7 จังหวัด "มาลาเรีย" กลับมาพบผู้ป่วยใหม่ 90 %สายพันธุ์เชื้อซ่อนได้
โรคไข้มาลาเรีย กรมควบคุมโรคเผยไทยมี 42จังหวัดปลอดเชื้อ อีก 35 จังหวัดแพร่เชื้อ ในนี้มี 7 จังหวัดกลับมาพบใหม่ ปีนี้พบผู้ป่วยแล้วเกือบ 3,000 ราย ตากมากที่สุด เจอสายพันธุ์พีเอฟ 90 % เชื้ออาจซ่อนในตัวแต่ไม่มีอาการ ตั้งเป้าเร่งกำจัดไข้มาลาเรียเป็น 0 ภายในปี 69
KEY
POINTS
- สถานการณ์โรคไข้มาลาเรียในประเทศไทย ปีนี้เจอผู้ป่วยแล้วเกือบ 3,000 ราย มี 42 จังหวัดปลอดเชื้อ 35 จังหวัดแพร่เชื้อในจำนวนนี้มี 7 จังหวัดเคยปลอดแต่กลับมาเจอใหม่
- 90 % โรคไข้มาลาเรียในประเทศไทยเป็นสายพันธุ์พีวี ซเป็นกลุ่มอาการน้อย บางทีไม่มีอาการ แต่ตนเองยังมีเชื้ออยู่ อาจหลบซ่อนอยู่ในตับได้นานเป็นปี ร่างกายอ่อนแอถึงแสดงอาการ
- มาตรการของประเทศไทยในการกำจัดโรคไข้มาลาเรียให้เป็น 0 มุ่งจัดการสายพันธุ์พีเอฟ ไม่ให้แพร่เชื้อต่อจากผู้ป่วยจากต่างประเทศเข้ามาในไทย
25 เมษายนของทุกปี องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้กำหนดให้ เป็นวันมาลาเรียโลก (World Malaria Day) เพื่อกระตุ้นเตือนให้ทุกประเทศ ตระหนักถึงภาระโรคที่เกิดจากโรคไข้มาลาเรีย และให้ความสำคัญกับการกำจัดโรคไข้มาลาเรีย
เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2567 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กล่าวในการเป็นประธานเปิดโครงการรณรงค์วันมาลาเรียโลก 2567 ภายใต้แนวคิด Zero indigenous malaria is possible. “กำจัดโรคมาลาเรียให้หมดไป ประเทศไทยทำได้” ว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยมีการแพร่ระบาดของโรคไข้มาลาเรียอยู่ในบางพื้นที่ โดยเฉพาะตามแนวชายแดนฝั่งตะวันตก
ตามที่ได้ดำเนินการภายใต้ยุทธศาสตร์กำจัด โรคไข้มาลาเรีย พ.ศ. 2560-2569 โดยความร่วมมือกับองค์กรระหว่างประเทศ ได้แก่ องค์การอนามัยโลก (WHO) องค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (USAID) Asia Pacific Leaders Malaria Alliance (APLMA) และมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานฟรานซิสโก (UCSF) รวมถึงองค์กรภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม
และยังคงดำเนินมาตรการป้องกันการกลับมาแพร่เชื้อใหม่ เน้นการประเมินความเสี่ยงในการเกิดโรค รวมทั้งการเฝ้าระวังโรคและการเตรียมความพร้อมที่เกี่ยวข้อง เพื่อคงไว้ซึ่งสถานะจังหวัดปลอดโรค ส่วนจังหวัดที่ยังคงมีการระบาด เน้นการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก และขยายการเข้าถึงบริการตรวจรักษาในชุมชน เพื่อควบคุมสถานการณ์ในพื้นที่ดังกล่าวให้เข้าสู่ภาวะปกติ
โรคไข้มาลาเรียพบป่วยเกือบ 3,000 ราย
