คุณโสดแบบไหน? คนไทยวัยเจริญพันธุ์เป็นโสดพุ่ง 40.5% แต่บางส่วนยังรอความรัก

คุณโสดแบบไหน? คนไทยวัยเจริญพันธุ์เป็นโสดพุ่ง 40.5% แต่บางส่วนยังรอความรัก

รู้หรือไม่? ประชากรไทยกลุ่มวัยเจริญพันธุ์ 'เป็นโสด' พุ่งแตะ 40.5% ในปี 2566 โดยเพิ่มขึ้นจาก 35.7% ในปี 2560 โดยมีทั้งคนโสดกลุ่ม SINK ไม่มีลูก หาความสุขให้ตัวเอง, PANK เน้นเลี้ยงหลาน และ Waithood ยังรอความรักอยู่

KEY

POINTS

  • คนโสดในสังคมแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มตามรายงานของสภาพัฒน์ ได้แก่ SINK โสด ไม่มีลูก เน้นหาความสุขให้ตัวเอง, PANK โสด ไม่มีลูก เน้นเลี้ยงหลาน และ Waithood โสดแต่ยังรอความรักอยู่
  • สาเหตุที่ทำให้คนไทยเป็นโสด ส่วนหนึ่งเกิดจากความคาดหวังของชาย-หญิง ไม่ตรงกัน 
  • ฝ่ายหญิง จะไม่เดทกับผู้ชายที่มีรายได้น้อยกว่า และไม่คบกับผู้ชายที่มีส่วนสูงน้อยกว่า ขณะที่ฝ่ายชาย จะไม่คบกับผู้หญิงตัวสูงกว่า และไม่เดทกับผู้หญิงที่เคยหย่าร้าง 

รู้หรือไม่? ในช่วงระยะเวลา 6-7 ปีมานี้ ประชากรคนไทย "โสด" เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าแต่..สำหรับคนที่ยังโสดอยู่ตอนนี้ คุณเป็นคนโสดแบบไหน? โดยเมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ เปิดรายงาน "ภาวะสังคมไทยไตรมาส 1 ประจำปี 2567" ระบุว่า ประเทศไทยก้าวเข้าสู่การเป็น "สังคมคนโสด"

แม้ว่าปัจจุบันประเทศไทยอยู่ระหว่างการเร่งผลักดันนโยบายส่งเสริมการมีลูก โดยมีเป้าหมายไปที่คนมีคู่ เพื่อแก้ปัญหาเด็กเกิดน้อย แต่อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน (SES) ปี 2566 กลับพบว่า คนไทยครองตัวเป็นโสดมากขึ้น คิดเป็น 23.9% และหากพิจารณาเฉพาะช่วงวัยเจริญพันธุ์ (อายุ 15 - 49 ปี) จะมีคนโสดในสัดส่วนมากถึง 40.5% สูงกว่าภาพรวมประเทศเกือบเท่าตัว และเพิ่มขึ้นจากปี 2560 (35.7%) ทั้งนี้ ปัจจัยที่ส่งผลต่อ การเป็นคนโสดแบ่งได้เป็น 4 ด้าน คือ

1. ค่านิยมทางสังคมของการเป็นโสดยุคใหม่

ผู้คนสมัยนี้มีค่านิยมการอยู่เป็นโสดมากขึ้นกว่าในอดีต โดยแบ่งกลุ่มคนโสดออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่

“SINK (Single Income, No Kids)”
เป็นคนโสดที่มีรายได้และไม่มีลูก เน้นใช้จ่ายเพื่อตนเอง จากข้อมูล SES ในปี 2566 พบว่า สัดส่วนคนโสดกลุ่ม SINK เพิ่มสูงขึ้นตามระดับรายได้ แปลว่า ยิ่งพวกเขามีรายได้สูงมากเท่าไหร่ก็มีโอกาสที่จะครองตัวเป็นโสดมากขึ้นเท่านั้น

“PANK (Professional Aunt, No Kids)”
เป็นกลุ่มผู้หญิงโสดอายุ 30 ปีขึ้นไป ที่มีรายได้และอาชีพการงานดี และไม่มีลูก คนโสดกลุ่มนี้ให้ความสำคัญกับการดูแลหลานหรือเด็กๆ ในครอบครัวรอบตัว โดยคนโสดกลุ่ม PANK มีจำนวนประมาณ 2.8 ล้านคน ส่วนใหญ่มีรายได้ดีและจบการศึกษาสูง 

