ฌาปนกิจสงเคราะห์อสม.ได้ราว 5 แสนบาท หารือแบงก์ใช้ค้ำประกันเงินกู้ดอกต่ำ

ฌาปนกิจสงเคราะห์อสม.ได้ราว 5 แสนบาท หารือแบงก์ใช้ค้ำประกันเงินกู้ดอกต่ำ

สธ.หารือแบงก์ เปิดช่องใช้เงินฌาปนกิจสงเคราะห์อสม. 5 แสน เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันอสม.กู้เงิน เผยมีกว่า 1 ล้านคน กู้คนละ 2 แสนบาทมีเงินเข้าระบบถึง 2 แสนล้าน เตรียมดึงเงินยึดทรัพย์คดียาเสพติด สมทบเข้ากองทุนอสม. หากพ.ร.บ.อสม.คลอด

KEY

POINTS

  • กระทรวงสาธารณสุข(สธ.)หารือธนาคาร ปล่อยกู้อสม.ดอกเบี้ยต่ำ ใช้เงินฌาปนกิจสงเคราะห์อสม.เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันได้  พร้อมเล็งดึงเงินยึดทรัพย์คดียาเสพติดมาสมทบเข้ากองทุนอสม.
  • เงินฌาปนกิจสงเคราะห์อสม. หักจากค่าป่วยการอสม.ทุกเดือน  จะจ่ายให้ผู้รับผลประโยชน์เมื่ออสม.เสียชีวิต โดยปัจจุบันจะได้อยู่ที่ราว 5 แสนบาทต่อราย 
  • เดินหน้าพ.ร.บ.อสม. หลังประชาพิจารณ์ 88 %เห็นด้วย กำหนดเรื่องให้มีการจัดตั้งฌาปนกิจสงเคราะห์อสม.-กองทุนอสม. คาดเสนอเข้าครม.ช่วงก.ย.2567

สิทธิพิเศษกับธนาคารในการกู้เงินของอสม.ได้รับพิเศษในปัจจุบัน คือ ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธกส.) โครงการสินเชื่อเงินด่วนคนดี เพื่อสมาชิกอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.) เพื่อต่อยอดธุรกิจ ส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิต ส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของสมาชิก โดยธนาคารมีการจัดกรอบวงเงินกู้ รวม 10,000 ล้านบาท มีระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่ 29 มี.ค. 2567 – 31 มี.ค. 2572 วงเงินกู้สูงสุด รายละไม่เกิน 20,000 บาท

อัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 0.67% ต่อเดือน หรือ 8 %ต่อปี (แบบอัตราคงที่ Fixed Rate) และคิดอัตราดอกเบี้ยแบบต้นลด ดอกลด (Effective Rate) กำหนดผ่อนชำระคืนต้นเงินและดอกเบี้ยเป็นรายเดือน เช่น วงเงินกู้ 20,000 บาท ผ่อนชำระเดือนละ 500 บาท สูงสุดไม่เกิน 48 เดือน นับตั้งแต่วันกู้ ซึ่งจะต้องมีสมาชิก อสม. และ อสส. เป็นผู้ค้ำประกัน (ค้ำได้คราวละ 1 คน)

เงินฌาปนกิจสงเคราะห์ หลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้

ล่าสุด นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ที่ผ่านมาอสม.มีการกู้เงินไม่น้อย ถ้าให้กู้มากแล้วดอกเบี้ยน้อยจะทำอย่างไร จึงเชิญธนาคารมาหลายธนาคารที่สามารถช่วยได้มาหารือ เพื่อให้พิจารณากรณีที่อสม.กู้เงินกับธนาคารให้สามารถใช้เงินฌาปนกิจสงเคราะห์อสม.เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันได้ ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ

ซึ่ง อสม.มี 1 ล้านกว่าคน ถ้ากู้คนละ 2-3 แสนบาท ใน 1 ปีเป็นเงินราว 2-3 แสนล้านบาท  ก็จะช่วยให้อสม.มีเงินทุน และรัฐบาลก็ต้องการทำให้เงินสะพัด แต่อสม.ไม่ได้ขอเปล่าแต่ขอกู้แล้วเงินก็สะพัด 

เบื้องต้นเชิญธนาคารออมสินมาหารือด้วยแล้ว ดอกเบี้ยคือ 6% แต่อยากได้น้อยลงกว่านี้อีก ก็ยังอยู่ระหว่างการหารือกับธนาคารต่างๆ  อีกทั้ง มีแนวคิดว่าหากอสม.ช่วยทำงานแล้วสามารถลดการใช้งบประมาณของรัฐลงได้ ประหยัดได้เท่าไหร่ ก็ให้มีการพิจารณานำเงินส่วนที่ลดลงได้นั้นมาจ่ายเป็นดอกเบี้ยให้ส่วนหนึ่ง เช่น  โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง(NCDs) หากอสม.ทำงานแล้วลการใช้เงินกองทุนNCDsของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ก็น่าจะนำเงินที่ลดนี้มาดูแลอสม. เป็นต้น 

ถามว่าจะเป็นการเพิ่มการกู้หนี้ยืมสินให้อสม.หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า แล้วรัฐบาลไม่กู้หรือ รัฐบาลก็ต้องกู้ กู้ก็ต้องเป็นหนี้ จะไปปล้นเขามาไม่ได้ ถ้านิยมจะใช้เงินเพื่อการลงทุน ซึ่งที่กู้ออกมาไม่จำเป็นต้องกู้เป็นแสน อาจจะกู้ไปลงทุน ไปทำปศุสัตว์ เป็นต้น

เงินยึดทรัพย์ยาเสพติดสมทบเข้ากองทุนอสม.

