'รพ.วชิระภูเก็ต'ยกระดับบริการ รองรับเมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก
โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เร่งพัฒนายกระดับบริการสุขภาพ รองรับความต้องการของประชาชนและนักท่องเที่ยว ให้บริการศูนย์การแพทย์เชี่ยวชาญหลายสาขา เตรียมพัฒนาศูนย์รังสีดูแลผู้ป่วยมะเร็งโซนอันดามันครบวงจร พร้อมก้าวสู่เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก
กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายในการพัฒนาโรงพยาบาลในสังกัดให้เป็นโรงพยาบาลของประชาชน มีการจัดบริการที่สอดคล้องกับความต้องการและบริบทของพื้นที่ โดยใช้ทรัพยากรทางการแพทย์ร่วมกันอย่างคุ้มค่าและเต็มศักยภาพ ภายใต้หลักการ One Province One Hospital ซึ่งในส่วนของจังหวัดภูเก็ต การเพิ่มศักยภาพของโรงพยาบาล ยังช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจจากการเป็นเมืองท่องเที่ยวได้อีกทางหนึ่ง
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลในการดำเนินโครงการเตรียมความพร้อมยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ จ.ภูเก็ต สู่เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก วงเงิน 72.27 ล้านบาท ขณะนี้การออกแบบและการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เสร็จเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างแต่งตั้งคณะกรรมการราคากลางและจัดทำ TOR ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน มิ.ย.นี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
กินดี-สุขภาพดี มาแรงหลังโควิด ดันไทยสู่เป้า "การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ"
ส่องเทรนด์ Wellness Tourism เมื่อคนออกเดินทางเพื่อดูแลตัวเอง
‘สุขภาพ-ความงาม’ มาแรงแห่งยุค คาด ปี 70 มูลค่าตลาดพุ่ง 2.48 แสนล้านบาท
เตรียมพร้อมเปิดศูนย์การแพทย์เชี่ยวชาญหลายสาขา
ด้าน นพ.วีระศักดิ์ หล่อทองคำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กล่าวว่า ปัจจุบันโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต มีศูนย์การแพทย์เชี่ยวชาญหลายสาขา อาทิ ศูนย์หัวใจอันดามัน ดูแลรักษาโรคหัวใจตั้งแต่เด็กจนถึงผู้สูงอายุ พร้อมห้องผ่าตัดไฮบริด ช่วยผู้ป่วยฟื้นตัวไว กลับบ้านได้เร็ว, ศูนย์ส่องกล้อง, ศูนย์การรักษาด้วยออกซิเจนความดันบรรยากาศสูง
ตลอดจนเป็นศูนย์อำนวยการรับแจ้งเหตุ ศูนย์สั่งการและศูนย์ประสานการส่งต่อทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ สร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังเตรียมเปิดสอนนวดไทยหลักสูตร 372 ชั่วโมง เพื่อผลิตผู้ช่วยแพทย์แผนไทยหรือหมอนวดไทยที่ได้มาตรฐานเข้าสู่ระบบบริการสุขภาพด้วย
สำหรับในปี 2567 – 2568 โรงพยาบาลมีแผนพัฒนาศูนย์รังสีรักษาอันดามัน ให้บริการรักษาผู้ป่วยมะเร็งในจังหวัดภูเก็ตและโซนอันดามันอย่างครบวงจร และเพิ่มห้องผ่าตัดจากเดิม 15 ห้อง เป็น 26 ห้อง เพื่อรองรับบริการผ่าตัดทั้งฉุกเฉินและไม่ฉุกเฉิน 13,000-15,000 ราย/ปี ตลอดจนเพิ่มห้องผ่าตัดไฮบริดอีก 1ห้อง และห้องตรวจสวนหัวใจอีก 1 ห้อง รองรับผู้ป่วยโรคหัวใจ 2,000 ราย/ปี