร่เชื้อแล้ว  อีกด้านหนึ่ง งานวิชาการทั่วโลก ยืนยันว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีส่วนทำลายภูมิคุ้มกันในร่างกาย เพราะไม่สามารถตรวจจับ กำจัด และทำลายหรือต่อสู้กับเชื้อโควิด-19  

รวมทั้งทำให้ความสามารถในการสร้างภูมิคุ้มกันเชื้อบกพร่องด้วย  นอกจากนี้แอลกอฮอล์ยังเข้าไปทำลาย อวัยวะต่างๆในร่างกายของคนที่ดื่มให้เสื่อมทำงานผิดปกติ เมื่อสัมผัสเชื้อและแพร่เชื้อทำให้อาการติดเชื้อรุนแรงขึ้น ยังไม่นับพฤติกรรมเสี่ยงสารพัดจากการขาดสติ กลายเป็นภาระของหมอ พยาบาล” ชูวิทย์ กล่าว  

ด้านณัฐพงษ์  สำเภาแก้ว ผู้ประสานงานเครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน กล่าวว่า ยังมีการรวมตัวลักลอบเล่นการพนันในหลายพื้นที่ตามที่ปรากฏเป็นข่าว ทั้งจากเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอปากช่อง ลงพื้นที่จับกุมนักพนัน 13 คน พร้อมอุปกรณ์การเล่นไฮโล และทีวี เครื่อง(มวยตู้) คาดว่ามีการรวมตัวลักลอบเล่นพนันกว่า100 คน

กรณีผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ให้อาสาฝ่ายปกครองและตำรวจ บุกทลายบ่อนไก่ชนรวบนักพนันได้ 15 คน และกว่า 20 คน วิ่งหนีกระเจิง

และล่าสุดในพื้นที่จังหวัดนครศรีฯ พบไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 หลายคนเข้าเล่นพนันไฮโลในงานศพ ทำให้ประชาชนหลายคนตกอยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 

เหตุการณ์เหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงการการ์ดตกของประชาชนกลุ่มนี้อย่างรุนแรง ไม่รับผิดชอบต่อส่วนรวม ละเมิดกฎหมายและฝ่าฝืนคำสั่งการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19ตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ จึงอยากให้มีการลงโทษสถานหนัก กับผู้ที่ยังลักลอบตั้งวงเล่นพนัน

“อีกสถานการณ์ที่น่าห่วง คือ การเติบโตของธุรกิจเว็บพนันออนไลน์ ที่ฉกฉวยโอกาสที่เด็กเยาวชนและประชาชนต้องหยุดเรียนหยุดงานอยู่บ้าน กระตุ้นยอดลูกค้าด้วยโปรโมชั่นล่อตายั่วใจ การรีวิว

และวาทกรรมสวยหรูว่าจะเป็นช่องทางการหาเงินได้ง่ายๆ ที่พบเห็นเป็นประจำบนเว็บไซต์และสื่อสังคมออนไลน์อื่นๆ  ทำให้หลายคนที่ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจรู้ไม่เท่าทันกลายเป็นเหยื่อทั้งจากพนันบาคาร่า สล็อต พนันบอล เป็นต้น

จึงขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้มงวดกวดขันและบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ตลอดจนขอให้ประชาชนร่วมกันเฝ้าระวังและแจ้งเบาะแสสถานที่ลักลอบเล่นการพนันส่งตรงถึงทำเนียบรัฐบาล

และนอกจากนี้ขอให้เพื่อนๆเยาวชน ประชาชน หยุดแชร์ หยุดเชียร์ หยุดชวนพนันออนไลน์  และหยุดพฤติกรรมรวมกลุ่มตั้งวงเล่นไพ่ วงพนันทุกรูปแบบ จำเป็นต้องปฏิบัติตามแนวทางชีวิตวิถีใหม่อย่างเคร่งครัด (สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือ) เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อโควิด-19” ณัฐพงษ์  กล่าว