ส่อง “ฟินแลนด์” มีอะไร…ประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก 6 ปีซ้อน
ฟินแลนด์...ดินแดนคุณภาพที่ได้รับการกล่าวขานว่า ผู้คนมีความสุขที่สุดในโลก 6 ปีซ้อนจากรายงานของ UN World Happiness Report
ฟินแลนด์ยังเป็นประเทศที่ถูกจัดอันดับจากหลายองค์กรว่ามีการศึกษาที่ดีที่สุด เมื่อพิจารณาจากผลคะแนน PISA ฟินแลนด์เป็นหนึ่งในประเทศที่นักเรียนทำคะแนนได้ลำดับต้นๆของโลกมาตลอด
ในขณะที่หลายประเทศนำการแข่งขันมาใช้ในระบบการศึกษา เพื่อเร่งเร้าให้ทรัพยากรมนุษย์พัฒนาศักยภาพความสามารถ
ฟินแลนด์เชื่อว่า การศึกษาคือกระบวนการสร้างทรัพยากรมนุษย์ให้มีคุณภาพ จึงไม่ควรมีสภาพแวดล้อมของการแข่งขัน
การเรียนในฟินแลนด์จึงไม่มีการสอบเพื่อวัดลำดับ ไม่มีรายชื่อนักเรียนที่มีความสามารถเป็นเลิศ โรงเรียนอันดับหนึ่ง หรือแม้แต่ครูที่มีผลงานดีที่สุด เพราะการศึกษาคือกระบวนการทำให้คนมีความรู้ตามวัย ไม่ใช่การมุ่งเพิ่มคะแนนสอบ หรือการสร้างความโดดเด่นในเรื่องต่างๆ
คนฟินแลนด์ตระหนักว่า ความสำเร็จที่แท้จริงเกิดจากความร่วมมือ การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ระบบการศึกษาของฟินแลนด์จึงให้ความสำคัญกับการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพกายและจิต ความสามัคคี และจิตสำนึกของการเป็นพลเมืองที่ดี
นอกจากนี้ การศึกษาคือ "เครื่องมือในการลดความไม่เท่าเทียมกันทางสังคม" เช่นเดียวกับที่ประเทศนี้ไม่มีโรงเรียนพิเศษหรือโรงเรียนเอกชน ห้องเรียนทั้งหมดเป็นการผสมผสานนักเรียนที่มีความหลากหลาย ไม่มีการแบ่งเป็นห้องนักเรียนความสามารถพิเศษ
โดยเด็กที่ความสามารถสูงกว่าจะช่วยคนที่ช้ากว่าให้เรียนเข้าใจ และมีความรู้เช่นเดียวกับตน
การศึกษาของฟินแลนด์ยังมีครูพิเศษ ซึ่งทำหน้าที่ดูแลนักเรียนที่อาจไม่เข้าใจเนื้อหา เพื่อให้ท้ายที่สุดแล้ว ทุกคนที่ผ่านระบบการศึกษามีคุณภาพไม่ต่างกัน สอดคล้องกับปรัชญาการศึกษาของประเทศนี้ที่ว่า ต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
แม้ประเทศฟินแลนด์มีการศึกษาที่ผ่อนคลาย แต่กระบวนการคัดเลือกบุคคลที่จะมารับหน้าที่สร้างอนาคตของชาติกลับมีความเข้มข้นอย่างยิ่ง ครูอาจารย์ แพทย์ นักกฎหมาย คือสามอาชีพแรกที่ได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่นชาวฟินนิช
โดยเฉพาะครูที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้กุมบังเหียนอนาคตของชาติ ประเทศจะเดินไปในทิศทางใด ก็ขึ้นอยู่กับครูว่าจะสามารถสร้างทรัพยากรมนุษย์ให้มีคุณภาพได้เพียงใด
การเป็นครูในฟินแลนด์มีมาตรฐานสูงมาก ประการแรก ครูต้องเป็นคนเก่งที่มีความสามารถในการถ่ายทอด ดังนั้น จึงมีเพียง 5% แรกของผู้สมัครที่ประสบความสำเร็จในการสอบเข้าเรียนในคณะครุศาสตร์ และก่อนเข้าสู่วิชาชีพ ครูทุกคนต้องสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท เพื่อให้มั่นใจว่ามีความรู้ความสามารถเพียงพอที่จะสอนนักเรียน
นอกจากความสามารถด้านวิชาการระดับหัวกะทิของประเทศ ฟินแลนด์ตระหนักดีว่า “จิตวิญญาณความเป็นครู” คือ สิ่งเดียวที่ทำให้ครูคือผู้สร้างคน กระบวนการคัดเลือกจึงให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวดกับทัศนคติ ความรักในอาชีพ รวมถึงความเอาใจใส่ในนักเรียน
อาทิ ในการคัดเฟ้นขั้นสุดท้ายของผู้ที่จะได้รับการคัดเลือกเข้าศึกษาในหลักสูตรผลิตครู จะมีคำถามเพื่อให้ผู้เข้าสอบได้อภิปรายวิธีการแก้ปัญหาให้นักเรียน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาครอบครัวของเด็ก ปัญหาการกลั่นแกล้งกันในโรงเรียน เป็นต้น
ทั้งนี้ ครูในฟินแลนด์มักให้ความเห็นว่า “การมาเป็นครูในแต่ละวันไม่ใช่หน้าที่ แต่คือความสุขในชีวิต เป็นความอิ่มเอมใจที่ได้เห็นศิษย์เติบโต และตนมีส่วนในการบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์เหล่านี้ให้ในที่สุดแล้วกลายเป็นต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มเย็นกับสังคมต่อไป”
เป็นที่น่าสนใจว่า ครูในประเทศฟินแลนด์ดูแลนักเรียนตั้งแต่เล็กจนโต จึงมีความคุ้นเคยและเข้าใจนักเรียนแต่ละคนเป็นอย่างดี นอกจากนี้ ครูมีเอกสิทธิ์ในการเลือกรูปแบบวิธีการสอนเพื่อให้สอดคล้องกับลักษณะของนักเรียน
รัฐบาลฟินแลนด์เชื่อว่า ครูประเทศนี้ไม่จำเป็นต้องได้รับการควบคุมหรือประเมินจากส่วนกลาง เพราะคนฟินแลนด์โดยเฉพาะครูมีมาตรฐานความรับผิดชอบและความเอาใจใส่ในหน้าที่ในระดับสูงมาก มีความรักความหวังดีต่อศิษย์โดยไม่หวังผลตอบแทน
ดังนั้น ครูจึงมิใช่ผู้ที่ท่องตำราเพื่อมาสอน หรือทำหน้าที่ไปวันๆ รอวันรับเงินเดือน แต่ครูคือผู้อุทิศเวลาและทุ่มเทความสามารถเพื่อสร้างรูปแบบการเรียนการสอนที่จะเกิดประโยชน์ต่อนักเรียนในทุกๆ ทางมากที่สุด
การสร้างคนผ่านระบบการศึกษาของฟินแลนด์สะท้อนจากคำกล่าวของ Samuli Paronen นักปรัชญาชาวฟินนิชที่ว่า Real winners do not compete. หมายความว่า “ผู้ชนะที่แท้จริงไม่แข่งขัน”การศึกษาของฟินแลนด์จึงเป็นชัยชนะสูงสุด ที่สามารถสร้างคนคุณภาพ พร้อมสังคมอบอุ่น เป็นดินแดนแห่งความสุขที่เจริญดีงามในทุกมิติ.