"พาพ่อแม่หาหมอ - ไปเที่ยว" ธุรกิจยุคใหม่ รับสังคมสูงวัย
เมื่อประเทศไทยก้าวสู่สังคมสูงวัยโดยสมบูรณ์ ส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวกับผู้สูงวัยมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้น และหนึ่งในธุรกิจที่น่าสนใจ คือ พาผู้สูงอายุไปโรงพยาบาล หรือ ไปเที่ยว ไหว้พระ ช้อปปิ้ง ที่ตอบโจทย์สูงวัยที่ยังแอคทีฟอยู่
ที่ผ่านมา กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เคยคาดการณ์ไว้ว่า สังคมไทยกำลังจะเข้าสังคมผู้สูงอายุในปี 2568 แต่ล่าสุดพบว่าในปี 2565 ประเทศไทยไม่เพียงแต่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเท่านั้น แต่มีหลายจังหวัดเข้าสู่ “สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์” โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่พบสัดส่วนของผู้สูงอายุต่อประชากรทุกวัย เพิ่มสูงขึ้นเกินกว่าร้อยละ 20
ปี 2576 ประเทศไทยจะมีประชากรสูงวัยถึง 28% ของประชากรทั้งหมด หรือเข้าสู่ภาวะสังคมสูงวัย ระดับสุดยอด ขณะที่อัตราการเกิดของเด็กเกิดใหม่ลดลงเหลือเพียง 5.5 แสนคนเท่านั้นในปี 2564 โดยอัตราเจริญพันธุ์รวมลดลงเหลือ 1.5 จากเดิมที่อยู่ที่ 2.0 ทำให้ที่ผ่านมาพบว่า ตลาดรวมธุรกิจที่เกี่ยวกับผู้สูงอายุในประเทศไทย มีมูลค่าสูงกว่า 1 แสนล้านบาท เฉพาะ “ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ” ซึ่งมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องปีละกว่า 1.5 เท่าทุกปี คาดว่ามีมูลค่าตลาดราว 1 หมื่นล้านบาท ทั้งรับดูแลนอกสถานที่ ภาคเอกชน ธุรกิจจัดส่งดูแลตามบ้าน รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้สูงอายุ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินมูลค่าการใช้จ่ายสำหรับ อุปกรณ์ทางการแพทย์และอำนวยความสะดวก ความปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุในไทย ปี 2564 ว่า อยู่ที่ 8,000 – 9,000 ล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตได้เฉลี่ย 7.8% ต่อปี ในระยะ 5 ปีข้างหน้า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บริการพาพ่อแม่ไปหาหมอ
ปัจจุบัน บริการที่ตอบโจทย์สังคมสูงวัย ทั้งการพาผู้สูงอายุไปหาหมอที่ รพ. หรือ การพากลุ่มที่ยังแอคทีฟไปสถานที่ต่างๆ เช่น ไหว้พระ ช้อปปิ้ง เริ่มได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น แต่ไม่บ่อยที่เราจะเห็นคนที่พาไปเป็นพยาบาลวิชาชีพ นี่จึงกลายเป็นจุดเด่นที่ พญ.ศศิ ใหญ่สว่าง จักษุแพทย์เฉพาะทางด้านการแก้ไขสายตา ซึ่งเริ่มเข้ามาในธุรกิจนี้ มองว่าเป็นจุดที่สร้างความสบายใจให้กับผู้สูงอายุและลูกหลาน
