เป็นคู่อยู่กันไปนานๆ | วรากรณ์ สามโกเศศ

เป็นคู่อยู่กันไปนานๆ | วรากรณ์ สามโกเศศ

ทำไมบางคู่แต่งงานกัน “หม้อข้าวยังไม่ทันดำ” ก็หย่ากันเสียแล้ว    บางคู่ 4-5 ปี   บางคู่       20-30 ปี    บางคู่ 40-50 ปี แล้วก็ยังหย่ากัน    ฯลฯ   ทุกคู่ล้วนมีสาเหตุ    มีเรื่องราวที่แตกต่างกันออกไป และแต่ละฝ่ายก็มีคำอธิบายที่มาจากความรู้สึกที่ไม่เหมือนกันอีกด้วย

มีความพยายามเชิงวิชาการในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลด้านจิตวิทยา ที่อธิบายความสัมพันธ์ของคนสองคน ซึ่งอาจเป็นบทเรียนสำหรับคู่สามีภรรยาทั้งเก่าและใหม่ได้

              Robert Sternberg  (1949- ) นักจิตวิทยาชาวอเมริกันผู้มีชื่อเสียง   มีผลงานการศึกษาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลไว้มากมาย     งานศึกษาสำคัญเรื่องหนึ่งของเขาคือ Triangular Theory of Love (ทฤษฎีสามเหลี่ยมของความรัก)    เขาบอกว่าความรักเชิงโรมานติกของคนสองคน มี 3 องค์ประกอบ  

1.Passion (ความสิเนหา) เกี่ยวข้องกับพลังในเรื่องการดึงดูดทางเพศ  เพศสัมพันธ์    และการกระทำอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์รักใคร่    

2.Intimacy (ความใกล้ชิด) คือความรู้สึกใกล้ชิดสัมพันธ์กัน   ความผูกพันและตรึงใจในความสัมพันธ์รักใคร่  ห่วงอาทรและเข้าใจกัน   

3.Commitment (ความมุ่งมั่นผูกพัน) คือการตัดสินใจร่วมรักใคร่กัน  มีพันธะทางใจและความรับผิดชอบ และมีความมุ่งมั่นผูกพันที่จะรักษาความสัมพันธ์ให้ยาวนาน

 Sternberg แบ่งความรักออกเป็นหลายประเภท   เช่น   ความรักที่อยู่บนองค์ประกอบของความสิเนหาอย่างเดียว    บนองค์ประกอบของความสิเนหาบวกความใกล้ชิด   บนองค์ประกอบของความใกล้ชิดและความมุ่งมั่นผูกพัน   ฯลฯ    

เขาระบุว่าความรักที่อยู่ได้ยาวนานคือ Consummate love                 อันได้แก่    ความรักที่อยู่บน 3 องค์ประกอบ  โดยผสมปนเปกันอย่างเหมาะสม    

ถ้าพูดเป็นภาษาธรรมดาก็คือ ความรักซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของชีวิตคู่ ที่จะทำให้เกิดความยั่งยืนนั้นต้องมีความสิเนหา มีความรู้สึกใกล้ชิดสนิทกันและมีความมุ่งมั่นผูกพัน ผสมกันอย่างเหมาะเจาะและมีพลวัตรข้ามเวลาด้วย

แต่ละองค์ประกอบมิได้เป็นอิสระขาดจากกัน    แต่ละองค์ประกอบถูกกระทบโดยองค์ประกอบอื่น และมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันอีกด้วย    นอกจากนี้ในแต่ละช่วงอายุ    สัดส่วน   การผสมขององค์ประกอบเหล่านี้ก็แปรเปลี่ยนไปอีกด้วย

เป็นคู่อยู่กันไปนานๆ | วรากรณ์ สามโกเศศ

                ความสัมพันธ์ทางเพศทำให้เกิดความรู้สึกใกล้ชิด   ผูกสัมพันธ์กันอย่างดูดดื่มและตรึงใจเพียงใดขึ้นอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างคนสองคน  ความรักกันอย่างจริงใจและความพยายามเข้าใจความต้องการและความรู้สึกของกันและกันผ่านภาษาพูดและภาษากายจะช่วยสร้างความเชื่อมต่อระหว่าง 2 องค์ประกอบนี้  และหากโยงใยไปถึงเรื่องความมุ่งมั่นผูกพันที่จะอยู่ร่วมกันด้วยแล้ว ก็จะยิ่งทำให้มีชีวิตคู่ที่  ยืนยาว

               ความมุ่งมั่นผูกพันกินความหมายกว้างขวางไปถึงเรื่องการร่วมทุกข์ร่วมสุข     ร่วมกระเป๋าเดียวกัน    ไม่ทอดทิ้งกัน    มุ่งมั่นสร้างความสัมพันธ์เพื่อให้มีชีวิตคู่ที่มีความสุขร่วมกันในระยะยาว    องค์ประกอบนี้ที่อยู่บนความจริงใจจะมีอิทธิพลต่ออีก 2 องค์ประกอบ และมีปฏิกิริยาต่อกันกลับไป      มาจน   ถักทอให้เป็นความสัมพันธ์ที่ยืนยาว