สถานการณ์โรคไข้มาลาเรีย ตั้งแต่เดือนมกราคม-ปัจจุบัน มีรายงานผู้ป่วย จำนวน 2,913 ราย ซึ่งใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ณ ช่วงเวลาเดียวกัน จังหวัดที่พบผู้ป่วยสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
- ตาก 1,671 ราย
- แม่ฮ่องสอน 308 ราย
- กาญจนบุรี 251 ราย
- ระนอง 187 ราย
- และประจวบคีรีขันธ์ 174 ราย
โดยพบในกลุ่มอายุ 15 ปีขึ้นไป 74 % ประกอบอาชีพทำสวน ทำไร่ 41 %เป็นผู้ป่วยต่างชาติ 60 %
สำหรับโรคไข้มาลาเรียในประเทศไทย 90 %จะเป็นสายพันธุ์ Plasmodium vivax เชื้อมาลาเรียพลาสโมเดียมไวแวกซ์ หรือ พีวี ซึ่งเป็นกลุ่มอาการน้อย บางทีไม่มีอาการ แต่ตนเองยังมีเชื้ออยู่ ซึ่งเชื้ออาจหลบซ่อนอยู่ในตับได้นานเป็นปี ถ้าร่างกายไม่แข็งแรงก็จะแสดงอาการป่วย
ทั้งนี้ การจะแพร่เชื้อได้ต้องเป็นระยะมีอาการ หากยุงก้นปล่องไปกัดขณะมีเชื้อในเลือดก็แพร่เชื้อต่อได้ โดยสามารถสังเกตตัวเองได้จากป่วยแล้วมีประวัติได้ในพื้นที่ที่มีเชื้อหรือไม่ หากมีก็ต้องแจ้งแพทย์
จากการประเมินความเสี่ยงการระบาดของโรคไข้มาลาเรีย พบว่ายังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เจ้าหน้าที่สาธารณสุขต้องเร่งรัดมาตรการ 1-3-7 โดย แจ้งเตือนเมื่อพบผู้ป่วยภายใน 1 วัน สอบประวัติเพื่อระบุแหล่งแพร่เชื้อภายใน 3 วัน
และตอบโต้สถานการณ์ภายใน 7 วัน พร้อมทั้งควบคุมยุงพาหะนำโรคโดยเฉพาะพื้นที่ระบาด และเร่งค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก เพื่อให้ได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพ และต้องกินยาให้ครบ ป้องกันการกลับมาป่วยซ้ำ
ป่วยโรคไข้มาลาเรียไม่รู้ตัว ห่วงคนเมืองเที่ยวป่า
นพ.ธงชัย กล่าวด้วยว่า สถานการณ์ขณะนี้ พบบางจังหวัดที่ปลอดมาลาเรีย เริ่มกลับมาเจอโรคในปีนี้ ส่วนหนึ่งมาจากพื้นที่ชายแดน มีการเดินทางข้ามฝั่งมา โดยเฉพาะชายแดนเมียนมา มีอัตราผู้ป่วยเพิ่มขึ้น
หลังจากมีสถานการณ์การสู้รบ และเคลื่อนมาไทยตามแนวชายแดน อย่างที่ จ.ระนอง เดิมเจอผู้ป่วยปีละประมาณ 10 คน แต่ปัจจุบันเจอราว 100 คน จึงได้ร่วมมือกับ USAID และภาคีเครือข่ายในการร่วมมือให้ภูมิภาคนี้ ลดการป่วยของโรค และให้หมดไปในที่สุด
นอกจากนี้ ที่น่าห่วง คือ การท่องเที่ยวตามป่าเขา น้ำตก ท่องเที่ยวตามธรรมชาติ เช่น คนอยู่กทม.ไปเที่ยวกลับมาป่วยเป็นมาลาเรีย แพทย์อาจไม่ทราบประวัติการไปท่องเที่ยว ก็จะไม่คิดถึงโรคนี้ ดังนั้น หากมีไข้จับสั่น รีบไปพบแพทย์และแจ้งให้แพทย์ว่ามีประวัติเที่ยวป่า
การติดเชื้อจากป่า จะแพร่มายังเมืองหรือไม่นั้น มีทีมวิจัย ซึ่งยังไม่พบว่า ยุงก้นปล่องจะแพร่เชื้อมายังยุงเมืองได้ ซึ่งคนเมืองที่ไปเที่ยวป่าและกลับมา กทม. ไม่ต้องกังวลวว่า จะนำเชื้อมาแพร่จากการที่ยุงเมืองกัดตนเองและไปกัดคนอื่น
