3 WIN ผู้นำสร้าง DNAองค์กร HR เชื่อมคน-ธุรกิจไร้รอยต่อ
บริษัทต้องชัดเจนว่าองค์กรจะทำงานไปได้ ต้องมี Performance มองความสามารถก่อนแล้วค่อยตามด้วยวัย ไม่ว่าจะคน Gen ไหนสามารถขึ้นสู่ในตำแหน่งที่สูงได้
Keypoint:
- เปลี่ยนโฉมการทำงาน ผู้นำและHR ต้องมีทัศนคติเปิดกว้าง มีความคล่องตัว ยืดหยุ่น อดทน คิดนอกกรอบ และมีเป้าหมายในการสร้างกำลังคนขององค์กรอย่างชัดเจน
- หลักการบริหารคนต้องเป็นแบบ Win -Win องค์กรอยู่ได้ ผู้บริโภค/ลูกค้าอยู่ได้ และสังคมต้องอยู่ได้
- คนรุ่น Gen Z ที่องค์กรต้องการ คือ คนที่มีศักยภาพ มีความสามารถ หากมีความต้องการมากมายแต่ไม่ได้เก่ง องค์กรอาจจะไม่รับเข้าทำงาน
'ยุคนิเวศน์วิทยาวิกฤต' คือ ยุคที่ประเทศ องค์กร และชุมชน ตกอยู่ในสิ่งแวดล้อมทางธุรกิจ เศรษฐกิจ การเมืองสังคม ผลการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่พลิกผันอย่างรวดเร็วแบบยากจะคาดเดา หรือไม่สามารถคาดเดาได้
รวมถึงความแตกต่างด้านความสามารถในการใช้และการมีดิจิตอลในโลกนี้ รวมถึงการแบ่งขั้วทางภูมิรัฐศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงด้านโครงสร้างประชากร ในอนาคตคนวัยทำงานจะลดน้อยลงและมีผู้สูงอายุมากขึ้น
เมื่อทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ส่งผลให้การดำเนินชีวิต การขับเคลื่อนธุรกิจประจำวันขาดเสถียรภาพความมั่นคง ระบบการทำงาน การใช้ชีวิตต้องเปลี่ยนไปแบบตั้งตัวไม่ทัน ดังนั้น 'ผู้นำองค์กร และHR' จึงต้องปรับตัวให้เท่าทัน แล้วผู้บริหาร HR แบบไหนที่จะบริหารองค์กรได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
องค์กรต้องเซ็กซี่ ดึงดูดคนทำงาน เลือกคนตรงสเปค ตอบโจทย์ใช้ชีวิต
'พนักงาน'หัวใจขับเคลื่อนธุรกิจ
‘รศ.ดร.ศิริยุพา รุ่งเริงสุข’ หรือ ‘ดร.เจี๊ยบ’ ที่ปรึกษาบริหาร สำนักประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รพ.บำรุงราษฏร์ อินเตอร์เนชั่นแนล และผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาภาวะผู้นำ ให้สัมภาษณ์ 'กรุงเทพธุรกิจ' ว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นแบบคาดเดาไม่ได้ ผู้บริหารและ HR ต้องมี Mind Set ที่สามารถพาองค์กรเดินไปให้ได้ด้วยทัศนคติ กระบวนการคิดใหม่ๆต้องไม่ตื่นตูม ไม่ตื่นตระหนก สภาพร่างกาย ความคิดต้องพร้อม ที่สำคัญต้องมีความยืดหยุ่น คล่องตัว และเหนียวหนึบต่อให้มีอะไรเข้ามากระแทกก็ต้องต้านให้ไหว และมีความคล่องแคล่วในการเปลี่ยนกระบวนการทำงาน
“ผู้นำ และพนักงาน ต้องมีความพร้อมด้านร่างกาย จิตใต และมีพฤติกรรมการทำงานที่เปลี่ยนแปลงได้เสมอ หรือเรียกได้ว่า ต้องมีแผน 2 แผน 3 รองรับไว้ ผู้นำ HR ต้องวิเคราะห์ฉากทัศน์ของสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น และต้องมีทุนสำรองไว้ในมือ"”รศ.ดร.ศิริยุพา กล่าว