                 เมื่อพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างหญิงชาย ก็นึกถึงหนังสือเล่มหนึ่งที่หนุ่มสาวอ่านกันในยุคทศวรรษ 90  หนังสือดังเล่มนี้ช่วยทำให้เกิดความเข้าใจระหว่างเพศที่ดีมาก “   Men Are from Mars, Women Are from Venus ” (1992) โดย John Gray (แปลเป็นไทยโดยสงกรานต์ จิตสุทธิภากร  “ผู้ชายมาจากดาวอังคาร   ผู้หญิงมาจากดาวศุกร์”)  

โดยสรุปผู้เขียนบอกว่าสิ่งขับเคลื่อนผู้ชายคือความต้องการทางเพศ เพราะธรรมชาติสร้างให้ทำหน้าที่แพร่ขยายพันธุ์ (procreate) มิฉะนั้นจะสูญพันธุ์     ส่วนผู้หญิงนั้นเป็นเพศที่ดูแลครอบครัว   เมื่อผู้หญิงท้องได้   ธรรมชาติจึงสร้างให้ต้องการการดูแล  มีความมั่นคง    คู่ชีวิตมีความจงรักภักดี     มิฉะนั้นเธอกับลูกไม่สามารถมีชีวิตรอดได้    

สาเหตุที่ทำให้โลกวุ่นวายและน้ำตาท่วมโลกทุกยุคทุกสมัย ก็เพราะ แต่ละเพศทึกทักคาดหวังว่าอีกฝ่ายมีความต้องการเหมือนตน


                  ผู้ชายนั้นต้องการความตื่นเต้นเร้าใจเสมอ   ต้องการเป็นหนึ่งในบ้าน  ต้องการ “พื้นที่”  สำหรับตนเองในการใช้เวลาสำหรับตนเองและกับเพื่อน   หาความสนุกจาก “ของเล่น” เสมอไม่ว่าจะอยู่ในวัยใด (สิ่งที่ตัดสินว่าชายอยู่ในวัยใดคือราคาของเล่น)     ส่วนเพศหญิงนั้นต้องการความรัก ความห่วงอาทร ความเอาใจใส่ดูแล    ความรักใคร่อย่างสม่ำเสมออันเป็นการตอกย้ำความมั่นคงของตนเอง

เป็นคู่อยู่กันไปนานๆ | วรากรณ์ สามโกเศศ

                การเข้าใจความต้องการพื้นฐานของแต่ละเพศจะช่วยทำให้องค์ประกอบแต่ละด้านเข้มแข็งยิ่งขึ้น และมีพลังกระทบต่อด้านอื่น ๆ จนเกิดเป็นปฏิกิริยาร่วมที่ทำให้ความสัมพันธ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นมีความยืนยาว

                   มีผู้เปรียบเทียบว่าความมั่นคงของชีวิตคู่เปรียบเสมือนเก้าอี้สามขาที่ตั้งอยู่โดยแต่ละขายาวไม่เท่ากัน    ขาหนึ่งคือ Passion (สิเนหา)   อีกขาคือ Intimacy (ความใกล้ชิด) และ อีกขาคือ Commitment (ความมุ่งมั่นผูกพัน)   เก้าอี้ตั้งอยู่ได้เพราะสามขานี้ทำงานอย่างสอดประสานกันเป็นอย่างดี     หากขาใดสั้นไปก็มีขาอื่นช่วยประคับประคองไว้  

ในยามสูงวัยขาด้านสิเนหาจะสั้นไปมากตามวัยที่มีฮอร์โมนน้อยลง แต่เก้าอี้ก็ตั้งอยู่ได้เพราะขาด้านความรักใคร่ผูกพันระหว่างกันที่มีมายาวนาน   บวกขาด้านความมุ่งมั่นผูกพันที่จะเป็นครอบครัวที่มั่นคงเป็นหลักให้ลูกให้หลาน  ก็สามารถช่วยให้เก้าอี้นี้ตั้งอยู่ได้อย่างมั่นคง

               เก้าอี้ที่ล้มคลืนได้ถึงแม้จะอยู่กันมา 30-40 ปี  ก็อาจเป็นว่าขาด้านสิเนหานั้นสั้นไปมาก และอีกสองขาก็ไม่สามารถช่วยค้ำยันไว้ได้  เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาขาด้านความรู้สึกใกล้ชิดและขาด้านความมุ่งมั่นผูกพันก็ไม่มั่นคงอยู่แล้ว

             ความรัก   ความปรารถนาดีต่อกัน และความจริงใจ  เป็นพื้นฐานสำคัญที่ฝังอยู่ในแต่ละขาของเก้าอี้ตัวนี้   แต่เก้าอี้ก็ไม่สามารถตั้งอยู่ได้หากไม่คำนึงถึงความสมดุลกับขาอื่น ๆ ด้วย

                คาถาของการอยู่กันไปนาน ๆ คือ Passion   /    Intimacy   /    Commitment   และความสมดุลครับ