7 นโยบายสาธารณสุขปี 68 เล็ง “ลดหย่อนภาษีคนดูแลสุขภาพ”
7“นโยบายสาธารณสุข” ปี68 เล็งใช้มาตรการลดหย่อนภาษี ให้คนดูแลสุขภาพดี หวังลดโรคNCDs เพิ่มศักยภาพเศรษฐกิจสุขภาพ สร้างมูลค่าผลิตภัณฑ์สมุนไพรทะลุ 1 แสนล้าน หวังของบฯ100ล้าน ปั้น “หมอนวดส่งออก” ดันต่อพ.ร.บ.อสม-พ.ร.บ.ก.สธ. ม
วันที่ 26 ก.ย. 2567 ที่สถาบันบำราศนราดูร จ.นนทบุรี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข มอบนโยบายกระทรวงสาธารณสุข ปีงบประมาณ 2568 ว่า ในส่วนของกฎหมายหลักๆที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปีงบประมาณ 2567 ก็จะผลักดันต่อทั้ง .ร่าง พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. ... (ร่าง พ.ร.บ.กสธ.) ,ร่าง พ.ร.บ.อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน พ.ศ. ... (ร่าง พ.ร.บ.อสม.) และร่าง พ.ร.บ.สุขภาพจิต
สำหรับการขับเคลื่อนนโยบาย ปีงบประมาณ 2568 จะมุ่งสร้างความมั่นคงทางสุขภาพให้แก่ประชาชนทุกระดับ จะดำเนินการให้เห็นผลเป็นรูปธรรมใน 7 ประเด็นสำคัญ ดังนี้ 1.ยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ฯ เพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพ เน้นเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพหน่วยบริการทุกระดับทั่วประเทศ ภายใต้ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ของข้อมูลสุขภาพ, พัฒนาระบบบริการด้วยเทเลเมดิซีน AI ทางการแพทย์ และการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์, ขยายเครือข่ายบริการระดับปฐมภูมิดิจิทัล และพัฒนาโรงพยาบาลรัฐ ให้ประชาชนได้รับบริการที่สะดวก ปลอดภัย ทันสมัย และมีประสิทธิภาพ
เพิ่มเข้าถึงบริการสุขภาพจิต
2.เพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพจิตและบำบัดยาเสพติด โดยพัฒนาและสร้างความเข้มแข็งระบบบริการให้คำปรึกษาโดย "นักจิตบำบัด" ให้มีมาตรฐาน, ยกระดับ "มินิธัญญารักษ์" และ "ทีมชุมชนล้อมรักษ์" รองรับระบบบำบัด รักษา ฟื้นฟู ที่มีแบบแผนเฉพาะบุคคล และให้ชุมชนมีส่วนร่วมดูแลผู้ป่วยหลังบำบัด และตั้งกรมสุขภาพจิตและบำบัดยาเสพติด ปรับปรุงโครงสร้างระดับพื้นที่
3.คนไทยห่างไกลโรคและภัยสุขภาพ โดยส่งเสริมสุขภาพทุกมิติเพื่อลดโรคไม่ติดต่อ (NCDs) ที่สำคัญ ก่อนเข้าสู่ระบบการรักษา ลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของประเทศ, ผลักดันแนวคิดเวชศาสตร์วิถีชีวิตและสุขภาพองค์รวมสู่การปฏิบัติ, ปรับปรุงกฎหมายและมาตรการให้เอื้อต่อการควบคุม ดูแลส่งเสริมสุขภาพ เช่น พ.ร.บ. NCDs การป้องกันผู้สูบบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้าหน้าใหม่
สนับสนุนแนวคิดสุขภาพดี สิทธิประโยชน์เพิ่ม, สานต่อนโยบายมะเร็งครบวงจร ขยายความครอบคลุมการฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูก (HPV) คัดกรองป้องกันมะเร็ง และผลักดันแนวคิดสุขภาพหนึ่งเดียว 4.สร้างความเข้มแข็งเครือข่ายสุขภาพภาคประชาชน โดยเฉพาะ อสม. โดยพัฒนากฎหมายสนับสนุน เช่น พ.ร.บ.อสม. เพิ่มศักยภาพ อสม. เพื่อส่งเสริมงานสุขภาพเชิงรุกในชุมชน และส่งเสริมสิทธิด้านสุขภาพของประชาชนทุกกลุ่ม
เล็งลดหย่อนภาษีคนดูแลสุขภาพดี
“การขับเคลื่อนป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรังNCDs เนื่องจากข้อมูลพบว่าคนเสียชีวิตจากโรคนี้ปีละ 400,000 คน และมีค่าใช้จ่ายจากค่ายาราว 1.3 แสนล้านบาท และค่าใช้จ่ายทางอ้อมอื่นๆอีก 1.5 ล้านล้านบาท รวมแล้วมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับโรคนี้ประมาณการอยู่ที่ 1.6 ล้านล้านบาท”นายสมศักดิ์กล่าว
