“โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช” องค์กรแห่งโอกาส โลกทำงาน LGBTQ+ บนความเท่าเทียม

“โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช” องค์กรแห่งโอกาส โลกทำงาน LGBTQ+ บนความเท่าเทียม

“การจัดงาน MASTER Job Fair: LGBTQ+ Friends 2024 รับ 80 ตำแหน่ง 150 อัตรา ของบริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) และ 15 บริษัทในเครือ MASTER

KEY

POINTS

  • อยากให้ผู้บริหารเปิดใจ อย่ามองเพียงรูปลักษณ์ภายนอก เมื่อใดที่ผู้บริหารเห็นลึกไปถึงศักยภาพภายในของน้องๆ LGBTQ+ เชื่อว่าจะได้คนเก่ง คนดีเข้ามาทำงานอย่างที่ MASTER ในนามโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช 
  • LGBTQ+ ต้องรู้จักหน้าที่ของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน หรือทำงาน ต้องคำนึงถึงหน้าที่ ไม่ต้องไปบอกใครว่าให้ยอมรับ แต่ต้องเริ่มจากการกระทำของเราเอง
  • การรับสมัครคนเข้าทำงานควรพิจารณาจากประสบการณ์ วุฒิการศึกษา ความรู้ความสามารถ ทักษะ รวมทั้งควรมีกลไก หรือกฎร่วมกันว่าแต่ละกลุ่มบริษัทจะเปิดกว้างรับกลุ่มหลากหลายทางเพศอย่างไร

การจัดงาน MASTER Job Fair: LGBTQ+ Friends 2024 รับ 80 ตำแหน่ง 150 อัตรา ของบริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) และ 15 บริษัทในเครือ MASTER ที่ส่วนใหญ่ดำเนินธุรกิจความสวยความงามและศัลยกรรม เป็นการแสดงให้เห็นว่า ต้องการส่งเสริมและสนับสนุนเรื่องทางเพศทางเลือกที่หลากหลาย เปิดโอกาสให้น้องๆ กลุ่มนี้ได้มีงานทำมากขึ้น จากเดิมที่มีพนักงานหลากหลายทางเพศทำงานอยู่แล้ว 30 %  

เมื่อเข้ามาทำงานแล้ว ทุกคนจะได้รับการปฐมนิเทศ ได้รับการดูแลทั้งสุขภาพกายและจิตใจอย่างเท่าเทียมกัน โดยเฉพาะการดูแลจิตใจผ่าน โค้ชองค์กร 15 คน ซึ่งน้องๆ กลุ่ม LGBTQ+ สามารถสแกนคิวอาร์โค้ด ขอรับคำแนะนำ คำปรึกษาได้ อย่างต่อเนื่อง

“ดาว-ลภัสรดา เลิศภานุโรจ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน)(MASTER) ในนามโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช เล่าว่าการให้ความสำคัญในเรื่องของหลักสิทธิมนุษยชนมากขึ้น และการส่งเสริม สนับสนุนเพศทางเลือกที่หลากหลาย เป็นเรื่องที่มาสเตอร์พีชให้ความสำคัญมาโดยตลอด อย่างปี 2023 ได้สนับสนุนรางวัล Miss Trans Thailand 2023 ให้แก่ พอลลี่ – ดร.ณฑญา เป้ามีพันธ์ ตัวแทน Miss Trans สิงห์บุรี ซึ่งเป็นบุคคลที่มีความสามารถ เป็นการสร้างโอกาสให้แก่กลุ่ม LGBTQ+  

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ทำไม? ผู้บริหาร ผู้นำต้องรู้จักคน "นพลักษณ์" หลักบริหารมาสเตอร์พีช

“MASTER” ตั้งเป้าเติบโตไม่ต่ำกว่า20% 4 อันดับศัลยกรรมที่คนนิยมมากสุด

สนับสนุนความก้าวหน้า 

ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ MASTER ได้ทำงานร่วมกับน้องๆ LGBTQ+ หลายคนเป็น Value Member ของ MASTER “ทันย่า - ณัฐธนัญ กิจวรรณ หรือ ทีซี ริณทร์รภัฏ บุญทวีเลิศ” ได้พัฒนาตนเองจากโครงการ Project Owner มาสู่การเป็น General Manager(GM) ซึ่งเป็นเสมือน Entrepreneur (ผู้ประกอบการ) ของหัตถการที่ตนเองดูแล สอดคล้องกับ Concept ของ MASTER คือ คลินิกเล็กในโรงพยาบาลใหญ่ ดูแลแต่ละโปรเจกต์ แต่ละศูนย์ ทำให้พวกเขาต้องบริหารงาน บริหารคน ต้องสื่อสารกับทั้งน้องๆ พนักงานที่ตนเองต้องดูแล และทีมแพทย์ 

