สิทธิของไรเดอร์ | อุไรรัตน์ จันทรศิริ

ผลจาการต่อสู้เรียกร้องสิทธิและสวัสดิการ ระหว่างแรงงานกับรัฐเมื่อหลายร้อยปีก่อน เป็นผลให้ทั่วโลกกำหนดวันแรกของเดือน พ.ค. เป็นวันแรงงาน เพื่อได้ตระหนักถึงสิทธิและความสำคัญของแรงงาน ดังเช่น “ไรเดอร์” ที่รวมตัวเรียกร้องสิทธิอยู่เป็นระยะๆ

การต่อสู้เรียกร้องของแรงงานยังคงมีอยู่เรื่อยมา ส่วนหนึ่งเกิดจากการพัฒนากิจกรรมทางเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ๆ ส่งผลให้ลักษณะการจ้างงานมีความหลากหลายและซับซ้อนขึ้น เช่น แรงงานบนแพลตฟอร์มอย่าง “ไรเดอร์” ที่ยังมีการรวมตัวเรียกร้องสิทธิที่พึงได้จากการทำงาน และยังเคลื่อนไหวอยู่เป็นระยะ สลับสับเปลี่ยนกันไปในหลายแพลตฟอร์ม

ถึงแม้ว่าธุรกิจบริการขนส่งอาหารผ่านแอปพลิเคชันจะดำเนินการในไทยมาไม่น้อยกว่าสิบปี สร้างอาชีพให้แก่ไรเดอร์มากกว่าแสนคน แต่สิทธิสวัสดิการและการคุ้มครองการทำงานกลับยังไม่ถูกพัฒนาให้เหมาะสม

สะท้อนว่าปัญหาของไรเดอร์ เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างของธุรกิจแพลตฟอร์ม ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข และที่ผ่านมามักเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเป็นรายกรณีไป

ปัญหาที่ไรเดอร์ต้องเผชิญ

จากการเรียกร้องของไรเดอร์โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์มรับส่งอาหาร เห็นได้ว่าหลายครั้งไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นปัญหาที่ยังไม่ถูกแก้ไขในเชิงโครงสร้างการกำกับดูแล เช่น การคุ้มครองการทำงานหรือความเป็นธรรมในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการทำงาน อย่างการถูกปรับลดค่ารอบ

การเปลี่ยนวิธีคำนวณผลตอบแทนหรือโบนัส การปรับระบบจัดสรรงาน การขาดสวัสดิการและหลักประกันการทำงาน การเปลี่ยนเงื่อนไขการทำงานโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ฯลฯ

เหตุสำคัญที่ไรเดอร์ยังคงไม่ได้รับสิทธิและการคุ้มครองการทำงานที่ควรจะเป็น ไม่อาจมองเพียงแค่ว่าเป็นความรับผิดชอบของแพลตฟอร์มเท่านั้น เพราะที่ผ่านมากฎหมายแรงงานไทยกำหนดให้เรื่องดังกล่าวผูกโยงกับสถานะการจ้างงาน โดยปัจจุบันกฎหมายได้จำแนกสถานะการจ้างงานออกเป็นสองรูปแบบ ได้แก่ ลูกจ้างและผู้รับเหมาอิสระ

ปัญหาที่ไรเดอร์ต้องเผชิญคือ การถูกนิยามสถานะที่ไม่สอดคล้องกับสภาพการทำงานจริง โดยไรเดอร์มักจะถูกเรียกเป็นพาร์ตเนอร์ของแพลตฟอร์ม หรือถูกเหมารวมว่าเป็นแรงงานอิสระ

แม้ว่าไรเดอร์บางรายจะทำงานเสมือนลูกจ้าง หรือบางแพลตฟอร์มจะกำหนดเงื่อนไขการทำงานที่เข้าข่ายนายจ้างกับลูกจ้างก็ตาม 

ผลสำรวจจากงานศึกษาแนวทางการกำกับ Digital platform ในประเทศไทย ของ TDRI ปี 2565 พบว่า ไรเดอร์ส่วนใหญ่ถูกกำหนดเงื่อนไขการทำงานในลักษณะเดียวกับลูกจ้าง เช่น การกำหนดช่วงเวลารับงาน การกำหนดผลตอบแทน การกำหนดบทลงโทษเมื่อไม่ปฏิบัติตาม ฯลฯ แต่สิทธิที่ได้รับกลับน้อยกว่าหรือเทียบเท่าการเป็นผู้รับเหมาะอิสระเท่านั้น

แม้ว่าขบวนการเรียกร้องของไรเดอร์จะเกิดขึ้นหลายครั้ง แต่กลับไม่ได้ถูกแก้ไขอย่างจริงจัง เพราะเป็นการรวมกลุ่มแบบชั่วคราว และเป็นการต่อรองไกล่เกลี่ยระหว่างกลุ่มไรเดอร์ที่มารวมตัวกันกับผู้แทนของแพลตฟอร์ม ผลสุดท้ายกลุ่มไรเดอร์ที่มีอำนาจต่อรองน้อยกว่ามักจะเป็นผู้ที่ต้องยอมรับและปรับตัวตามการตัดสินใจของแพลตฟอร์ม

๐ ข้อเสนอเพื่อเพิ่มสวัสดิการและการคุ้มครองไรเดอร์

เนื่องจากอาชีพไรเดอร์มีความยืดหยุ่นสูง ลักษณะการทำงานแตกต่างกัน รวมถึงความต้องการสวัสดิการที่ต่างกัน ตัวอย่างจากผลสำรวจของ TDRI ปี 2565 พบว่า ไรเดอร์ที่มีรายได้หลักจากอาชีพไรเดอร์จะสนใจค่าจ้างขั้นต่ำ การชดเชยรายได้เมื่อเกิดอุบัติเหตุ และสิทธิในการรวมกลุ่ม ขณะที่ไรเดอร์ที่รับงานแบบรายสะดวกจะต้องการประกันอุบัติเหตุและประกันสุขภาพ 

