บอร์ดประกันสังคม ตีกลับสูตรใหม่ บำนาญชราภาพ ผู้ประกันตน

บอร์ดประกันสังคม ตีกลับสูตรใหม่ บำนาญชราภาพ ผู้ประกันตน

บอร์ดประกันสังคม ตีกลับสูตรใหม่ บำนาญชราภาพ เข้าใหม่มี.ค.68  “บอร์ดฝ่ายผู้ประกันตน” ชี้กระทบมาตรา 39 ราว 3 แสนคน ย้ำเงินเพิ่มแต่ไม่กระทบยั่งยืนกองทุนประกันสังคม

เมื่อวันที่ 25 ก.พ.2568 ที่สำนักงานประกันสังคม รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี กรรมการผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตน คณะกรรมการประกันสังคม(บอร์ดประกันสังคม)  ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมบอร์ดประกันสังคมว่า  มีวาระพิจารณาเรื่องปรับปรุงสิทธิประโยชน์กรณีชราภาพของผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และมาตรา 39 โดยเป็นการเสนอเรื่องการปรับสูตรคำนวณเงินบำนาญชราภาพใหม่ ซึ่งผ่านความเห็นชอบของอนุกรรมการแล้วเมื่อเดือนต.ค.2567  

แต่บอร์ดยังไม่ได้รับการพิจารณาเรื่องสูตรคำนวณบำนาญแบบใหม่ โดยให้ยกไปพิจารณาในการประชุมครั้งหน้าที่ระบุไว้คือ ต้นเดือนมี.ค.2568 ส่วนจะสามารถบังคับใช้ได้เมื่อไหร่นั้น ขอให้ติดตาม โดยบอร์ดให้เหตุผลว่ายังไม่สามารถสื่อสารให้เข้าใจโดยรวมได้

“สิ่งนี้จะกระทบกับผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่จะได้รับเงินบำนาญชราภาพเพิ่มขึ้นใช้สูตรคำนวณแบบใหม่ราว 3 แสนคน ที่จะได้เพิ่มจากเฉลี่ยราว 1,000 บาท ขยับเป็น 2,000 บาทต่อเดือน  เมื่อบอร์ดยังไม่ผ่านเรื่องจึงเป็นความเจ็บปวด ยกตัวอย่าง มีผู้ประกันตนมาตรา 39 แต่เงินบำนาญของเขาจะลดลงไปประมาณ 50 % หากยังส่งมาตรา 39 ต่อไป คนที่จะต้องส่งเงินสมทบ 432 บาท แต่จะได้รับเงินบำนาญเพียงเดือนละพันกว่าบาท” รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ กล่าว

ถามว่าที่บอร์ดกังวลเป็นเรื่องงบประมาณบำนาญที่จะเพิ่มขึ้นหรือไม่ รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ กล่าวว่า เงินกองทุนที่จะนำมาใช้หากมีใช้สูตรคำนวณใหม่ ไม่ได้กระทบกับนายจ้าง แต่เป็นเงินกองทุนที่มีอยู่ตามเดิม โดยสูตรคำนวณนี้เป็นการปรับตามอัตราเงินเฟ้อของค่าครองชีพของคน จากที่เคยได้รับเงิน 5,000 บาท เมื่อ 20 ปีก่อน สูตรนี้จะเอามาคำนวณใหม่ว่าเทียบเท่ากับได้รับเงินเดือน 7,500 บาทในปีปัจจุบัน เพราะค่าครองชีพมีการเปลี่ยนแปลงไป  จึงจะเป็นการคำนวณจากค่าเฉลี่ยรายได้ตลอดอายุการทำงาน

“แน่นอนว่าประกันสังคมจะต้องใช้เงินเพิ่มขึ้น แต่ฝ่ายวิจัยได้คำนวณมาว่าไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความยั่งยืนของกองทุน ในระยะ 10 ปี ใช้เงินเพิ่มขึ้นประมาณ 60,000 ล้านบาท ถ้าเทียบกับที่เป็นกองทุนขนาดใหญ่ 2.6 ล้านล้านบาท แต่สามารถช่วยผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่จะได้รับผลประโยชน์โดยตรงจากการได้เงินบำนาญเพิ่มขึ้น  พร้อมกับการชดเชยให้แก่คนที่จะได้บำนาญน้อยลงภายใต้เงื่อนไขสูตรใหม่” รศ.ดร.ษัษฐรัมย์กล่าว   

รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ กล่าวด้วยว่า ส่วนผู้ประกันตน มาตรา 33 จะได้รับผลจากการเปลี่ยนแปลงสูตรใหม่ โดยส่วนใหญ่จะได้เพิ่มขึ้น  แต่มีบางส่วนที่จะได้รับลดลง แต่จะแนวทางการชดเชยให้ รวมถึง มีนโยบายให้คนที่ได้รับบำนาญในปัจจุบันมาคำนวณตามสูตรใหม่ด้วย  เพื่อให้ได้อัตราที่เท่าเทียม

“สูตรเงินคำนวณบำนาญใหม่นี้ไม่ได้กระทบเงินสมทบของนายจ้างเลย  แต่จะทำให้ผู้ประกันตนลืมตาอ้าปากได้ แต่ถูกเตะถ่วงออกไป 2-3 สัปดาห์ แต่ความล่าช้านี้คือ เลือด น้ำตา ชีวิตของประชาชนคนธรรมดา เมื่อไม่ได้รับเงินบำนาญที่เพียงพอ บางคนต้องเลิกส่งมาตรา 39 ต้องเปลี่ยนโรงพยาบาลที่รักษามะเร็งอยู่ เพราะเหตุผลเรื่องเงินบำนาญ ซึ่งผมจะไม่ยอมแลกสิ่งเหล่านี้กับกระบวนการตรวจสอบที่เราทำอยู่” รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ กล่าว

รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ กล่าวด้วยว่า วันนี้พยายามให้ข้อมูลในที่ประชุมว่า เรื่องนี้ไม่สร้างผลกระทบต่อใคร เป็นข้อมูลที่ศึกษาเสร็จตั้งแต่ต.ค.2567 ไม่ใช่ข้อมูลที่มีความซับซ้อนขนาดนั้น งานวิทยานิพนธ์นักศึกษาที่ตนตรวจยังซับซ้อนกว่านี้อีก ดังนั้น ถ้าเราไม่สามารถอนุมัติให้ผ่านได้ ก็เป็นปัญหาใหญ่ที่ไม่ใช่ความซับซ้อน แต่เป็นปัญหาที่เรามาจากจักรวาลคนละชุด จักรวาลของความเชื่อว่าคนเท่ากัน และควรมีชีวิตที่ดีกับจักรวาลที่มีว่ามีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ต้องดิ้นรน ปากกัดตีนถีบเพื่อมีชีวิตธรรมดา

ครั้งต่อไป จะเสนอแบบเดิมหรือไม่  หรือจะปรับอย่างไร รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ กล่าวว่า จุดยืนของประกันสังคมก้าวหน้า ข้อเสนอนี้คือ จะทำให้คนได้รับบำนาญเพิ่มขึ้น และเป็นการคำนวณค่าเฉลี่ยจากฐานรายได้ที่แท้จริง ไม่ใช่การคำนวณเฉลี่ยแบบโต้งๆ โดยไม่มีสูตรอะไร พร้อมกับมีการให้เงินชดเชย และทีมวิจัยยังยืนยันว่าไม่ส่งผลกระทบกับความยั่งยืนของกองทุน

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์