ผู้ประกันตนเช็ก! 'เงินสงเคราะห์บุตร' เดือนมิถุนายน 2566 โอนเข้าวันไหน ?
ผู้ประกันตนเช็ก! "เงินสงเคราะห์บุตร" เดือนมิถุนายน 2566 โอนเข้าบัญชีพร้อมเพย์วันไหน แล้วรายใหม่ลงทะเบียนอย่างไร ? เช็กที่นี่
"กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" ชวนเช็กความคืบหน้าโครงการ "เงินสงเคราะห์บุตร" อายุไม่เกิน 6 ปี เดือนละ 800 บาทบุตรหนึ่งคน คราวละไม่เกิน 3 คน ล่าสุด สำนักงานประกันสังคม ได้กำหนดโอนจ่าย กรณี "เงินสงเคราะห์บุตร" ประจำเดือน เดือนมิถุนายน 2566 ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ ในวันศุกร์ที่ 30 มิถุนายน 2566
"เงินสงเคราะห์บุตร" ประกันสังคม คืออะไร ?
ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสิทธิประโยชน์ที่ ผู้ประกันตน ในกองทุน "ประกันสังคม" จะได้รับตามประกาศกฎกระทรวงแรงงาน เรื่อง การจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณีสงเคราะห์บุตร พ.ศ. 2563 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 เป็นต้นไป ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตรของผู้ประกันตน และภาคแรงงานให้สามารถเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี และเป็นกำลังสำคัญในการร่วมกันพัฒนาประเทศชาติ ซึ่งได้มีการปรับเพิ่มเงินสงเคราะห์บุตรให้กับบุตรของผู้ประกันตน จากเดิมเดือนละ 600 บาท เป็นเดือนละ 800 บาทต่อคน โดยจ่ายคราวละไม่เกิน 3 คน
ไทม์ไลน์โอน "เงินสงเคราะห์บุตร" ดังนี้
- วันศุกร์ที่ 30 มิถุนายน 2566
- วันจันทร์ที่ 31 กรกฎาคม 2566
- วันพฤหัสบดีที่ 31 สิงหาคม 2566
- วันศุกร์ที่ 29 กันยายน 2566
- วันอังคารที่ 31 ตุลาคม 2566
- วันพฤหัสบดีที่ 30 พฤศจิกายน 2566
- วันศุกร์ที่ 29 ธันวาคม 2566
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ผู้ประกันตน สามารถยื่นขอรับประโยชน์ทดแทนด้วยตนเองผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Self Service) โดยมีวิธี ดังนี้
1.เข้าสู่ระบบเว็บไซต์หลักของสำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th และเลือกเมนู "เข้าสู่ระบบผู้ประกันตน/สมัครสมาชิก"
2.ที่หน้าจอ "ระบบผู้ประกันตน" กรอก รหัสผู้ใช้งาน (เลขบัตรประจำตัวประชาชน) และรหัสผ่าน จากนั้น คลิกปุ่ม "เข้าสู่ระบบ"
- กรณีไม่เคยเป็นสมาชิกของระบบผู้ประกันตน กรุณาสมัครสมาชิกก่อน โดยคลิก "สมัครสมาชิก"
3.หลังจากเข้าสู่ระบบผู้ประกันตนได้เรียบร้อยแล้ว เลือกเมนู "ยื่นขอรับประโยชน์ทดแทนด้วยตนเอง (e-Self Service)"
4.ระบบจะพาท่านเข้าสู่หน้าจอของระบบยื่นขอรับประโยชน์ทดแทนด้วยตนเอง (e-Self Service) โดยท่านสามารถดูข้อมูลผู้ประกันตนของท่านเอง ข้อมูลการส่งเงินสมทบ ประวัติการขอรับสิทธิประโยชน์ สถานะการทำธุรกรรม และสามารถเลือกยื่นขอรับประโยชน์ทดแทน กรณีที่ท่านมีสิทธิ ทั้ง 4 รายการได้ ดังนี้
- กรณีชราภาพ
- ว่างงาน
- เงินสงเคราะห์บุตร
- คลอดบุตร
สถานที่ยื่นเรื่องลงทะเบียนรับ "เงินสงเคราะห์บุตร"
ที่สำนักงานประกันสังคม กรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา/ที่ท่านสะดวก สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่สายด่วน 24 ชั่วโมง โทร 1506 หรือเว็บไซต์ www.sso.go.th ในวันและเวลาราชการ (08.30-16.30 น.)
