ปริศนาฆ่าตัวตาย ครูกระโดดให้รถไฟชนตายที่ขอนแก่น ร่างแหลกขาดกระจุย

เมื่อเวลา 09.30 น. ของวันที่ 22 พ.ย. 2566 พ.ต.ท.ประยุทธ คำบอนพิทักษ์  สว.(สอบสวน) สภ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุรถไฟชนกับคน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย  

เกิดเหตุที่ทางรถไฟระหว่างสถานีรถไฟน้ำพอง ก่อนถึงจุดตัดบ้านวังเกิ้ง ตำบลวังชัย อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น หลังรับแจ้งจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัย และแพทย์เวรโรงพยาบาลน้ำพอง ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบเมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบรถไฟประเภท รถด่วนดีเซลราง ขบวนหนองคาย-กรุงเทพฯ

นายนรินทร์ รักด่านกลาง อายุ 44 ปี เป็นพนักงานขับรถไฟขบวนดังกล่าว รอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ ใกล้กับขบวนรถไฟพบศพผู้เสียชีวิตเป็นชาย ทราบชื่อภายหลังคือ นายธีรพงศ์ อายุ 40 ปี ชาว ม.7 ต.โนนสะอาด อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ 

นายธีรพงศ์ อาชีพรับราชการครูที่โรงเรียนหนองโนประชาสรรค์ ต.หนองโน อ.กระนวน จ.ขอนแก่น และย้อนกลับไปจุดที่ชายดังกล่าวนั่งอยู่ พบรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตจอดอยู่ในป่า พร้อมเขียนหมายเลขโทรศัพท์ของญาติทิ้งเอาไว้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งทางญาติให้ทราบแล้ว

จากการสอบถาม นายนรินทร์ รักด่านกลาง เพลขับประจำรถ ทราบว่า ขบวนรถไฟขบวนนี้เดินทางออกจากสถานีรถไฟน้ำพอง มุ่งหน้าสถานีรถไฟกรุงเทพมหานคร

เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุระหว่างทางห่างจากสถานีรถไฟน้ำพองประมาณ 1 กิโลเมตร ก่อนถึงทางตัดรถไฟบ้านวังเกิ้ง ได้มีชายคนหนึ่ง สวมชุดลูกเสือนั่งอยู่ริมทางรถไฟ เมื่อรถไฟแล่นเข้ามาใกล้กับจุดที่ชายดังกล่าวนั่งอยู่ เจ้าตัวได้กระโดดขึ้นบนรางรถไฟแบบระยะกระชั้นชิด ทำให้ขบวนรถไฟไม่สามารถหยุดรถไฟได้ทัน ทำให้เฉี่ยวชนชายคนดังกล่าว 

โดยลากร่างห่างออกไปจากจุดเกิดเหตุประมาณ 20 เมตร เป็นเหตุให้ชายรายดังกล่าวเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนรถไฟไม่ได้รับความเสียหาย และผู้โดยสารรถไฟไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่จะแจ้งเจ้าหน้าทีมาตรวจสอบ หลังเสร็จสิ้นขบวนรถไฟได้ออกเดินทางต่อไปยังจุดหมายที่ กทม.

พร้อมกันนี้ ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ 1 ในผู้โดยสารซึ่งขอสงวนชื่อและนามสกุล เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนเองนั่งอยู่โบกี้สุดท้าย คือโบกี้ที่ 4 ช่วงที่ออกจากสถานีรถไฟน้ำพองแป๊บเดียว ได้ยินเสียงคนขับรถไฟถอนหายใจพูดขึ้นมาว่า กระโดดทำไม ก่อนจะเริ่มมีกลิ่นเหม็นไหม้เหมือนย่างเนื้อ หรือ ย่างหนังสัตว์ ทำให้กลิ่นติดจมูกขมคอมาก หลังจากชนไม่นานรถไฟก็หยุด และมีเจ้าหน้าที่รถไฟลงไปดู พร้อมกับผู้โดยสารซึ่งเป็นพระสงฆ์กับชาวบ้าน ลงไปดูด้วยเช่นกัน 

ขณะนั้นนายตรวจและเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารลงไป ตนเองจึงนั่งอยู่บนขบวนรถไฟตามเดิม ซึ่งจุดที่ตนเองนั่งนั้น มองเห็นศพของผู้เสียชีวิตดังกล่าว สภาพไม่มีหัว แขนขาด ขาขาด ทีแรกคิดว่าเป็นผู้หญิงแต่มาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ชาย ก่อนที่ทุกคนจะช่วยกันหาศีรษะผู้เสียชีวิตประมาณ 30 นาที ก็สามารถเคลียร์พื้นที่และเดินทางไปต่อ