‘มะเร็งรักษาทุกที่ บัตรทอง 30 บาท’ ปรับใหม่ กรณีส่งต่อผู้ป่วย

จากกรณีโรงพยาบาลโรงเรียนแพทย์ อาทิ รพ.รามาธิบดี คณะแพทยศาสตร์รามาธิบดี ,รพ.ศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และรพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นต้น ออกประกาศว่า เนื่องจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มีการปรับเกณฑ์การจ่ายเงินค่ารักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งจากกองทุนมะเร็งรักษาทุกที่(cancer anywhere )ใหม่ จึงขอให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) เมื่อเข้ามารับการรักษาในโรงเรียนแพทย์ ต้องมีใบส่งตัวรับรองค่ารักษาพยาบาลจากหน่วยบริการต้นสังกัดตามสิทธิ นับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2568 เป็นต้นไปนั้น

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 ธ.ค.2567 ที่กระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(บอร์ดสปสช.) ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ว่า ค่ารักษาพยาบาลในบางส่วนระหว่างโรงพยาบาลโรงเรียนแพทย์กับรพ.ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ไม่เท่ากัน โดยในส่วนของโรงเรียนแพทย์ทำละเอียดทำทุกมุม ขณะที่รพ.สธ. ทำการรักษาตามปกติ ทำให้ตัวเลขค่ารักษาในบางรายแตกต่างกัน ถือเป็นปัญหา  สปสช.และคณะผู้บริหารจึงได้พยายามที่จะปรับให้ค่ารักษาเท่ากัน อยู่ระหว่างการพูดคุย

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า รพ.สธ. เมื่อไปรักษาที่ไหนไม่จำเป็นต้องมีใบส่งตัว เพราะมีฐานข้อมูลดิจิทัลเรียบร้อย แต่ในส่วนของโรงเรียนแพทย์ ต้องคุยกันว่าจะทำอย่างไร ขณะนี้ก็ยังคุยกันอยู่ ผู้บริหารกำลังคุยกันอยู่ จนถึงเมื่อคืนนี้ก็ยังคุยกันอยู่ แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป ส่วนตัวคิดว่าคงไม่ได้เป็นประเด็นปัญหาอะไร  ต้องยึดแนวทางของการปฏิบัติให้เกิดความสะดวก ความโปร่งใส

“ยังยืนยันว่าอยากให้ราคารักษาเท่ากัน แต่ผู้บริหารโรงเรียนแพทย์ยังคิดว่าเขาจะทำละเอียดทำมาก เพราะทำเพื่อการศึกษาด้วย อันนี้ต้องเข้าใจ จึงต้องรอสักระยะเพื่อทำความเข้าใจกัน เชื่อว่าผู้บริหารจะต้องคุยกันจนมีผลสรุปออกมาอย่างได้อย่างหนึ่ง”นายสมศักดิ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าผู้ป่วยมะเร็งที่จะส่งต่อไปรับการรักษารพ.โรงเรียนแพทย์ตั้งแต่ 1 ม.ค.2568 ต้องใช้ใบส่งตัว นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า  ต้องรออีกสักระยะ เพราะยังต้องหารือกัน จะไปสั่งให้เขาทำอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ แต่นโยบาย เป็นอย่างนี้ ผลจะเป็นอย่างไรก็ต้องอดทนรอฟังการพูดคุยกัน ส่วนจะทราบผลเมื่อไหร่นั้น ก่อนวันที่ 1 ม.ค. 2568 ต้องมีความชัดเจนอย่างใดอย่างหนึ่งแล้ว อีกทั้งวันที่ 25 ธ.ค.นี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็จะมีการประกาศคิ๊กออฟ (Kick Off) ในเรื่องนี้

“การหารือเรื่องนี้  ก็จะมีจบกับไม่จบ แต่โรงเรียนแพทย์แจ้งว่าค่าใช้จ่ายสูง แต่รัฐจะไปเอาเงินจากที่ไหนมามากมายทั้งหมด  ก็ต้องมาคุยกัน ทุกมุม รวมถึง เรื่องใบส่งตัวด้วย จะคุยแค่มุมใดมุมหนึ่งไม่ได้ หรือจะไปเอาอย่างที่ต้องใช้ใบส่งตัวก็ได้ หรือจะเอาแบบไหนถึงจะได้ ก็ต้องมาคุยกัน เพราะวันนี้ยังมีเวลา แต่มีเดตไลน์แล้ว”นายสมศักดิ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าสาเหตุโรงเรียนแพทย์ออกมาประกาศเช่นนี้ เนื่องจาก สปสช.มีการตัดค่าสอบสวนโรคกรณีมะเร็งรักษาทุกที่ออกไปหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ใช่  ตอนนี้ยังหารือกันอยู่ทุกมุม ส่วนตัวเองขอย้ำว่าอยากให้เป็นระบบเดียว เหมือนกันหมดแต่มันทำไม่ได้ เพราะตนต้องการให้ง่าย โปร่งใส ก็จะสามารถตรวจสอบได้หากมันเข้ากันในทางบัญชีต่างๆ แต่ถ้าไม่เหมือนกันจะทำอย่างไรให้เข้าใกล้กัน  มิเช่นนั้น ต้องปรับแนวทางอยู่เรื่อยๆ ทั้งงบประมาณปลายเปิด ปลายปิด เพราะหากไม่คิดปรับแล้วมีแต่เติมเงินเข้าคงไม่ได้

เมื่อถามถึงค่ารักษาของโรงเรียนแพทย์สูงเหลื่อมจากรพ.สธ. ประมาณเท่าไหร่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า กรณีผู้ป่วยนอก รพ.สธ. 500 บาท คลินิกเกือบ 500 บาท ส่วนโรงเรียนแพทย์ 1,500 บาท ส่วนโรคมะเร็งเป็นบริการระดับตติยภูมิแล้วให้ไปหารือก่อน