“Waithood”
กลุ่มคนโสดที่เลือกจะรอคอยความรัก เนื่องจากความไม่พร้อมทางการเงิน หรือยังไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ ส่วนหนึ่งสะท้อนได้จากคนโสด 40% ที่มีรายได้ต่ำสุด โดยมีสัดส่วนอยู่ที่ 37.7% ส่วนใหญ่เป็นเพศชายมากถึง 62.6% มีระดับการศึกษาที่ไม่สูงนัก ทำให้ความสามารถในการหารายได้จำกัด 

2. ชาย-หญิงที่ยังโสด มีปัญหาความต้องการ หรือความคาดหวังที่ไม่สอดคล้องกัน

สาเหตุที่ทำให้คนไทยเป็นโสดนั้น บางส่วนเกิดจากความคาดหวังทางสังคม และทัศนคติต่อการมองหาคู่ของผู้คนที่เปลี่ยนแปลงไป มีข้อมูลจากบริษัทมีทแอนด์ลันช์สาขาประเทศไทย (2021) สำรวจพบว่า
- ผู้หญิงกว่า 76% จะไม่เดทกับผู้ชายที่มีรายได้น้อยกว่า
- ผู้หญิง 83% ไม่คบกับผู้ชายที่มีส่วนสูงน้อยกว่า 
- ผู้ชาย 59% จะไม่คบกับผู้หญิงตัวสูงกว่า
- ผู้ชาย 60% ไม่เดทกับผู้หญิงที่เคยหย่าร้าง 

3.โอกาสของคนโสดในการพบปะผู้คนหน้าใหม่ๆ น้อยลงเพราะทำงานหนัก-ไม่มีเวลา

ในปี 2566 คนโสดมีชั่วโมงการทำงานสูงกว่าค่าเฉลี่ยของคนทั้งประเทศ อีกทั้ง กรุงเทพฯ ยังจัดอยู่ในอันดับที่ 5 ของเมืองที่แรงงานทำงานหนักที่สุดในโลก ทำให้คนโสดไม่มีโอกาสในการมองหาคู่ 

4. นโยบายส่งเสริมการมีคู่ของภาครัฐไม่ต่อเนื่อง ไม่ครอบคลุมความต้องการของคนโสด

เมื่อหันมาดูที่นโยบายการส่งเสริมการมีคู่ของไทย พบว่าในช่วงที่ผ่านมายังมีนโยบายส่งเสริมเรื่องนี้ไม่มากนัก โดยเน้นไปที่กลุ่มคนโสดที่มีความพร้อม ขณะที่ในต่างประเทศ มีแนวทางการส่งเสริมการมีคู่ที่ครอบคลุมไปถึงการบรรเทาภาระค่าใช้จ่าย และการสร้างโอกาสในการมีคู่ ทั้งนี้ สภาพัฒน์มีแนวทางสนับสนุนให้คนมีคู่ ดังนี้

1) การสนับสนุนเครื่องมือการ Matching คนโสด โดยภาครัฐอาจ ร่วมมือกับผู้ให้บริการ/พัฒนาแพลตฟอร์ม เพื่อส่งเสริมให้คนโสดสามารถเข้าถึงได้มากขึ้น 

2) การส่งเสริมการมี Work-life Balance ทั้งในภาครัฐและเอกชน ทำให้คนโสดมีคุณภาพชีวิตที่ขึ้น และเพิ่มโอกาสให้คนโสดมีเวลา ทำกิจกรรมที่ชอบและพบเจอคนที่น่าสนใจมากขึ้น 

3) การยกระดับทักษะที่จำเป็นในการทำงาน เพิ่มโอกาส ความก้าวหน้าในอาชีพการงานและรายได้ ซึ่งคนโสดยังมีโอกาสพบรักจากสถานศึกษาได้อีกด้วย 

4) การส่งเสริมกิจกรรมและการมีส่วนร่วมทางสังคมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คนโสดมีโอกาสพบปะผู้คนใหม่ๆ และสร้างความสัมพันธ์ใหม่ๆ ได้