"ปลูกกัญชา" กว่า 2 ปี วันนี้ไม่เป็นอย่างที่คิด เสียงสะท้อนจากวิสาหกิจชุมชน

"ปลูกกัญชา" กว่า 2 ปี วันนี้ไม่เป็นอย่างที่คิด เสียงสะท้อนจากวิสาหกิจชุมชน

วิสาหกิจชุมชนฯเผยปลูกกัญชา ราคาดีช่วงแรก ตอนนี้ผลผลิตค้างขายไม่ออกหลายตัน  ถูกคนรับซื้อกดราคา แถบถูกสายพันธุ์ต่างประเทศเข้ามาตีตลาด ลั่นหากกัญชาคืนเป็นยาเสพติด รัฐต้องรับผิดชอบคนที่ลงทุน

KEY

POINTS

  • สถานการณ์จริงตอนนี้ ซึ่งวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกกัญชากำลังเผชิญ หลังปลูกมากว่า 2 ปี  แรกๆราคาดีแม้แต่ใบกิโลกรัมละ 10,000 กว่าบาทต้องจองข้ามปี  แต่เปิดเสรี ผลผลิตเหลือค้าง ถูกกดราคา แถมถูกสายพันธุ์นอกเข้ามาตีตลาด
  • ผู้ปลูกกัญชาเสนอ 5 ข้อ รัฐช่วยเหลือ สกัดกัญชาลักลอบนำเข้า ตรวจสอบสายพันธุ์กัญชาที่มีขายในตลาด หากกัญชาคืนเป็นยาเสพติด รัฐต้องรับผิดชอบผู้ปลูกกัญชา
  • “สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สธ.”เผยคนปลูกที่ยังไม่ได้ปลูกกัญชาใหม่ ให้หยุดปลูกไว้ก่อน  พร้อมหารือกับผู้ประกอบการทุกด้าน 

ปลดล็อกกัญชา ไม่เป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 จะครบ 2 ปีในวันที่ 9 มิ.ย.2567 ขณะที่เกษตรกรที่รวมตัวเป็นวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกกัญชา ที่ทำถูกต้องตามกฎหมาย สะท้อนสถานการณ์จริงที่กำลังเผชิญ และหากรัฐจะนำกัญชาคืนเป็นยาเสพติดจะต้องรับผิดชอบ คนที่ลงทุนไปแล้ว 

ปลูกกัญชา ขายได้ดีแค่ช่วงแรก

ตัวแทนวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกกัญชา ในจ.สกลนคร ให้ข้อมูลกับกรุงเทพธุรกิจว่าเริ่มต้นกว่า 2 ปี ชาวบ้านในกลุ่มโค่นสวนยาง สวนอ้อย มาลงทุนสร้างโรงเรือนเพื่อปลูกกัญชา โดยทำถูกต้องตามข้อกำหนดของกฎหมายทุกอย่าง  ด้วยความหวังจะลืมตาอ้าปากได้ ซึ่งในช่วงแรกขายได้ราคาดี  ใบราคากิโลกรัมละ 10,500 บาท และมีการจองข้ามปี 

ส่วนช่อดอกกลุ่มส่งขายให้กับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และรพ.พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร สำหรับทำเป็นยา รวมถึง กลุ่มนำกิ่ง ก้าน ใบมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ชาชงและชุดต้มเพื่อสุขภาพ กำไร 5-10 บาท

หลังกัญชาเสรี ในปลายปี  2566 ยังขายได้หมดแต่ราคาก็ลดลง ขณะที่ปี 2567 ยังขายไม่ได้ มีผลผลิตค้างอยู่หลายพันกิโลกรัม นอกจากจะไม่มีพ่อค้าเข้ามารับซื้อแล้ว หากมีก็จะกดราคาต่ำมาก ช่อดอกกิโลกรัมละ 1,200 บาท

เนื่องจากปัญหามีการลักลอบนำเข้ากัญชามาจากประเทศเพื่อบ้านเพราะมีคนไทยไปลงทุนปลูกไว้ที่โน่น บวกกับคนไทยร่วมทุนกับชาวต่างชาติ นำสายพันธุ์นอกเข้ามาปลูกในประเทศไทย และส่งขายให้กับร้านกัญชาที่มีอยู่ทั่วไปโดยเฉพาะในพื้นที่กทม. โดยขายได้ราคาละหลักแสนบาท ทำให้กัญชาที่ปลูกในประเทศไทยขายไม่ได้

ปลูกกัญชา สิ่งที่ต้องการให้รัฐช่วย

สิ่งที่ต้องการให้ภาครัฐเข้ามาดำเนินการช่วยเหลือ คือ  

1.รัฐออกกฎระเบียบที่ช่วยเหลือ เอื้อต่อชาวบ้านกลุ่มผู้ปลูกกัญชา อย่าเอื้อกลุ่มทุนที่นำกัญชาสายพันธุ์นอกเข้ามาปลูก

