เบี้ยผู้สูงอายุ 2566 เสียงชาวบ้าน ไม่เห็นด้วยเปลี่ยนหลักเกณฑ์ใหม่
ลงพื้นที่ฟังเสียงคนชรา เบี้ยผู้สูงอายุ 2566 เบี้ยยังชีพ เสียงชาวบ้าน ไม่เห็นด้วยเปลี่ยนหลักเกณฑ์ใหม่ หวังเพิ่มเป็น 2 พันบาทต่อเดือน ขอสุขในบั้นปลายชีวิต
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ พูดคุยฟังเสียงคนชรา กรณี เบี้ยผู้สูงอายุ 2566 หรือ เบี้ยยังชีพ เสียงชาวบ้าน ไม่เห็นด้วย เปลี่ยนหลักเกณฑ์ใหม่ โดยหวังเพิ่มเป็น 2 พันบาทต่อเดือน ขอความสุขในบั้นปลายชีวิต
ผู้เฒ่าผู้แก่ที่จังหวัดอุดรธานีมีความคิดความเห็น เรื่องราวของ เบี้ยผู้สูงอายุ ที่จะปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์และเงินที่จะได้รับ ขอรัฐบาลไม่ลดและไม่เปลี่ยน แต่ขอเพิ่มเป็น 2,000 บาทต่อเดือน คนแก่จะดีใจกันถ้วนหน้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเป็นประเด็นกรณีที่กระทรวงมหาดไทย ปรับหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2566 โดยให้มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่ 12 ส.ค. 2566 ตามที่เป็นข่าวไปในหน้าสื่อทุกสำนัก
ตัวแทนผู้สูงอายุในพื้นที่จังหวัดอุดรธานีบางคนกังวล และบางคนอยากให้เพิ่มเบี้ยยังชีพด้วยซ้ำไป ไม่อยากให้ลดเลยแม้แต่บาทเดียว
นางหมุนทรัพย์ ทาสีแสง อายุ 77 ปี ชาวบ้านบ้านบ่อน้อย อ.เมือง จ.อุดรธานี บอกว่า ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 700 บาท เงินที่รัฐให้นั้น ยอมรับว่าแต่ละเดือนก็ยังไม่พอใช้ จนต้องไปหยิบยืมจากที่อื่นมาใช้จ่าย
ชีวิตในวัยสูงอายุแบบนี้เบี้ยยังชีพสำหรับผู้สูงอายุหากเป็นไปได้ตนคิดว่าน่าจะช่วยเหลือเดือนละ 2,000 บาท ยิ่งดีเลย ซึ่งเงินจำนวนนี้ตนคิดว่าพอเหมาะพอควร ฝากถึงผู้มีอำนาจให้ช่วยจัดการเรื่องเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุช่วยเพิ่ม เบี้ยยังชีพ ให้มากกว่าเดิม อย่าไปลดกันเลย ขอให้คนแก่มีความสุขอย่ามีทุกข์ในบั้นปลายชีวิต
ขณะที่ นางบุญศรี บุญมีประเสริฐ อาย 59 ปี ตัวแทน อสม. บอกว่า กรณีหลักเกณฑ์ใหม่ที่รัฐบาลประกาศออกมาใช้สำหรับผู้สูงอายุที่ได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุนั้น ส่วนตัวมีความเห็นว่าไม่เห็นด้วย
ควรใช้หลักเกณฑ์เดิม จริงๆผู้สูงอายุส่วนใหญ่ไม่มีรายได้อะไร อยู่กับลูกกับหลาน ขอฝากถึงผู้มีอำนาจผู้คิดหลักเกณฑ์ใหม่ ทบทวนการปรับหลักเกณฑ์ไปใช้แบบเก่าจะดีกว่า