"ที่กังวลคือ กลับมาแล้วป่วย แต่ถูกรับวินิจฉัยช้า เพราะไม่ได้คิดถึงโรคนี้ ดังนั้น หากไปพบแพทย์ย้ำว่า ขอให้แจ้งประวัติว่าไปพื้นที่ไหน ซึ่งสามารถเช็กกับทางกรมควบคุมโรคได้ว่า พื้นที่ไหนที่มีการแพร่เชื้อมาลาเรีย” นพ.ธงชัยกล่าว
อาการโรคไข้มาลาเรีย-วิธีป้องกัน
นพ.อภิชาต วชิรพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเพิ่มเติมว่า โรคไข้มาลาเรีย มียุงก้นปล่องเป็นพาหะนำโรค มักพบในบริเวณป่าเขา สวนยางพารา แหล่งน้ำธรรมชาติ และออกหากินเวลาใกล้ค่ำจนรุ่งสาง จึงขอแนะนำให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าว ป้องกันตนเองจากยุงกัด ตามเวลาที่ยุงออกหากิน
หากมีอาการผิดปกติ เช่น มีไข้ ปวดศีรษะ หนาวสั่น ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที สำหรับนักท่องเที่ยวหรือผู้เดินทางไปพักค้างคืนในพื้นที่ป่าเขา ขอให้ป้องกันตนเองจากยุงกัด และสังเกตอาการ ประมาณ 10-14 วัน
หากมีอาการไข้ ปวดศีรษะ หนาวสั่น ให้สงสัยว่าอาจเป็น โรคไข้มาลาเรีย ให้รีบไปพบแพทย์ในสถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน เพื่อเจาะเลือดตรวจหาเชื้อมาลาเรีย และต้องแจ้งประวัติเข้าป่าหรือไปบริเวณที่เป็นพื้นที่เสี่ยงให้แพทย์ทราบ เพื่อให้การรักษาที่รวดเร็ว หากล่าช้าอาจมีอาการแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น มาลาเรียขึ้นสมอง อาจทำให้เสียชีวิตได้
มุ่งกำจัดโรคไข้มาลาเรียสายพันธุ์พีเอฟ
ขณะที่ พญ.ฉันทนา ผดุงทศ ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อนำโดยแมลง คร. กล่าวว่า การกำจัดโรคมาลาเรียให้เป็น 0 ในประเทศไทยนั้น แปลว่าการกำจัดสายพันธุ์ Plasmodium falciparum เชื้อมาลาเรียพลาสโมเดียมฟัลชิปารัม หรือ พีเอฟ (P.f.) ซึ่งเป็นเชื้อชนิดรุนแรง หากป่วยหนัก อาจมีอาการมาลาเรียขึ้นสมอง สมองบวม โคม่า ถ้ารักษาไม่ทันอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
ในการกำจัดคือไม่ให้สายพันธุ์นี้มีการติดเชื้อต่อในประเทศไทย แม้ว่าจะมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อเป็นกรณีที่นำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน แต่จะต้องดำเนินการจัดการให้ได้ทันที เพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อต่อภายในประเทศไทย
ปัจจุบันเชื้อสายพันธุ์นี้พบผู้ป่วยในประเทศไทยราว 5 % เป็นสายพันธุ์ Plasmodium vivax เชื้อมาลาเรียพลาสโมเดียมไวแวกซ์ หรือ พีวี (P.v.) เป็นเชื้อชนิดไม่รุนแรง แต่ถ้าไม่ได้รักษาให้หายขาด เชื้อสามารถอยู่ในร่างกายคนได้นานหลายปี จึงทําให้มีอาการของโรคไข้มาลาเรียเป็นๆ หายๆ 90 % และอีก 5 % เป็นสายพันธุ์อื่น