การบริหารคนในองค์กรต้องให้พร้อมสถานการณ์ ในยุคนิเวศวิทยา ผู้นำและHR ต้องมีทัศนคติที่เปิดกว้าง มีความคล่องตัว ยืดหยุ่น มีความอดทน คิดนอกกรอบ และเป้าหมายในการสร้างกำลังคนขององค์กรอย่างชัดเจน ซึ่งองค์กรในอนาคต หรืออีก 10 ปีข้างหน้า อาจจะไม่ใช่องค์กรที่ต้องใช้คนจำนวนมาก แต่คนที่อยู่ในองค์กรต้องบริหารตัวเองได้ มีความเหนียวหนึบ ยืดหยุ่น และมีทักษะหลายด้าน พร้อมปรับตัวและแก้ปัญหา ทำงานแทนผู้อื่นได้
มองจุดเริ่มต้นก่อนประสบผลสำเร็จ
'พนักงาน' เป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ แต่พนักงานรุ่นใหม่จะมีคุณลักษณะ ความต้องการแตกต่างไปจากพนักงาน Gen อื่นๆ อาทิ ต้องการความอิสระในการทำงาน ทำงานที่ไหนก็ได้ มองเรื่องประสิทธิภาพงานมากกว่าอายุ การเข้างาน ต้องการความสมดุลทั้งการทำงานและการใช้ชีวิต ต้องการความเสมอภาค ความเท่าเทียม เคารพซึ่งกันและกันในการทำงาน และต้องการงานที่มีความหมาย ซึ่งทั้งหมดนี้อาจจะไม่สอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กรทั้งหมด
คนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถเลือกงานได้ ต้องเป็นคนที่มีคุณภาพ มีทักษะที่ตอบโจทย์ความต้องการขององค์กร เมื่อต้องทำงานร่วมกับคนรุ่นใหม่ ผู้นำและHR ต้องเปิดใจกว้าง รับฟังอย่างเข้าอกเข้าใจ และต้องทำตัวเหมือนฟองน้ำ เพราะบางครั้งสิ่งที่เด็กพูดอาจจะมีทำให้ได้มุมมองใหม่ๆ
รวมถึง ต้องมีวิธีการสอนให้คนรุ่นใหม่มองเห็นจุดเริ่มต้นก่อนที่จะประสบความสำเร็จ เพราะบางครั้งทุกคนเห็นแต่ปลายทางว่าสำเร็จ ไม่ได้มองว่ากว่าเขาจะมาถึงจุดนี้ต้องทำอะไรบ้าง ผู้นำต้องรู้จักตั้งคำถามให้พนักงานคิดตาม และเลิกสอน เลิกสั่ง เนื่องจากคนรุ่นใหม่ไม่ชอบให้สอน ต้องสร้าง เวิร์กช็อปให้ได้คิด ได้ทำ
DNA องค์กรต้องเริ่มจากผู้นำ
“ผู้นำ ต้องเรียนรู้จากพนักงาน พยายามทำให้พนักงานคิดเป็น เรียนรู้ซึ่งกันและกัน เปลี่ยนวิธีการสื่อสาร วิเคราะห์การทำงาน และหลักการบริหารพนักงาน ต้องยืดหยุ่นมากกว่าเดิม ควรวัดผลงานมากกว่าวัดชั่วโมงทำงาน ต้องทำให้เกิดความคล่องตัว กฎระเบียบอาจจะลดลง ต้องไม่จุกจิก สร้างที่ทำงานไม่ฝึด ไม่ติดขัด งานต้องสนุก ไม่ฝืดไม่ติด และงานต้องสนุก และมีความมากมาย มีคุณค่าของทั้งองค์กรและตัวพนักงานเอง”รศ.ดร.ศิริยุพา กล่าว
