’เอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์’ กม.หลวม-ต้องทำประชามติ

’เอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์’ กม.หลวม-ต้องทำประชามติ

เลขาฯมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน ชี้กฎหมาย“เอนเตอร์เทนเมนต์คอมพล็กซ์” หลวมไม่ชัดเจนหลายประเด็น แนะรัฐกลับไปศึกษามาใหม่-ทำประชามติ-แก้พ.ร.บ.การพนันก่อน

เมื่อวันที่ 19 มี.ค.2568 ที่โรงแรมแกรนด์  ไฮแอทเอราวัณ ภายในการเสวนาโต๊ะกลมกรุงเทพธุรกิจ Roundtable:Entertainment Complex Game Changer for Thailand โดยนายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน กล่าวว่า กฎหมายที่ปรับมาแล้ว  4 ร่าง แต่กฎหมายยังมีความหลวม จึงไม่มีความชัดเจนว่าสุดท้ายแล้วกลุ่มเป้าหมายของรัฐบาลในการทำโครงการนี้คือใคร จะเป็นนักกท่องเที่ยวหรือคนไทย  ทั้งนี้ กฎหมายเป็นปลายเปิด ซึ่งควรที่จะมีการศึกษาให้ชัดเจนก่อนที่จะมาวางกฎหมาย ทำไมกฎหมายมาก่อนและความชัดเจนมาทีหลังเป็นการกลับหัวกลับหาง ทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นและไม่เชื่อใจ ซึ่งรัฐบาลต้องการตรงนี้จากประชาชนอย่างมากว่าทำแล้วเป็นจุดเปลี่ยนประเทศจริงๆ

“ชาวบ้านไม่คัดค้านหากรัฐบาลจะทำโครงการที่เชื่อมั่นได้ว่ากระตุ้นเศรษฐกิจจริง  แต่เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมแพล็กซ์ คือคำตอบหรือไม่ คนไม่แน่ใจ อาจจะเชื่อมั่นไม่ได้เลย โดยหากมองเฉพาะส่วนของเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมแพล็กซ์ ในไทยมีมากอยู่แล้ว ถ้าจะมีตรงนี้ขึ้นมาเชื่อมั่น มั่นใจแล้วหรือไม่ว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้จริง”นายธนากรกล่าว


          ประเทศไทยจะกำหนดพื้นที่กาสิโนในเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์สัดส่วน 10 %ถือว่าไม่น้อย ใหญ่กว่าสิงคโปร์ 3-4 เท่า  และทางวิชาการกาสิโนเป็นพื้นที่ของ Hard Gambling หรือการพนันอย่างเข้ม คือการพนันที่รู้ผลเร็ว แก้มือได้ทันที อยู่กับมันได้นาน  ซึ่งสังคมไทยไม่ต้องการให้เล่นตาม พ.ร.บ.การพนันมาตลอด เพราะฉะนั้น ถ้ากาสิโนถูกกฎหมายและเขียนไว้ในกกฎหมายให้คณะกรรมการเป็นผู้กำหนดประเภทการพนันในกาสิโน ย่อมหนีไม่พ้นที่เป็นการนำการพนันที่ไทยไม่ให้เล่นขึ้นมา

’เอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์’ กม.หลวม-ต้องทำประชามติ

“ขณะที่กฎหมายเขียนเปิดช่องไว้หลวมมาก และสุดท้ายทำแล้วล้มเหลว นักท่องเที่ยวไม่มาและไม่มาตลอด  ในระยะยาวต้องผ่อนปรนกติกาลงเรื่อยๆ จนกลายเป็นให้คนในประเทศเล่น และการบังคับใช้กฎหมายที่เจ้าหน้าที่เอาหูไปนาเอาตาไปไร่  ที่สุดจะเป็นการเปิดพื้นที่การพนันอย่างเข้มให้คนในประเทศเล่นด้วยความหย่อนยานทางนโยบาย ก็ทำให้คนในประเทศติดพนันมากขึ้น”นายธนากรกล่าว