ใครมีสิทธิได้ "เงินสงเคราะห์บุตร" บ้าง ?
1. ต้องเป็น ผู้ประกันตน ตามมาตรา 33 (ลูกจ้างประจำ) มาตรา 39 (ผู้ประกันตนภาคสมัครใจ) และผู้ประกันตนมาตรา 40 (ทางเลือกที่ 3)
2. จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน ภายในระยะเวลา 36 เดือน ก่อนเดือนที่มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน สิทธิที่ท่านจะได้รับเงินสงเคราะห์บุตรเหมาจ่ายเดือนละ 800 บาทต่อบุตรหนึ่งคน
3. ต้องเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ยกเว้น บุตรบุญธรรมหรือบุตรซึ่งยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของบุคคลอื่น
4. อายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ จำนวนคราวละไม่เกิน 3 คน เว้นแต่ผู้ประกันตนเป็นผู้ทุพพลภาพหรือถึงแก่ความตาย ในขณะที่บุตรมีอายุแรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ จะมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนต่อจนอายุ 6 ปีบริบูรณ์
ลงทะเบียนขอรับ "เงินสงเคราะห์บุตร"
- ผู้ประกันตนต้องกรอกแบบ สปส.2-01 พร้อมลงลายมือชื่อและนำมายื่นที่สำนักงานประกันสังคม กรุงเทพมหานครพื้นที่/สำนักงานประกันสังคมจังหวัดและสาขา หรือยื่นขอรับทางไปรษณีย์โดยมีหลักฐานครบถ้วน (กรณีผู้ประกันตนยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีสงเคราะห์บุตรสำหรับบุตร 3 คน ในคราวเดียวกันสามารถใช้แบบคำขอฯ ชุดเดียวกันได้)
- เจ้าหน้าที่ตรวจหลักฐานและพิจารณาอนุมัติ
- สำนักงานประกันสังคมมีหนังสือแจ้งผลการพิจารณา
- พิจารณาสั่งจ่าย จ่ายเป็นรายเดือนโดยโอนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์ของผู้ขอรับประโยชน์ทดแทน
เอกสารที่ต้องใช้รับ "เงินสงเคราะห์บุตร"
แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกองทุนประกันสังคม (สปส. 2-01)
กรณีผู้ประกันตนหญิงใช้สิทธิ : สำเนาสูติบัตรบุตร (กรณีคลอดบุตรแฝดให้แนบสำเนาสูติบัตรของคู่แฝดด้วย)
กรณีผู้ประกันตนชายใช้สิทธิ : สำเนาทะเบียนสมรส หรือสำเนาทะเบียนหย่า พร้อมบันทึกแนบท้ายของผู้ประกันตน หรือสำเนาทะเบียนรับรองบุตร หรือสำเนาคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย สำเนาสูติบัตรบุตร (กรณีคลอดบุตรแฝดให้แนบสำเนาสูติบัตรของคู่แฝดด้วย)
กรณีเปลี่ยนชื่อ ชื่อสกุล : ให้แนบสำเนาเอกสารใบเปลี่ยนชื่อ ชื่อสกุลด้วย
กรณีผู้ประกันตนต่างชาติ : ใช้สำเนาบัตรประกันสังคม และสำเนาหนังสือเดือนทาง (passport) หรือสำเนาหนังสือเดินทางชั่วคราว หรือเอกสารรับรองบุคคลที่ทางราชการออกให้
สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์หน้าแรกที่มีชื่อ และเลขที่บัญชีของผู้ยื่นคำขอ ผ่านทางบัญชีธนาคารของผู้ประกันตน ดังนี้
- ธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน)
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน)
- ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน)
- ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน)
- ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
- ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารออมสิน
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
หรือสามารถลงทะเบียนรับเงินผ่าน บัญชีพร้อมเพย์ ได้
เอกสารประกอบการยื่นคำขอฯ ให้รับรองความถูกต้องของสำเนาทุกฉบับ และแสดงเอกสารที่เป็นต้นฉบับ เมื่อเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบ กรณีเอกสารหลักฐานสำคัญต่อการพิจารณาเป็นภาษาต่างประเทศ ให้จัดทำคำแปลเป็นภาษาไทยและรับรองความถูกต้องให้ครบถ้วน
ที่มา : สำนักงานประกันสังคม