ดังนั้น แนวคิดเรื่องการคุ้มครองการทำงานของไรเดอร์จึงไม่ควรกำหนดแบบตายตัว แต่ควรสอดคล้องกับลักษณะการทำงาน โดยไรเดอร์ควรจะได้รับการคุ้มครองเพิ่มขึ้นตามระดับอำนาจควบคุมของแพลตฟอร์ม

อย่างไรก็ดี เพื่อเป็นการสร้างหลักประกันการทำงานขั้นพื้นฐานแก่ไรเดอร์ทุกคน ภาครัฐควรกำหนดมาตรฐานการคุ้มครองแรงงานขั้นต่ำ ได้แก่

(1) การชดเชยความเสียหายเมื่อเกิดอุบัติเหตุระหว่างการทำงาน โดยกรณีที่ผู้เสียหายเป็นบุคคลที่สามแพลตฟอร์มจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบโดยจัดให้มีประกันคุ้มครองบุคคลดังกล่าว 

กรณีความเสียหายเกิดกับไรเดอร์ แพลตฟอร์มจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบหากมีส่วนให้เกิดเหตุดังกล่าว เช่น การกำหนดเงื่อนไขการทำงานที่เพิ่มความเสี่ยง

(2) การรับรองสิทธิการรวมตัวของแรงงานบนแพลตฟอร์ม และ (3) การอำนวยความสะดวกด้านงานเอกสารแก่ไรเดอร์ที่ต้องการเข้าร่วมกองทุนประกันสังคม

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย ภาครัฐควรวางกลไกส่งเสริมการแข่งขันระหว่างแพลตฟอร์ม เพื่อเพิ่มความคุ้มครองแก่ไรเดอร์ตามระดับอำนาจการควบคุม และกำหนดให้แพลตฟอร์มนำเสนอข้อมูลสวัสดิการและเงื่อนไขการทำงานที่ชัดเจนและเปรียบเทียบได้ง่าย

หากมีการแข่งขันจะทำให้ไรเดอร์มีทางเลือก และมีโอกาสได้รับสิทธิประโยชน์ หรือการคุ้มครองที่ดีกว่าการคุ้มครองขั้นต่ำ

นอกจากนี้ เพื่อสร้างความเป็นธรรมในการทำงานแก่ไรเดอร์ที่เข้าข่ายเป็นลูกจ้าง จึงเสนอให้มีการจัดทำหลักเกณฑ์พิสูจน์สถานะลูกจ้างของไรเดอร์ หากแพลตฟอร์มมีอำนาจบังคับบัญชาไรเดอร์ตามหลักเกณฑ์ข้อใดข้อหนึ่งให้ถือว่าไรเดอร์นั้นมีสถานะเป็นลูกจ้างและต้องได้รับการคุ้มครองตามที่กฎหมายแรงงานกำหนด 

หลักเกณฑ์ที่ใช้พิจารณา ได้แก่ (1) ข้อกำหนดช่วงเวลาเปิดแอปพลิเคชัน (2) ข้อกำหนดห้ามรับงานจากที่อื่น (3) ข้อกำหนดให้ไรเดอร์ต้องรับงานตามการจัดสรร และ (4) ข้อกำหนดบทลงโทษถ้าไม่ทำตาม

สุดท้ายภาครัฐควรกำหนดหน้าที่หรือแนวปฏิบัติของแพลตฟอร์ม เพื่อลดความเสี่ยงการใช้อำนาจต่อรองที่เหนือกว่าในการเอาเปรียบแรงงาน

โดยภาครัฐควรกำหนดหน้าที่ของแพลตฟอร์มให้ประเมินความเสี่ยงอัลกอริทึมหรือระบบจัดสรรงาน และรายงานต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการกำหนดให้แพลตฟอร์มต้องแจ้งข้อมูลหากมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการทำงานให้แรงงานทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน ฯลฯ

ความท้าทายในการกำกับดูแลแรงงานบนแพลตฟอร์ม

ปัจจุบันหลายฝ่ายพยายามผลักดันร่างกฎหมายส่งเสริมและคุ้มครองแรงงานอิสระ พ.ศ.... โดยเพิ่มนิยาม “ผู้ประกอบอาชีพกึ่งอิสระ” ซึ่งจะครอบคลุมแรงงานบนแพลตฟอร์มรวมถึงไรเดอร์ รวมถึงการกำหนดสิทธิต่างๆ เช่น สิทธิในการรวมกลุ่ม สิทธิได้รับการคุ้มครองจากการขึ้นทะเบียนเป็นแรงงานอิสระ เป็นต้น

ดังนั้น การขับเคลื่อนร่างกฎหมายดังกล่าวถือเป็นโจทย์สำหรับรัฐบาลใหม่ เพื่อแก้ปัญหาแรงงานบนแพลตฟอร์มที่เรื้อรังมานาน เราคงจะต้องติดตามว่ารัฐบาลชุดใหม่นี้จะมีการผลักดันและแก้ไขร่างกฎหมายเพิ่มเติมหรือไม่

หรือหากผ่านกฎหมายฉบับดังกล่าวแล้ว จะช่วยแก้ปัญหาของไรเดอร์ได้มากน้อยเพียงใด เพราะการออกแบบการคุ้มครองการทำงานของไรเดอร์แบบเหมารวมนั้น อาจไม่ตอบโจทย์อย่างแท้จริง.