ถ้าจะลดความเจ็บป่วยและเสียชีวิตของคน ต้องมีทั้งทางเป็นคุณและทางลบ อย่างเช่น คนที่ปฏิบัติตัวตนที่ดีแล้วจะมีแรงจูงใจอะไรให้บ้าง ได้ฝากให้คณะกรรมการที่จะตั้งขึ้นเป็นทางการในวันที่ 30ก.ย.2567 จะต้องไปพิจารณาว่าจะให้อะไรบ้าง
ผู้สื่อข่าวถามว่า การลดโรคNCDs จะมีมาตรการให้คนดูแลสุขภาพ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า อาจมีรางวัล หรือมาตรการลดหย่อนภาษี เพราะสถาบันพระบรมราชชนกได้คำนวณวิจัยว่าถ้าใน 50,000 คนมีคนเป็นโรคNCDsราว 800 กว่าคน จะลดค่าใช้จ่ายได้ประมาณ 153 ล้านบาท ถ้า 5 แสนคน ก็ลดไป 1,530 ล้านบาท
เพิ่มศักยภาพเศรษฐกิจสุขภาพ
5.จัดระบบบริการสุขภาพเพื่อกลุ่มเปราะบางและพื้นที่พิเศษ โดยยกระดับสถานชีวาภิบาลและกุฏิชีวาภิบาล, เพิ่มศักยภาพระบบบริการสุขภาพและหน่วยบริการพื้นที่ชายแดน และส่งเสริมการผลิตและจ้างงานผู้ดูแลผู้ป่วย (Caregiver) ในชุมชน เพื่อเพิ่มการดูแลสุขภาพกลุ่มเปราะบางในระดับพื้นที่
6.เพิ่มศักยภาพเศรษฐกิจสุขภาพสู่ Medical and Wellness Hub โดยส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและความปลอดภัยทุกมิติ, ยกระดับภูมิปัญญาไทย ส่งเสริมการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรไทยเพื่อการแพทย์ในระบบบริการ, เพิ่มโอกาสการเติบโตของธุรกิจผ่านการปรับปรุงกฎระเบียบ ลดขั้นตอนอนุมัติ/อนุญาต และส่งเสริมการต่อยอดงานวิจัย การถ่ายทอดเทคโนโลยีนวัตกรรมสุขภาพ เทคโนโลยีชีวภาพทางการแพทย์
สร้างบ้านพัก 345แห่งทั่วประเทศ
และ 7.บริหารจัดการทรัพยากรสาธารณสุข โดยเพิ่มการผลิตแพทย์และบุคลากรด้านสาธารณสุข สร้างความมั่นคง พัฒนาคุณภาพชีวิตและขวัญกำลังใจ พร้อมผลักดัน พ.ร.บ.กสธ., พัฒนากฎหมาย/ระบบสนับสนุนการบริหารจัดการโรงพยาบาลและการจัดซื้อจัดจ้าง, บริหารจัดการงบประมาณและกองทุนอย่างมีประสิทธิภาพ, ส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการลงทุนพัฒนาการสาธารณสุขกับภาคส่วนอื่น สานต่อนโยบาย 50 เขต 50 โรงพยาบาล เพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพ และพัฒนาโรงพยาบาลสีเขียว ปรับปรุงให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
“การปรับปรุง และสร้างบ้านพักบุคลากรหากใช้เงินไม่มาก็ขอใช้เงินบำรุงรพ. หรือส่วนอื่นๆอย่างเงินกู้หรือเงินจากองสลาก เบื้องต้นราว 345 แห่งทั่วประเทศ”นายสมศักดิ์กล่าว
เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์สมุนไพรทะลุ 1 แสนล้าน
นายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า ได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และกรมอนามัย ซึ่งมีส่วนสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านเศรษฐกิจสุขภาพของประเทศ โดยจะพัฒนาศักยภาพการบริการและผลิตภัณฑ์ด้านการแพทย์แผนไทย อาหารไทย สมุนไพรไทย การรักษาพยาบาล รวมถึงการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
ซึ่งจะดูแลตั้งแต่ต้นน้ำ คือ วัตถุดิบ ไปจนถึงปลายน้ำ คือ การผลิตและส่งออก ซึ่งตามแผนปฏิบัติการด้านสมุนไพรแห่งชาติ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2566 – 2570 ได้ตั้งเป้าหมายที่จะส่งเสริมธุรกิจและบริการที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยให้ได้มากกว่า 1.04 แสนล้านบาท ภายในปี 2570
นอกจากนี้ เห็นว่าหมอนวดไทย เป็นที่นิยมมากในต่างประเทศ หากสามารถส่งออกหมอนวดไทยได้จะดึงเงินเข้าประเทศได้อย่างมหาศาล แต่เมื่อดูจำนวนหมอไทยที่มีปัจจุบันจำนวนก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้บริการของคนในประเทศ จึงมองว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะของบกลาง 100 ล้านบาท สร้างหมอนวดไทยคุณภาพให้มีเพียงพอส่งออกต่างประเทศ