นายสมศักดิ์  กล่าวอีกว่า ตนยังมีแนวคิดนำเงินที่ได้จากการยึดทรัพย์ยาเสพติดจากการแจ้งเบาะแสของอสม.ต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.)  แล้วให้เงินยึดทรัพย์คดียาเสพติดจากที่แจ้งเบาะแสนั้นไปเข้ากองทุน อสม. เนื่องจากประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 ทำให้การยึดทรัยพ์คดียาเสพติดเร็วมากเพียง 2 ปี ตอนนี้ยึดได้เกือบหมื่นล้านบาท และใครแจ้งเบาะแสได้ส่วนแบ่ง 5% หากอสม.แจ้งเบาะแสก็สามารถระบุว่าให้นำเงินส่วนแบ่งนี้เข้ากองทุนอสม.ได้ด้วย 

“ทั้งการนำเงินฌาปนกิจสงเคราะห์มาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันและการนำเงินยึดทรัพย์จากคดียาเสพติดที่อสม.แจ้งเบาะแสเข้ากองทุนอสม. จะเกิดขึ้นได้ เมื่อมีพ.ร.บ.อสม. ซึ่งจะมีการกำหนดให้มีการจัดตั้งฌาปนกิจสงเคราะห์อสม. และกองทุนอสม.เอาไว้  รวมถึงก็ต้องเขียนใน พ.ร.บ.ให้สามารถทำได้ เช่น เงินในกิจกรรมกองทุน เช่น ฌาปนกิจให้เขาผูกไว้ในมาตรา เป็นต้น”นายสมศักดิ์กล่าว 

เงินฌาปนกิจสงเคราะห์อสม. ได้5 แสนบาท/ราย

สำหรับสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์อสม. แห่งประเทศไทย ก่อตั้งเมื่อ พ.ย. 2562 ภายใต้ระเบียบกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ว่าด้วยการฌาปนกิจสงเคราะห์ของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรวิชาชีพซึ่งเป็นนิติบุคคลที่อยู่ภายใต้การกำกับของรัฐ พ.ศ. 2547  เพื่อเป็นสวัสดิการให้กับ อสม. มีหลักประกันความมั่นคง เสริมสร้างขวัญและกำลังใจ ตอบแทนคุณงามความดีของ อสม. ที่มีจิตอาสา เสียสละ เข้ามามีส่วนร่วมดูแลสุขภาพของตนเอง ครอบครัว และชุมชน

โดยจะหักเงินจากค่าป่วยการอสม. ที่เป็นสมาชิกสมาคมฯด้วยความสมัครใจ คนละ 50 สตางค์ต่อจำนวน อสม. เสียชีวิต 1 คน เพื่อมอบให้กับญาติของ อสม. ในกรณีที่ อสม. เสียชีวิต

ปัจจุบันมีสมาชิกสมาคมฯ กว่า 1,300,000 คน ในแต่ละเดือนหากมีสมาชิกเสียชีวิต ผู้ได้รับผลประโยชน์จะได้รับเงินประมาณ 5 แสนบาท

พรบ.อสม. ตั้งฌาปนกิจสงเคราะห์-กองทุนอสม.

สำหรับความคืบหน้าพรบ.อสม. ที่จะส่งผลต่อการจัดตั้งฌาปนกิจสงเคราะห์อสม.และกองทุนอสม.นั้น  ได้มีการเปิดประชาพิจารณ์เสร็จแล้ว  ผลปรากฎว่า ช่องทาง Google Form 346,834 ราย

  • เห็นด้วย 307,122 ราย คิดเป็น 88.55 %
  •  ไม่เห็นด้วย 38,225 ราย คิดเป็น 11.02%
  •  อื่นๆ (ไม่แน่ใจ/เห็นด้วยบางข้อ) 1,487 ราย คิดเป็น 0.43%  

ช่องทางระบบกลางทางกฎหมาย 1,081 ราย ส่งตรงถึง รมว. 10 ราย

ประเด็นสำคัญจากการประชาพิจารณ์ ในภาพรวม เห็นด้วย  และมีข้อเสนอ คุณสมบัติพื้นฐาน อ่านออก เขียนได้ ให้ตัดการกำ หนดอายุการสิ้นสุดสภาพการเป็นอสม. ออก จากที่กำหนดไว้ 70 ปี

ในส่วนของไทม์ไลน์การดำเนินการ หลังประชาพิจารณ์แล้วจะมีการปรับปรุง(ร่าง)ก่อนนำเสนอรมว.สาธารณสุขในเดือน ส.ค.2567 และเสนอครม.ในเดือนก.ย.2567 ก่อนนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯต่อไป