แลปแรก! ผ่านรับรองตรวจ 'สารสกัดกัญชา' ผลใช้แสดงได้ทั่วโลก ไม่ต้องตรวจซ้ำ
GPO PROLAB ห้องแลปของอภ. ผ่านรับรองมาตรฐานสากล ตรวจวิเคราะห์สารCBD-THCในสารสกัดกัญชาเป็นแห่งแรก แสดงผลได้ทั่วโลก ไม่ต้องตรวจซ้ำในประเทศปลายทาง ตอบโจทย์นักวิจัย-ผู้ประกอบการ สร้างความเชื่อมั่นผู้บริโภค ขณะที่กัญชาทางการแพทย์ใช้เพิ่มขึ้น 10 เท่า
เมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่โรงแรมเอเชีย องค์การเภสัชกรรม(อภ.) แถลงข่าวเปิดตัว GPO PROLAB ห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์มาตรฐานสากล ISO/IEC 17025 และรับมอบใบรับรองมาตรฐานจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยนพ. โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า GPO PRO LAB เป็นแนวคิดริ่เริ่มมาจากโครงการกัญชาทางการแพทย์ที่องค์การเภสัชกรรม ให้ความสำคัญตลอดห่วงโซ่อุปทานโดยมีห้องปฏิบัติการที่มีมาตรฐาน ดำเนินงานตรวจวิคราะห์วัตถุดิบ สารสกัดและผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป เป็นขั้นตอนสำคัญในการผลิตผลิตภัณฑ์คุณภาพมาสู่ผู้บริโภค
การที่ห้องปฏิบัติการ GPO PRO LAB ขององค์การเภสัชกรรม(อภ.) มีการดำเนินงานภายใต้แนวทางธุรกิจใหม่ และขยายศักยภาพในการเตรียมความพร้อมรองรับการให้บริการตรวจวิเคราะห์หาสารปนเปื้อนต่างๆ ในวัตถุดิบสารสกัดและผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุบัน(Elemental Impurities ) สอดคล้องตามข้อกำหนดมาตรฐานสากลด้านการวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ยาที่นานาชาติให้การยอมรับ
การได้รับรองความสามารถห้องปฏิบัติการมาตรฐานสากล ISO/IEC 17025 ในผลิตภัณฑ์ยาน้ำมันกัญชาหยอดใต้ลิ้น ครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะส่งเสริมให้มีการพัฒนามาตรฐานการผลิตกัญชา กัญชง ตลอดจนสมุนไพรและยาแผนปัจจุบันของประเทศ
"การได้ข้อมูลจากการวิเคราะห์ที่ถูกต้องแม่นยำและดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว ไม่เพียงทำให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นในคุณภาพแล้ว ยังจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดทันต่อความต้องการของผู้บริโภค ช่วยขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจประเทศเติบโตก้าวหน้าต่อไป”นพ.โสภณกล่าว
ผลแลปใช้แสดงได้ทั่วโลก
นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า การที่องค์การเภสัชกรรมได้รับใบรับรองความสามารถห้องปฏิบัติการตามมาตรฐานสากล ISO/IEC 17025 : 2017 ในด้านการทดสอบสาร Cannabidiol(CBD) และ Delta-9-tetrahydrocannabinol (THC) ในยาน้ำมันกัญชาหยอดใต้ลิ้น จากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ที่ได้รับการยอมรับร่วมจากหน่วยรับรองสากล Asia Pacific Accreditation Cooperation (APAC) และ International Laboratory Accreditation Cooperation (ILAC)