ทุกตำแหน่งขององค์กร สามารถก้าวหน้าและเติบโตได้ อาทิ น้องๆ ฝ่าย Customer Service กลุ่ม LGBTQ+ ทำให้ลูกค้ารู้สึกปลอดภัย เดินเข้ามาในโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช แล้วไม่มีความแตกต่างสามารถพูดคุยกับใครก็ได้ ทุกคนพร้อมดูแล เป็นต้น 

“โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช” องค์กรแห่งโอกาส โลกทำงาน LGBTQ+ บนความเท่าเทียม

คัดเลือกคนให้เหมาะกับงาน 

ตั๋วใบแรกที่เข้าทำงานที่ MASTER ได้ จะพิจารณาจาก Integrity & Growth Mindset คัดเลือกว่าเข้ามาในองค์กรแล้วจะเป็น Toxic Culture หรือไม่ ต่อด้วยการประเมิน DISC Model ว่าแต่ละคนเป็นคนประเภทไหน ประเมินนพลักษณ์ (Enneagram) บุคลิก 9 แบบของแต่ละคน และมีการจัดแบ่งตามคุณลักษณะ MBTI 20 ประการ เพื่อคัดเลือกคนให้เหมาะสมกับลักษณะของงาน 

ทั้งนี้ ด้วยการคัดเลือกคนในลักษณะดังกล่าว และการพิจารณาจาก Mindset ทำให้คนที่มาทำงานที่โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช ต้องปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมขององค์กร พบว่าเกินกว่า 50% จะพบภาวะ Culture Shock และไปต่อกับองค์กรไม่ได้ ดังนั้น ทุกคนที่ได้รับคัดเลือกจึงเป็นกลุ่มคนประเภทเดียวกันที่ได้รับการอบรมอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงทีมแพทย์ เพื่อให้ MASTER เป็นองค์กรที่มีความเท่าเทียมเกิดขึ้นจริงๆ จึงเห็นได้ว่าเราให้ความสำคัญกับคนมากๆ 

“เมื่อเห็นคุณค่าของตัวเอง จะเป็น Inside Out ที่สื่อออกไปให้แก่ผู้อื่น อยากให้เชื่อมั่นในตัวเอง เพราะทุกคนมีศักยภาพ และเมื่อใดที่ได้นำศักยภาพมาใช้จะทำให้สามารถลดความบูลลี่ หรือลดปัญหาต่างๆ ได้ ที่สำคัญต้องกล้าที่จะยืดหยัดด้วยตัวเองก่อน” ดาว ลภัสรดา กล่าว 

ขณะที่ผู้บริหาร อยากให้เปิดใจ อย่ามองเพียงรูปลักษณ์ภายนอก น้องๆ ทุกคนโดยเฉพาะ LGBTQ+ มีศักยภาพอยู่ภายใน เมื่อใดที่ผู้บริหารเห็นลึกไปถึงศักยภาพภายในของพวกเขา เชื่อว่าผู้บริหารจะได้คนเก่ง คนดีเข้ามาทำงานอย่างที่ MASTER ในนามโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช ได้คนเก่ง คนดีเข้ามาทำงาน 

“โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช” องค์กรแห่งโอกาส โลกทำงาน LGBTQ+ บนความเท่าเทียม

ขอโอกาส-มองเห็นคุณค่า 

“ทีซี -ริณทร์รภัฏ บุญทวีเลิศ” General Manager ศูนย์แก้ไขปรับโครงหน้า New Face Center และ Face Design Center โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช ทำงานที่โรงพยาบาลมาสเตอร์พีชมาแล้วกว่า 3 ปี ที่เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ (Born to Be) ผลการเรียนอยู่ในระดับดีมาตลอด ดีกรีปริญญาตรี 2 ใบ ทั้งสถาปัตยกรรมศาสตร์ จากรั้วแม่โดม และคณะนิติศาสตร์ จุฬาฯ หลังจบการศึกษาก็สามารถหางานทำได้ทันที 