พญ.ศศิ เล่าว่า จากเดิมทำธุรกิจ Lid Spa at Home ส่งพยาบาลไปรีดไขมันเปลือกตา รักษาตาแห้งถึงบ้าน ในพื้นที่ กทม. เมื่อคนไข้เห็นพยาบาลไปให้บริการที่บ้าน ก็เริ่มไหว้วานให้ช่วยรับส่งไปโรงพยาบาล จึงมองว่าธุรกิจนี้มีโอกาส และต่อยอดสู่ “บริการพาพ่อแม่ไปหาหมอ” จุดเด่น คือ ผู้ที่ไปรับ เป็นพยาบาลวิชาชีพ ดังนั้น จึงตอบโจทย์คนไข้ เพราะเขารู้สึกอุ่นใจ ตั้งแต่ไปรับ พาไปส่งหาหมอ และกลับมาส่งที่บ้าน ดูแลตลอดระยะเวลา ลูกหลานก็ค่อนข้างไว้ใจ สบายใจ
ขณะเดียวกัน กลุ่มพยาบาลที่อยู่ในระบบเป็นกลุ่มที่มีรถ ดังนั้น จึงสามารถทำตรงนี้ได้หากมีเวลาว่าง โดยคนไข้จะติดต่อมาโดยตรง และส่วนใหญ่ 80% เป็นคนไข้ Lid Spa ที่มีอยู่เดิม รักษากันมานานหรือญาติพี่น้องที่บอกต่อ มีทั้งบริการครึ่งวัน และ เต็มวัน
ต่อยอด บริการพาพ่อแม่ไปเที่ยว
หลังจากที่มีบริการ พาพ่อแม่ไปหาหมอ "พญ.ศศิ" เล่าต่อไปว่า พอคนไข้เริ่มเยอะขึ้น และลูกค้าเกิดไอเดียว่าอยากให้พาพ่อแม่ไปไหว้พระ และอยากจะให้พยาบาลพาไปด้วย จึงเกิดบริการที่ 2 ขึ้นมา คือ “พาพ่อแม่ไปเที่ยว” คิดค่าบริการเหมา 12 ชม. 5,500 บาทรวมรับส่ง ซึ่งเขาก็อุ่นใจมากขึ้นที่มีพยาบาลไปด้วย
“บางคนก่อนหน้านี้พ่อแม่ไม่เคยออกจากบ้านเลยเพราะอายุมาก และเขากังวลว่าหากพ่อแม่เป็นอะไรนอกบ้าน ล้ม หัวใจหยุดเต้น ใครจะช่วย ลูกหลานคงไม่ไหว แต่หากมีพยาบาลไปด้วย แถมขับมารับที่บ้าน เขาก็อุ่นใจมากขึ้น พ่อแม่ก็ได้ไปไหว้พระ โดยเบื้องต้นให้บริการที่ กทม. และ ปริมณฑล”
ตอบโจทย์ สังคมสูงวัย
ทั้งนี้ “สังคมสูงวัย” ในปัจจุบันเรียกว่าแตกต่างจากในอดีต ผู้สูงอายุมีความแอคทีฟมากยิ่งขึ้นและบางส่วนยังต้องการใช้ชีวิตเหมือนวัยหนุ่มสาว เพียงแค่มีความเสี่ยงด้านสุขภาพมากขึ้นเท่านั้น เช่น การหกล้ม หัวใจหยุดเต้น หรือสมองขาดเลือด
พญ.ศศิ อธิบายต่อไปว่า ผู้สูงวัยที่ยังมีความรู้สึกเป็นคนหนุ่มสาวก็อยากไปเที่ยว ทำกิจกรรม เดินออกกำลังกาย ไหว้พระ ช้อปปิ้งเหมือนคนปกติ แต่ข้อจำกัดด้านอายุเยอะ มีปัญหาสุขภาพ แม้จะทำประกันเพื่อความสบายใจส่วนหนึ่งแต่ก็อาจจะยังไม่สบายใจอยู่ดี เพราะหากไปเดินช้อปปิ้งคนเดียวเหมือนตอนสาวๆ เกิดหัวใจหยุดเต้นขึ้นมาใครจะช่วย ดังนั้น บริการของเราซึ่งมีพยาบาลไปด้วย จะช่วยให้สามารถทำกิจกรรมได้ทุกอย่าง สบายใจมากขึ้นที่จะไปเดินเล่น ช้อปปิ้ง โดยมีพยาบาลประกบ ตอบโจทย์ในเรื่อง Active Healthy Living เมื่อคนอายุเยอะขึ้น
“หัวใจสำคัญในการทำธุรกิจเกี่ยวกับผู้สูงอายุ อย่างแรก คือ ต้องรู้ว่าผู้สูงอายุเขาไม่ต้องการถูกมองเป็นผู้สูงอายุ หรือ ผู้ที่พึ่งพาคนอื่น นี่คือ หัวใจสำคัญ หากมองว่าผู้สูงอายุ ที่ยังมีจิตใจเป็นหนุ่มสาวอยู่ แต่มีข้อจำกัดเรื่องความเสี่ยงด้านสุขภาพมากขึ้น เราก็จะมีปฏิสัมพันธ์กับเขาเหมือนคนทั่วไปที่สามารถไปเที่ยวได้ เพียงแต่ดูแลความเสี่ยงด้านสุขภาพให้ และสามารถช่วยเหลือได้ทันที ทำให้เขารู้สึกว่าปลอดภัย เหมือนเป็นหนุ่มสาวอีกครั้ง” พญ.ศศิ กล่าวทิ้งท้าย