มาตรฐานนี้เป็นข้อกำหนดทั่วไปว่าด้วยความสามารถของห้องปฏิบัติการในการดำเนินการทดสอบและ/หรือสอบเทียบ เป็นเกณฑ์สำหรับห้องปฏิบัติการทดสอบและห้องปฏิบัติการสอบเทียบ ที่แสดงว่าห้องปฏิบัติการมีการดำเนินงานด้านระบบคุณภาพและมีความสามารถทางวิชาการ
ผลการทดสอบหรือสอบเทียบเป็นที่เชื่อถือได้ว่าถูกต้องตามหลักวิชาการ จึงสร้างความมั่นใจในผลของการทดสอบว่าถูกต้องตามขอบข่ายที่ได้รับการรับรอง เกิดประโยชน์ต่อการเจรจากับคู่ค้าในการยอมรับร่วมในผลการทดสอบจากห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองโดยไม่จำเป็นต้องทดสอบซ้ำ (Accredited Once, Accepted Everywhere) สร้างความเชื่อมั่นต่อการตัดสินใจ
ตลอดจนการใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงกรณีมีข้อขัดแย้งในเรื่องมาตรฐานคุณภาพผลิตภัณฑ์หรือการกำกับดูแลตามกฎหมาย ตอบสนองต่อการแข่งขันทางเศรษฐกิจของประเทศและการคุ้มครองผู้บริโภค เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ รวมทั้งเพิ่มรายได้เข้าประเทศจากการขายสินค้าที่มีมาตรฐานไปยังตลาดโลก
“กรมวิทย์ให้การรับรองแลปของอภ.ในการตรวจสารCBD และTHC ในสารสกัดกัญชา ถือเป็นห้องแลปแรกของประเทศไทยที่ได้รับการรับรองด้วยมาตรฐานสากลนี้ เป็นประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการ รวมถึง นักวิจัย เพราะปัจจุบันในการทำวิจัยมีการตรวจสอบแลปที่ใช้ทดสอบผลการวิจัยต่างๆมากขึ้น
"ผลที่ได้จากการทดสอบของแลปอภ.นี้ สามารถใช้แสดงได้ทุกประเทศเรียกว่าทั่วโลก ทำให้ไม่ต้องไปตรวจซ้ำในประเทศปลายทางนั้นๆ”นพ.ศุภกิจกล่าว
เปิดให้บริการผู้ประกอบการ
ด้านนพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า องค์การเภสัชกรรมมีกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์ที่เป็นมาตรฐานภายใต้หลักการสำคัญที่มุ่งให้ผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์มีคุณภาพ โดยมีการควบคุมคุณภาพด้วยการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการที่มีมาตรฐาน ตั้งแต่วัตถุดิบจนถึงเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป
องค์การเภสัชกรรมได้จัดตั้งหน่วยงานเพื่อดำเนินงานตรวจวิเคราะห์โดยเฉพาะในชื่อ GPO PRO LAB ขึ้นมา ได้ลงทุนทรัพยากรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องมือ อุปกรณ์ในการตรวจวิเคราะห์ที่ทำให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำ ทันสมัยและรวดเร็ว ตลอดจนพัฒนาองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญให้แก่บุคลากรในการปฏิบัติงานตรวจวิเคราะห์
“ที่สำคัญได้รับการรับรองความสามารถห้องปฏิบัติการมาตรฐานสากล ISO/IEC 17025 ทำให้เห็นถึงศักยภาพในการดำเนินงานภายใต้รูปแบบธุรกิจใหม่ จึงเปิดให้บริการตรวจวิเคราะห์ให้กับผู้ประกอบการภายในประเทศเพิ่มจากเดิมที่ตรวจวิเคราะห์เฉพาะผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์และกังชงเพื่อสุขภาพ ที่ผลิตโดยองค์การเภสัชกรรมเท่านั้น”นพ.วิฑูรย์กล่าว
