วันอ้วนโลก 2566 เผยประชากรเกิน 4 ล้านคน เสียชีวิตจากโรคอ้วน ภาวะน้ำหนักเกิน

วันอ้วนโลก 2566 เผยประชากรเกิน 4 ล้านคน เสียชีวิตจากโรคอ้วน ภาวะน้ำหนักเกิน

วันอ้วนโลก (World Obesity Day) ซึ่งตรงกับวันที่ 4 มีนาคม 2566 นี้ กรมควบคุมโรค เผยประชาชนทั่วโลกมากกว่า 4 ล้านคน เสียชีวิตจากการที่มีภาวะน้ำหนักเกิน และ "โรคอ้วน"

วันอ้วนโลก (World Obesity Day) ซึ่งตรงกับวันที่ 4 มีนาคม 2566 นี้ กรมควบคุมโรค เผยประชาชนทั่วโลกมากกว่า 4 ล้านคน เสียชีวิตจากการที่มี ภาวะน้ำหนักเกินและ "โรคอ้วน" แนะปรับเปลี่ยนมุมมองความคิด ทัศนคติในการสื่อสารที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคอ้วนเพื่อเสริมสร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชน

นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า วันที่ 4 มีนาคม ของทุกปีเป็น "วันอ้วนโลก" โดยในปี 2566 สหพันธ์โรคอ้วนโลก (World Obesity Federation) ได้กำหนดประเด็นรณรงค์ คือ “Changing perspectives: Let’s talk about obesity : ปรับเปลี่ยนมุมมอง โรคอ้วนคุยกันได้” มุ่งเน้นการเสริมสร้างความตระหนักรู้ และการสื่อสารเกี่ยวกับโรคอ้วนให้กับประชาชน

เพื่อสนับสนุนให้เกิดการสื่อสารความเข้าใจที่ถูกต้อง เกี่ยวกับโรคอ้วน การป้องกันและการจัดการโรคอ้วนในสังคมไทย ทั่วโลกประชากรจำนวนมากกว่า 4 ล้านคน เสียชีวิตจากการที่มีภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วน โดยพบว่าคนที่มีภาวะน้ำหนักเกิน และอ้วนมีอัตราการตายสูงกว่าคนที่มีน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ปกติหรือน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์

ปัจจุบัน โรคอ้วน มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในเด็ก และผู้ใหญ่ จากผลการสำรวจสถานการณ์เด็ก และสตรี (MICS) ในปี 2562 โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) และองค์การยูนิเซฟ (UNICEF) ประเทศไทย พบว่า เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี มีภาวะน้ำหนักเกิน และโรคอ้วนเพิ่มขึ้นจาก ร้อยละ 8.8 ในปี 2561 เพิ่มเป็น ร้อยละ 9.2 ในปี 2562 ส่วนเด็กอายุ  6-14 ปี จากฐานข้อมูลกระทรวงสาธารณสุข พบเด็กมีภาวะน้ำหนักเกิน และโรคอ้วน เพิ่มขึ้นจาก ร้อยละ 11.7 ในปี 2561 เพิ่มเป็น ร้อยละ 12.4 ในปี 2564 ส่วนวัยผู้ใหญ่อายุ 19 ปีขึ้นไป มีแนวโน้มอ้วนมากขึ้น จากคลังข้อมูลสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุข (HDC) พบว่าเป็นโรคอ้วนหรือดัชนีมวลกายตั้งแต่ 25 กิโลกรัม/เมตร 2 มากถึง ร้อยละ 45.6 ในปี 2563 และเพิ่มเป็นร้อยละ 46.2 ในปี 2564 และร้อยละ 46.6 ในปี 2565 ซึ่งเป้าหมายของประเทศไทย มุ่งลดภาวะน้ำหนักเกิน และโรคอ้วน ในเด็กไม่ควรเกินร้อยละ 10 และควบคุมผู้ใหญ่อ้วนไม่ให้เกิน 1 ใน 3