 2.สกัดการลักลอบนำเข้ากัญชาจากประเทศเพื่อนบ้าน

 3.ตรวจสอบสายพันธุ์กัญชาที่มีการปลูกว่าเป็นพันธุ์ไทยหรือไม่ เพราะหากจะให้ชาวบ้านไปสู้ด้วยการปลูกสายพันธุ์นอกที่ราคาเมล็ดหลายร้อยบาท ชาวบ้านคงสู้ไม่ไหว 

4.ทบทวนข้อกฎหมาย ระเบียบต่างๆ ในการช่วยเหลือ ส่งเสริมเกษตรกรผู้ปลูก 

5.ในเรื่องการออกใบอนุญาตต้องมีการตรวจสอบ ไม่ใช่ใครก็ปลูกได้ ต้องเอื้อให้กับประชาชน เพราะทำนโยบายนี้เพื่อต้องการกระจายรายได้ให้เกษตรกร 

กัญชาคืนเป็นยาเสพติด รัฐต้องรับผิดชอบ   

“ตอนนี้สมาชิกกลุ่มมีผลผลิตเหลือหลายตัน  อยากให้รัฐย้อนกลับไปจุดเริ่มต้นของนโยบายกัญชาที่ต้องการช่วยเหลือให้เกษตรกรลืมตาอ้าปากได้ แต่ตอนนี้เกษตรกรผู้ปลูกยังไม่ได้แม้แต่ค่าลงทุนทำโรงเรือนคืนเลย ต้องมีกำหนด กำแพงให้ชัดว่ากัญชาเสรีขนาดไหน  ตรงไหนที่เห็นว่าเป็นปัญหา สร้างผลกระทบทางลบก็ออกกฎหมายมาบล็อคไว้”ผู้ปลูกกัญชารายนี้กล่าว 

ถามถึงกรณีที่รัฐบาลจะนำกัญชาคืนกลับไปเป็นยาเสพติด เกษตรกรผู้ปลูกกัญชารายนี้ มองว่า เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ  เป็นการล้อมคอกซึ่งวัวหายไปแล้ว เป็นการแก้ไขไม่ตรงจุด และเอาเปรียบประชาชน หลังจากส่งเสริม จากนั้นก็จะมากลืนน้ำลายตัวเอง เป็นเกมการเมืองมากกว่า

"อย่างน้อยๆต้องย้อนมองชาวบ้านที่ปลูกแล้วหวังผลกำไร ลดภาระหนี้สิน มีเงินจุนเจือครอบครัวด้วย ต้องหาแนวทางช่วยเหลือ อย่าลอยแพ ต้องเห็นใจคนที่ลงทุน รัฐบาลต้องรับผิดชอบ ส่วนที่เขาสูญเสียไป เหมือนตัดที่ผ่านทางก็ต้องจ่ายค่าเวรคืน จะตัดโดยไม่ให้อะไรเลยก็เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง" 

ปลูกกัญชาใหม่ ขอให้หยุดไว้ก่อน  

ขณะที่  นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมว.สธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า สื่อมวลชนถึงกรณีการแก้ปัญหากัญชาว่า การแก้ไขปัญหาต้องมีการดูสถิติตัวเลข เพราะเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก เช่น การเปิดให้ประชาชนใช้มาเป็นเวลากว่า 2 ปี สิ่งที่พบคือ กลุ่มวัยรุ่นเสพมากขึ้นกว่า 10 เท่า ซึ่งเป็นข้อมูลจากศูนย์ศึกษาปัญหาการเสพติดของจุฬาลงกรณ์ฯ รวมถึงข้อมูลของสหรัฐอเมริกา ก็พบว่า เด็กมีไอคิวลดลง 8-9 จุด โดยตนยังไม่พูดตัวเลขของสาธารณสุข เพราะอยากให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นกลาง

จากนี้จะทำอย่างไรให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินการได้ ก็ต้องเป็นเรื่องของกฎหมายในการครอบครอง โดยอาจมีเส้นแบ่ง ของความเป็นยาเสพติด กับ ธุรกิจบริการ หรือ รายได้ทางเศรษฐกิจ ซึ่งตนคิดว่า เรื่องนี้คุยกันด้วยเหตุและผล ก็จะไม่มีปัญหา ส่วนกรณีการนำเสนอเรื่องที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ส.ในเรื่องเห็นด้วย หรือ ไม่เห็นด้วยขอย้ำว่า เป็นการดำเนินการในขณะนั้น

แต่เรื่องนี้ ไม่ใช่ปรับแก้อะไรไม่ได้ โดยเราควรปรับให้มีทิศทางที่ดีของสังคมและประชาชน ซึ่งตนคิดว่า ทุกฝ่ายรับได้ ดังนั้น ขอเชิญผู้ประกอบการทุกด้าน มาหารือแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน จะได้เกิดความชัดเจนว่า จะดูแลพี่น้องประชาชนของเราอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามถึงผู้ปลูกกัญชาที่ได้รับใบอนุญาตปลูกไปแล้ว นายสมศักดิ์ กล่าวว่า  ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตให้ปลูกไปก่อนหน้านี้ที่ปลูกไปแล้วก็ปลูกไป ส่วนที่ยังไม่ปลูกก็อย่าเพิ่งปลูก เพราะรัฐบาลมีแนวโน้มตามนโยบายรัฐบาล