ในส่วนของงาน HR ก็ต้องปรับเช่นเดียวกัน กระบวนการทำงานต้องรวดเร็ว เข้าถึงได้ง่าย คุ้มค่า และที่สำคัญ HR ต้องทำงานประสานกับผู้จัดการ หัวหน้างาน มีแผนการสนับสนุนยกระดับศักยภาพ ทักษะของพนักงานอย่างชัดเจน มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยบริหารและทำให้เข้าถึงพนักงานได้ง่ายขึ้น มีปฎิสัมพันธ์ต่อกัน ลดช่องว่างระหว่างผู้บริหารและพนักงานในทุกระดับ HR ต้องรับฟังอย่างเข้าใจ ทำอย่างไรให้พนักงานทำงานได้ดี ปรับตัวได้เร็ว โดยที่ผู้นำ หรือหัวหน้างานต้องตอบสนองต่อพนักงานเช่นเดียวกัน
“DNA ของบริษัทจะเกิดขึ้นได้ ผู้นำ และHR ต้องใช้อัตลักษณ์ ค่านิยม และความเชื่อขององค์กร ซึ่งผู้นำต้องมีวิสัยทัศน์ชัดเจน โดยหลักการบริหารต้องเป็นแบบ Win -Win ที่ 3 กลุ่ม ทั้งองค์กรอยู่ได้ ผู้บริโภค/ลูกค้าอยู่ได้ และสังคมต้องอยู่ได้ บริษัทถึงจะรักษา DNA และสร้างคนที่มีความต้องการตาม DNA ที่กำหนดได้”รศ.ดร.ศิริยุพา กล่าว
เน้นความสามารถไม่ใช่วัยวุฒิ
นับจากนี้ไปโลกจะค่อยๆ เปลี่ยนแปลง สิ่งที่เกิดขึ้นได้ 10 ปีข้างหน้าจะเป็นโลกทรานฟอร์มไปถึงแนวคิด ค่านิยม งานของ HR ต้องเชื่อมโยงวัตถุประสงค์ของการพัฒนาคนกับธุรกิจเข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ บริษัทใหญ่ๆกำลังค้นหา HR มืออาชีพ ที่มีหลักการบริหารคนหลากหลายวัย คนรุ่นใหม่ Gen Z กำลังเข้าสู่ตลาดงานที่มีคน Gen Y และ Gen X ที่คุมตำแหน่งบริหาร จึงถือเป็นความท้าทายของ HR เพื่อลดช่องว่างที่เกิดขึ้น
“ความแตกต่างระหว่าง Gen ทำให้เกิดช่องว่างเรื่องของอายุ ความคิด ทัศนคติในการทำงาน ซึ่ง HR ต้องสร้างความเข้าใจ กิจกรรม หรือระบบที่จะทำให้คนหลากหลายวัยทำงานร่วมกันได้ และต้องเริ่มตั้งแต่กระบวนการสรรหา ปฐมนิเทศ เพื่อสร้างค่านิยมดีๆ ให้แก่คนแต่ละ Gen ที่สำคัญ บริษัทต้องชัดเจนว่าองค์กรจะทำงานไปได้ ต้องมี Performance มองความสามารถก่อนแล้วค่อยตามด้วยวัย ไม่ว่าจะคน Gen ไหนสามารถขึ้นสู่ในตำแหน่งที่สูงได้ มีนโยบายลดช่องว่าง ยอมรับเคารพซึ่งกันและกัน และต้องมีมารยาทพฤติกรรมในการทำงานอย่างมืออาชีพ” รศ.ดร.ศิริยุพา กล่าว
เลิกทำงาน‘One Size Fits All’
อย่างไรก็ตาม โลกแห่ง HR โลกต้องส่งเสริมพัฒนาคน ไม่มีคำว่า ‘One Size Fits All’ HR ต้อง Re-skill ต้องรู้จักลูกค้า รู้จักผู้จัดการในแต่ละแผนก มีระบบสนับสนุนพนักงาน รักษาพนักงาน เลิกทำงานแบบใช้แบบแผนเดียวในการพัฒนาพนักงาน และต้องวิเคราะห์สถานการณ์ ข้อมูล ปรับแผน HR สม่ำเสมอ และ ต้องมีจิตวิทยาจูงใจในการทำงาน เพื่อให้พนักงานอยากทำงานตลอดไป
สำหรับพนักงาน คนรุ่นใหม่ที่กำลังมองหางาน สิ่งที่องค์กรต้องการ นอกจากความรู้ความเชี่ยวชาญในสาขาวิชาของตนเองแล้ว ต้องมีทักษะรอบตัวพร้อมปรับหมุนไปช่วยคนอื่นได้ คิดเป็น ทำงานเป็น ไม่ใช่รับเพียงคำสั่ง ต้องตีโจทย์ให้ออกว่าองค์กร ลูกค้าต้องการอะไร สร้างธุรกิจแบบไหน ต้องมีวิธีการ นวัตกรรม แก้ปัญหา ทำงานเป็นทีม และที่สำคัญต้องเรียนรู้ตลอดชีวิต