นพ.วิฑูรย์ กล่าวอีกว่า องค์การฯเตรียมรองรับการตรวจวิเคราะห์หาสารปนเปื้อนต่างๆ ในวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุบัน (Elemental Impurities ) ซึ่งหลายประเทศเช่น สหรัฐอเมริกา ได้เพิ่มข้อกำหนดในการตรวจวิเคราะห์หาสารปนเปื้อน ได้แก่ โลหะหนัก ในยาแผนปัจจุบัน เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค ซึ่งการตรวจวิเคราะห์ดังกล่าวจำเป็นต้องใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์ วิธีการทดสอบตลอดจนความเชี่ยวชาญในการดำเนินงานซึ่ง GPO PRO LAB ขององค์การเภสัชกรรมมีศักยภาพและความพร้อมในการให้บริการดังกล่าวแก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมยาในประเทศอีกด้วย
บริการทดสอบ 3 ส่วน
ภญ.นันทกาญจน์ สุวรรณปิฎกกุล รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า GPO PRO LAB ตั้งอยู่ชั้น 6 ในอาคารฝ่ายชีววัตถุ องค์การเภสัชกรรม ถนนพระรามหก กรุงเทพฯ โดยเปิดให้บริการดังนี้
1. ให้บริการตรวจวิเคราะห์หาปริมาณสารสำคัญของสารแคนนาบินอยด์ (Cannabinoids) ได้แก่ ทีเอชซี (THC)ซีบีดี (CBD) ซีบีดีเอ(CBDA) ทีเอชซีเอ (THCA) ซีบีเอ็น(CBN) ในวัตถุดิบ สารสกัดและผลิตภัณฑ์กัญชา กัญชง
2.ตรวจสอบหาสารปนเปื้อนต่างๆในวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุบัน (Elemental Impurities) ได้แก่ แคดเมี่ยม ตะกั่ว สารหนู สารปรอท โคบอลต์ เป็นต้น
3. การทดสอบหาสารปนเปื้อน ได้แก่ สารเคมีกำจัดแมลง, โลหะหนัก และอะฟลาทอกซิน (Aflatoxins) ในวัตถุดิบกัญชาและกัญชง ซึ่งจะเปิดให้บริการในลำดับต่อไป
การตรวจจะใช้เวลาประมาณ 15 วัน ค่าบริการเบื้องต้นสำหรับการตรวจน้ำมันกัญชาใต้ลิ้นประมาณ 7,000 บาท ส่วนการตรวจสารสกัดหรือวัตถุดิบต่างๆจะอยู่ที่ประมาณ 10,000 บาท ขึ้นกับรายละเอียดที่ต้องการทดสอบ
สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจกัญชา กัญชง ตลอดจนผู้ผลิตผลิตภัณฑ์สมุนไพรและยาแผนปัจุบัน ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ช่องทางออนไลน์ Line ID : GPO_CAL หรืออีเมล์ [email protected] โทรศัพท์หมายเลข 02 203 8686-8, 092 260 2176 หรือ Call Center : 1648
ใช้กัญชาทางการแพทย์เพิ่ม 10 เท่า
นพ.วิฑูรย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้องค์การเภสัชกรรมเดินหน้าสู่การเป็น Global Brand ปัจจุบันมีการ พัฒนาผลิตภัณฑ์ส่งกระจายใช้ใน คลินิกกัญชา 12 แห่ง และมีสถานพยาบาลของภาครัฐและเอกชนที่นำผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์ของทางการเภสัชกรรมไปใช้ตามแนวทางการรักษาที่กรมการแพทย์กำหนดและกว่า 300 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งผลิตภัณฑ์ของอภ.เป็นการใช้กัญชาเสรีทางการแพทย์ ไม่มีการนำเอาไปใช้สันทนาการ
ที่ผ่านมายากัญชาของอภ. 4 สูตร ที่ออกมาได้รับการขึ้นทะเบียนบัญชียาหลักแห่งชาติ มีแพทย์แผนไทย แผนปัจจุบันมีความมั่นใจในการใช้ผลิตภัณฑ์เพิ่มมากขึ้น จากเดิมต้องการใช้ราวเดือนละ 10 กว่าขวด แต่ปัจจุบันอัตราความต้องการใช้มีมากกว่า 100 ขวดต่อเดือน โดยเฉพาะสูตร cbd เด่น และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น โดยยังมีศักยภาพการผลิตที่รองรับได้อีกมาก