ห่วงเปิดช่องปล่อยกู้ผู้เล่นในกาสิโน

นอกจากนี้ กฎหมายเขียนเปิดช่องไว้ในเรื่องไม่จำกัดน้ำมันของผู้เล่น นี่เป็นอีกเรื่องความหลวมของกฎหมายไม่ชัดเจน ขณะที่หลายประเทศไม่ให้ มีตู้เอทีเอ็ม หรือการปล่อยกู้ในกาสิโน เพราะเป็นการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงให้ผู้เล่น แต่ของไทยเติมประเด็นให้กาสิโนปล่อยวงเงินให้ผู้เล่น และกฎหมายไม่ชัดในเงื่อนไข แล้วอนาคตมีการหย่อนยานเรื่อยๆ ก็จะทำให้กฎหมายนี้เป็นอันตรายต่อประชาชน เป็นความไม่เชื่อมัน ไม่ไว้ใจ จากการที่กฎหมายหลวมเกินไป ช่องโหว่เกินไป

รวมถึง กฎหมายเขียนเรื่องการดูแลผลกระทบไว้อ่อนมาก ในเนื้อกฎหมายไม่มีหน่วยงานกำกับดูแลเรื่องลดผลกระทบและไม่มีกองทุน เป็ จัดไว้อยู่ในอำนาจของคณะกรรมการนโยบาย  แต่เป็นความเลื่อนลอย ขึ้นกับการเสนอแผนปีต่อปี แทนที่คจะมีหน่วยงานเจ้าภาพหลัก มีงบประมาณรองรับชัดเจน อีกทั้ง ไม่มีโครงสร้างการมีส่วนร่วมของท้องถิ่น และไม่ชัดเจนเรื่องจุดที่จะตั้งเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมแพล็กซ์ซึ่งจะต้องมีการรับฟังเสียงความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่

ไม่เห็นด้วยเดินหน้าต่อตามร่างกม.ปัจจุบัน

“หากรัฐบาลจะทำเรื่องนี้ กฎหมายต้องรัดกุมมากกว่านี้ รัฐบาลควรกลับไปทำเรื่องนี้ใหม่ ศึกษาให้ชัดเจน เสนอแผนเป็นรูปธรรมให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น จึงไม่เห็นด้วยที่จะเดินต่อตามร่างกฎหมายฉบับปัจจุบัน เพราะเขียนไว้หลวมเกินไป มีจุดอ่อนจำนวนมากนายธนากรกล่าว

ถ้ารัฐบาลใจกว้างสามารถตัดสินใจทำประชามติได้ทันที  หรือถ้าไม่ทำ ขอให้รอประชาชนที่กำลังรวบรวม 50,000 รายชื่อที่จะขอให้มีการทำประชามติ อย่าทำเหมือนไม่รอประชาชนจากการที่จะเร่งสปีชเรื่องนี้

เสนอกลับไปแก้พ.ร.บ.การพนัน

นายธนากร กล่าวด้วยว่า การจะมีกาสิโนเป็นเรื่องใหญ่ และรัฐบาลจะทำการพนันออนไลน์ถูกกฎหมายด้วย นี่คือแฝดนรก ตีคู่มาด้วยกันน่าหวาดเสียวมาก หากจะเสนอเรื่องนี้ การคิดทำกาสิโน คือพื้นทีเล่นพนันอย่างเข้มข้น จึงควรไปแก้พ.ร.บ.พนันที่ใช้มา 90 ปี กฎหมายเก่ามาก

ฉะนั้นหากจะทำการพนันถูกกฎหมาย ก็แก้ไขพ.ร.บ.การพนัน เติมเรื่องประเด็นพนันออนไลนให้ถูกกฎหมายได้ ควรกลับมาแก้พ.ร.บ.การพนันก่อนให้แข็งแรง ทันสมัย รองรับนโยบายพนันที่การเมืองอยากทำ โดยแก้พ.ร.บ.การพนันกำหนดโครงสร้าง หรือหน่วยงานควบคุมกำกับดูแลให้เข้มแข็ง และสามารถออกพ.ร.บ.กาสิโน ,พ.ร.บ.พนันออนไลน์ ให้เป็นพ.ร.บ.ย่อยอยู่ภายใต้ร่มใหญ่ พ.ร.บ.การพนันได้  ซึ่งการออกฎหมายหลายฉบับทำให้ซี่กรงถี่มากขึ้น

“ไม่แน่ใจว่าการออกกฎหมายเรื่องนี้ ต้องการให้เกิดเขตเศรษฐกิจพิเศษใหม่ แต่การกำกับดูแลไม่เข้มแข็ง จะทำให้กลายเป็นพื้นที่กฎหมายถูกยกเว้นหลายฉบับและพื้นที่พิเศษเฉพาะกลุ่มคนพิเศษ”นายธนากรกล่าว