นพ.อภิชาต วชิรพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันโรคอ้วนเป็นปัญหาทางสาธารณสุขสำคัญของโลก และประเทศไทย โรคอ้วนในทางการแพทย์เรียกว่า Obesity หมายถึง ความผิดปกติของไขมันสะสมที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพ

โดยเกณฑ์ของโรคอ้วนในคนไทยสำหรับผู้ใหญ่ อายุ 20 ปีขึ้นไป จะพิจารณาจากค่าดัชนีมวลกายหรือ BMI (Body mass index) คิดได้จาก น้ำหนักตัว (หน่วยเป็นกิโลกรัม) หารด้วย ส่วนสูง (หน่วยเป็นเมตร) ยกกำลังสอง โดยค่า BMI 23 - 24.90 แสดงถึงน้ำหนักเกิน และค่า BMI 25 ขึ้นไปแสดงถึงโรคอ้วน

สำหรับเด็กจะพิจารณาจากกราฟมาตรฐานการเจริญเติบโตเด็กซึ่งจะแตกต่างตามอายุของ 0-5 ปี และ 6-19 ปี โดยโรคอ้วนควรป้องกันตั้งแต่ช่วงวัยเด็ก เพราะโรคอ้วนในเด็กจะส่งผล เช่น ขาโก่ง นอนกรน ระบบหายใจ หัวใจ พัฒนาการ และเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเอนซีดีในวัยผู้ใหญ่ ซึ่งข้อมูลของ WHO ยืนยันว่าโรคอ้วนในวัยเด็กนั้นมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคอ้วนในวัยผู้ใหญ่ การตายก่อนวัยอันควร และภาวะทุพพลภาพ

 

วันอ้วนโลก 2566 เผยประชากรเกิน 4 ล้านคน เสียชีวิตจากโรคอ้วน ภาวะน้ำหนักเกิน

 

นพ.กฤษฎา หาญบรรเจิด ผู้อำนวยการกองโรคไม่ติดต่อ กล่าวว่า สาเหตุหลักของการเกิดโรคอ้วน คือ ความไม่สมดุลของพลังงานจากอาหารที่รับประทานเข้าไปกับการใช้งานพลังงานจากร่างกาย ส่งผลกระทบต่อการเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคไม่ติดต่อ ได้แก่ โรคหัวใจ และหลอดเลือด โรคเบาหวาน โรคเกี่ยวกับกระดูกและกล้ามเนื้อ และโรคมะเร็งบางชนิด

ดังนั้น ประชาชนสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อป้องกัน และจัดการโรคอ้วนด้วยการจำกัดปริมาณอาหารที่มีไขมัน โซเดียม และน้ำตาลสูง เพิ่มการบริโภคผักผลไม้ และธัญพืช และเพิ่มกิจกรรมทางกาย

กรมควบคุมโรค จึงขอเชิญชวนหน่วยงาน องค์กร จัดรณรงค์วันอ้วนโลกตลอดปี 2566 ภายใต้แนวคิด “Changing perspectives: Let’s talk about obesity : ปรับเปลี่ยนมุมมอง โรคอ้วนคุยกันได้” ผลักดันให้คนไทยใส่ใจกับโรคอ้วน เสริมสร้างความตระหนักรู้ และการสื่อสารเกี่ยวกับโรคอ้วนให้กับทุกคน เพื่อสนับสนุนให้เกิดการสื่อสารความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคอ้วน การป้องกัน และการจัดการโรคอ้วน และเชิญชวนหน่วยงานร่วมติดแฮชแท็ก (Hashtag) #โรคอ้วนคุยกันได้ #WorldObesityDay #สะกิดพิชิตโรคอ้วน

 

วันอ้วนโลก 2566 เผยประชากรเกิน 4 ล้านคน เสียชีวิตจากโรคอ้วน ภาวะน้ำหนักเกิน

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์