จับตา! พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่ตรงปก

จับตา! พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์  ไม่ตรงปก

ภาคประชาสังคม จับตา "พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์" ไม่ตรงปก ลดสเป็คองค์ประกอบต่าง ๆ สถานบันเทิงครบวงจร -ตีเช็คเปล่าให้บอร์ดนโยบายที่มีนายกฯเป็นประธานมีอำนาจแทบหมด เกรงเกิดการ ชเอื้อให้กลุ่มผู้ลงทุน โดยเก็บภาษีในอัตราต่ำ ให้ถือใบอนุญาตได้ยาวถึง 30 ปี

จากข่าวความคืบหน้าว่า กระทรวงการคลังเตรียมนำเสนอร่าง พ.ร.บ.การประกอบกิจการสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในเดือนมกราคม 2568  
นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน แสดงความเห็นว่า สิ่งที่น่าจับตามองคือ สาระสำคัญของกฎหมายฉบับนี้จะมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากน้อยเพียงใด เพราะตามร่างฉบับเดิมที่กระทรวงการคลังนำมาใช้รับฟังความเห็นประชาชนนั้น มีช่องโหว่อยู่มาก ทั้งเรื่องความไม่ตรงปก ของสถานบันเทิงครบวงจรที่เคยเสนอว่าจะทำแบบสิงคโปร์โมเดล แต่เอาเข้าจริงกฎหมายกลับไม่ได้เขียนอย่างนั้น

"เพราะได้ลดสเป็คองค์ประกอบต่าง ๆ ของสถานบันเทิงครบวงจรลงไปทั้งหมด  โรงแรมไม่ต้องห้าดาว ห้างสรรพสินค้า และอื่น ๆ ที่เคยขายฝันไว้ อาจจะมีหรือไม่มีก็ได้ และจะมีขนาดใดก็ได้ เพราะกฎหมายเปิดช่องไว้อย่างหลวม ๆ"นายธนากรกล่าว 

ส่วนศูนย์การประชุมและแสดงนิทรรศการหรือคอนเสิร์ตฮอลล์ก็ไม่ต้องมี  เน้นแต่กาสิโนเป็นสำคัญ โดยมีอีกสี่กิจการประกอบ และไม่เน้นขนาด    ส่วนคนไทยก็อาจสามารถเข้าเล่นได้ง่าย เพราะกฎหมายเขียนไว้ว่า การเก็บค่าธรรมเนียมการเข้าของคนในประเทศเก็บได้สูงสุดไม่เกินห้าพันบาท จึงอาจจะเก็บต่ำกว่านั้นหรือจะไม่เก็บเลยก็ได้ นอกจากนั้น ก็ไม่ได้จะทำแบบสิงคโปร์ตามที่อ้าง ไม่มีหน่วยงานเจ้าภาพและไม่มีการตั้งกองทุนด้านการลดปัญหาและผลกระทบจากการพนัน ถูกตัดทิ้งไปทั้งหมด

สิ่งที่จะเกิดขึ้นจากกฎหมายฉบับนี้จึงมีโอกาสไม่ตรงปกอย่างที่ขายฝันเอาไว้ ที่สำคัญคือ ความไม่ชัดเจนว่าประเทศชาติจะได้ประโยชน์แค่ไหน เพราะสิ่งสำคัญคือเรื่องภาษี ซึ่งกฎหมายนี้ไม่ได้เขียนไว้อย่างชัดเจน แต่เขียนแบบ ตีเช็คเปล่า ให้บอร์ดนโยบายที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีอำนาจแทบทุกอย่าง

ทั้งการอนุมัติที่ตั้งว่าจะให้ตั้งที่จังหวัดใด โดยไม่ต้องรับฟังความเห็นประชาชน จะให้ตั้งได้กี่แห่ง จะให้ใครเป็นผู้ได้รับใบอนุญาต ไม่ต้องมีการประมูล  รวมทั้ง จะเก็บภาษีเท่าไรกฎหมายก็ไม่เขียนไว้อย้างชัดเจน ทั้งหมดล้วนอยู่ในอำนาจของบอร์ดนี้  จึงเหมือนเป็นการตีเช็คเปล่าให้คณะบุคคลคณะเดียวตัดสินใจในเรื่องที่เกี่ยวกับผลประโยชน์ได้เสียของประเทศชาติ  

นอกจากนี้ ยังอาจเกิดการอำนวยประโยชน์ เอื้อให้กลุ่มผู้ลงทุน โดยเก็บภาษีในอัตราต่ำ ให้ถือใบอนุญาตได้ยาวถึง 30 ปี เพิ่มเดิมที่สภาผู้แทนเคยเสนอไว้ที่ 20 ปี  และสามารถลดเงื่อนไขที่เป็นอุปสรรคแก่การทำธุรกิจให้เหลือน้อย ๆ  โดยให้อำนาจบอร์ดนโยบายในการเสนอแก้ไขกฎหมาย และกฎกระทรวงต่าง ๆ ได้  รวมถึงการให้เช่าที่ดินโดยถือครองได้นานถึง 99 ปี  เป็นต้น  

ภาพรวมแล้วกฎหมายฉบับนี้จึงมีข้อบกพร่องอยู่มาก หากร่างที่จะนำเข้าสู่ครม.ไม่ได้มีสาระสำคัญที่แตกต่างไปจากเดิมก็น่าเป็นห่วง  โดยเฉพาะเรื่องที่กาสิโนอาจกลายเป็นแหล่งฟอกเงินของขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งขณะนี้ย้ายถิ่นฐานมาปักหลักอยู่รอบบ้านเรา

"หากกฎหมายเรามีช่องโหว่ ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะถูกใช้ฟอกเงิน ซึ่งรวมถึงเงินจากการทุจริตคอรัปชั่นภายในประเทศด้วยไม่แน่ใจว่าทำไมรัฐบาลจึงรีบร้อน และเร่งรัดกับเรื่องนี้มาก ทั้งที่ไม่ได้เป็นนโยบายในการหาเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลพรรคใดเลย”นายธนากรกล่าว