'หอพักเอกชน' ได้มาตรฐาน ปลอดภัยสำหรับเด็กเยาวชน พม.ประกาศยกย่อง

พม. ประกาศยกย่องหอพักเอกชนได้มาตรฐาน ปลอดภัยสำหรับเด็กเยาวชน มี 1 แห่ง ระดับเกียรติคุณดีเด่น อีก 10 แห่ง ระดับเกียรติคุณ ย้ำ ให้ พม.ทุกจังหวัด ช่วยเข้าไปดูแล

เมื่อเร็วๆนี้ นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) เป็นประธานในพิธีประกาศเกียรติคุณหอพักเอกชน ประจำปี พ.ศ. 2567 พร้อมมอบโล่สัญลักษณ์และใบประกาศระดับเกียรติคุณดีเด่น จำนวน 1 หอพัก และใบประกาศระดับเกียรติคุณ จำนวน 10 หอพัก

นายอนุกูล กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.)ในฐานะฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการส่งเสริมกิจการหอพักและอนุกรรมการที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกับส่วนราชการรักษาการตามพระราชบัญญัติหอพัก พ.ศ. 2558 ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ขับเคลื่อนและกำกับติดตามการดำเนินการของหอพักเอกชน และหอพักสถานศึกษาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่จากพระราชบัญญัติดังกล่าวมีผลบังคับใช้ ซึ่งจะครบสิบปีในเดือนสิงหาคม 2568

กระทรวง พม. ได้จัดพิธีประกาศเกียรติคุณหอพักเอกชน ประจำปี พ.ศ. 2567 ถือเป็นการประกาศเกียรติคุณหอพักเอกชนครั้งแรกนับจากการบังคับใช้กฎหมาย ถือเป็นมาตรการที่กฎหมายกำหนดไว้เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติการประกอบกิจการหอพักที่มีคุณภาพในการคุ้มครองดูแลผู้พักที่เป็นเด็กและเยาวชนที่กำลังศึกษาในสถานศึกษา

โดยพระราชบัญญัติดังกล่าวได้กำหนดรูปแบบการจัดการที่เหมาะสม ด้วยการช่วยเสริมสร้าง และพัฒนาลักษณะนิสัยของเด็กและเยาวชนที่เอื้อต่อการศึกษา มีความสะดวกสบาย มีมาตรฐานในการพักอาศัย รวมถึงการจัดกิจกรรมพัฒนาเด็กและเยาวชน

โดยไม่ว่าจะเป็นหอพักขนาดเล็ก ขนาดกลาง หรือขนาดใหญ่ จำเป็นต้องผ่านการจัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมตามลักษณะ และมาตรฐานของหอพัก ทั้งด้านความปลอดภัย ความสะอาด สภาพภูมิทัศน์ การให้บริการ สิ่งอำนวยความสะดวก และการรักษาประเพณีวัฒนธรรมอันดีงาม

ปัจจุบันมีหอพักเอกชนและหอพักสถานศึกษา จำนวน 13,626 แห่ง ทั่วประเทศ โดยมีหอพักที่ได้รับอนุญาต จำนวน 10,846 แห่ง และหอพักไม่ได้รับอนุญาต จำนวน 2,780 แห่ง ทั้งนี้ กระทรวง พม. โดย ดย. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องขับเคลื่อนกฎหมายฉบับนี้ที่มีเจตนารมณ์ในการคุ้มครองดูแลเด็กและเยาวชน อีกทั้งประเมินผลสัมฤทธิ์ของการใช้กฎหมาย ซึ่งพบข้อท้าทายหลายประการ อาทิ ขั้นตอนของผู้ประกอบการหอพัก และการแยกชายหญิงของผู้เข้าพัก

นอกจากนี้ ขอให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) ทุกจังหวัด ว่า ไม่ว่าหอพักจะได้รับอนุญาตหรือไม่ก็ตาม ขอให้ช่วยเข้าไปดูแลเด็กและเยาวชนที่พักอาศัยในหอพัก ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษา เพราะถือว่าเราทำตามเจตนารมณ์ของกฎหมายฉบับนี้

ขอให้ พมจ.ได้พูดคุยกับนายทะเบียนในพื้นที่ ซึ่งหลังจากหอพักได้รับอนุญาตแล้วจะต้องมีการจัดการในหลายมิติ ไม่ใช่เพียงมิติการคุ้มครองเด็กอย่างเดียว แต่รวมถึงการส่งเสริมความเป็นอยู่และพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชนในอนาคต

สำหรับการประกาศเกียรติคุณหอพักเอกชน ประจำปี พ.ศ. 2567 ระดับหอพักเอกชนเกียรติคุณดีเด่น จำนวน 1 หอพัก ได้แก่ หอพักหญิงพงษ์เจริญ จ.ร้อยเอ็ด

และ ระดับหอพักเอกชนเกียรติคุณ จำนวน 10 หอพัก ได้แก่