ผู้ป่วยมาลาเรียหากได้รับการรักษาทัน รับประทานยาครบ 3 วันติดต่อกัน แต่สายพันธุ์พีวี จะต้องกินยาต่ออีก 14 วันเพื่อฆ่าเชื้อในตัวที่มีอยู่แต่อาจจะไม่แสดงอาการแล้ว ซึ่งปัญหาที่เจอคือผู้ป่วยจำนวนมากกินยาไม่ครบ 14 วัน จึงมีการคิคค้นยาใหม่ให้กินเพียง 1 เม็ด 1 วัน
"ผู้ป่วยที่จะได้รับยาตัวนี้จะต้องไม่มีภาวะพร่องเอนไซม์จี-ซิก-พีดี(G-6-PD) มิเช่นนั้นเมื่อได้รับยาแล้วจะทำให้เม็ดเลือดแดงแตกง่าย จึงต้องมีการทดสอบภาวะนี้ก่อน ทั้งนี้ คนไทยและประเทศเพื่อบ้านมีภาวะพร่องเอนไซม์นี้10-15 % ถือว่าสูง”พญ.ฉันทนากล่าว
7 จ.โรคไข้มาลาเรียกลับมาพบใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค ระบุว่าในปี 2566 ประเทศไทยมีจังหวัดปลอดโรคไข้มาลาเรีย 42 จังหวัด
และ มี 35 จังหวัดที่มีการแพร่เชื้อมาลาเรียอยู่ ในจำนวนนี่มี 7 จังหวัดเคยปลอดเชื้อมาลาเรีย แต่กลับมาพบผู้ป่วยติดเชื้อในพื้นที่อีกครั้ง ประกอบด้วย ชัยภูมิ ภูเก็ต พิษณุโลก ลำพูน กำแพงเพชร สระบุรี และสุพรรณบุรี
ส่วนอีก 28 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก เพชรบูรณ์ อุทัยธานี ราชบุรี เพชรบุรี กาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี พังงา กระบี่ สงขลา ยะลา นราธวาส อุบลราชธานี ศรีสะเกษ ชลบุรี ตราด จันทบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา มุกดาหาร สุรินทร์ นครราชสีมา และน่าน
5 สายพันธุ์ โรคไข้มาลาเรีย
โรคไข้มาลาเรียเป็นโรคติดเชื้อโปรโตซัวในกลุ่มพลาสโมเดียม (Plasmodium spp.) ปัจจุบันในประเทศไทยเชื้อที่พบส่วนใหญ่คือ Plasmodium vivax ซึ่งเป็นชนิดที่ไม่แสดงอาการรุนแรง แต่สามารถเป็นๆ หายๆ จากเชื้อที่มีระยะหลบพักในตัว โดยเชื้อมาลาเรียที่ก่อโรคในคนมี 5 ชนิด ได้แก่
1. Plasmodium falciparum เชื้อมาลาเรียพลาสโมเดียมฟัลชิปารัม หรือ พีเอฟ (P.f.) เป็นเชื้อชนิดรุนแรง หากป่วยหนัก อาจมีอาการมาลาเรียขึ้นสมอง ถ้ารักษาไม่ทันอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
2. Plasmodium vivax เชื้อมาลาเรียพลาสโมเดียมไวแวกซ์ หรือ พีวี (P.v.) เป็นเชื้อชนิดไม่รุนแรง แต่ถ้าไม่ได้รักษาให้หายขาด เชื้อสามารถอยู่ในร่างกายคนได้นานหลายปี จึงทําให้มีอาการของโรคไข้มาลาเรียเป็นๆ หายๆ
3. Plasmodium malariae เชื้อมาลาเรียพลาสโมเดียมมาลาเรอิ หรือ พีเอ็ม (P.m.)
4. Plasmodium ovale เชื้อมาลาเรียพลาสโมเดียมโอวาเล หรือ พีโอ (P.o.)
5. Plasmodium knowlesi เชื้อมาลาเรียพลาสโมเดียมโนไซ หรือ พีเค (P.k.) เป็นเชื้อมาลาเรียที่อยู่ในลิงแสม แล้วติดมาสู่คน