“เป็น LGBTQ+ ต้องรู้จักหน้าที่ของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน หรือทำงาน ต้องคำนึงถึงหน้าที่ เพราะทุกคนมีภาระแตกต่างกันออกไป และถ้าเราทำคนอื่นจะเห็นเอง ไม่ต้องไปบอกใครว่าให้ยอมรับ แต่ต้องเริ่มจากการกระทำของเราเอง จะทำให้คนยอมรับเราโดยปริยาย ไม่ต้องป่าวประกาศว่า เป็นกะเทย เป็นทรานเจนเดอร์ (Transgender) หรือเป็นอะไร เพราะรูปลักษณ์ภายนอกเป็นคำอธิบายอยู่แล้ว แต่จะทำอย่างไรให้ทุกคนยอมรับตัวตนของเรา” ทีซี กล่าว 

“ทีซี” เล่าต่อว่าสิ่งแรกที่ควรทำ คือ Mindset ต่อผู้อื่น เพื่อนร่วมสังคม หมายถึงจะมองคนอื่นอย่างไร จะปฏิบัติ จะคิด จะพูดต่อคนอื่นอย่างไรเป็นเรื่องสำคัญ เพราะการเจอครั้งแรกมีทั้งชอบและไม่ชอบ แต่ต้องปฎิบัติต่อเขาอย่างดี ถึงแม้เขาจะไม่ชอบเราเรื่องเพศ ไม่ต้องไปสนใจ ขอให้เราพิสูจน์ตัวเองจากการกระทำ ต่อให้เขาไม่เห็นแต่คนรอบข้างจะเห็น

การมาทำงานที่โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช ทำให้ทีซีได้เรียนรู้วัฒนธรรมองค์กรที่เข้มข้น เป็นคลังความรู้ด้านการตลาด มีประโยชน์อย่างมากทั้งในการทำงานและการใช้ชีวิต อาทิ การ Feedback ตลอดเวลา ทำให้ขัดเกลาทุกเพศสภาพ หรือการกระทบกระทั่งกัน เป็นเครื่องมือกลางทำให้ทุกคนได้สื่อสารอย่างตรงประเด็นของเนื้องานจริงๆ และขับเคลื่อนการทำงานให้ก้าวกระโดด จนทำให้โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช เป็นองค์กรที่เติบโตเร็วมาก

“โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช” องค์กรแห่งโอกาส โลกทำงาน LGBTQ+ บนความเท่าเทียม

เน้นประสบการณ์-ความสามารถ

“ทันย่า - ณัฐธนัญ กิจวรรณ” หัวหน้าทีมการตลาดโครงการ Project Owner หัตถการเสริมหน้าผาก โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช ต้องรับผิดชอบดูแลน้องๆ ในทีมหลากหลายเพศ ทุกคนได้รับการปฏิบัติเท่ากันแต่การสื่อสารอาจต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเพศไหน ทุกคนทำงานได้ดีและได้รับการดูแล ปฏิบัติเท่ากันหมด ดังนั้นอยากเสนอว่าในการสมัครงาน ไม่อยากให้มีการโชว์รูป เพศ และอายุ ซึ่งเป็นกฎสากลของหลายๆ ประเทศอย่างออสเตรเลีย  

การรับสมัครคนเข้าทำงานควรจะพิจารณาจากประสบการณ์ วุฒิการศึกษา ความรู้ความสามารถ ทักษะ รวมทั้งควรมีกลไก หรือกฎร่วมกันว่าแต่ละกลุ่มบริษัทจะเปิดกว้างรับกลุ่มคนความหลากหลายทางเพศอย่างไร และอยากให้แต่ละองค์กร สนับสนุน หรือส่งเสริมกลุ่ม LGBTQ+ อย่างเช่น งาน MASTER Job Fair: LGBTQ+ Friends 2024 ที่เปิดโอกาสให้กลุ่ม LGBTQ+ ได้มีงานทำ และอยากให้พ่อแม่เป็น Mentor สำหรับลูกๆ มากกว่าจะเป็นพ่อแม่ อย่าคาดหวัง หรือออกแบบการใช้ชีวิตของลูก

“โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช” องค์กรแห่งโอกาส โลกทำงาน LGBTQ+ บนความเท่าเทียม

“โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช” องค์กรแห่งโอกาส โลกทำงาน LGBTQ+ บนความเท่าเทียม