ทำความรู้จัก "ตาแห้ง" โรคฮิตวัยทำงาน ในยุคติดจอ

ทำความรู้จัก "ตาแห้ง" โรคฮิตวัยทำงาน ในยุคติดจอ

ในยุคที่คนใช้ชีวิต "ติดจอ" มากขึ้น ไม่ว่าจะเล่นมือถือ หรือ การทำงานที่ต้องจ้องคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ ทำให้ปัจจุบัน พบปัญหา "ตาแห้ง" มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ตาแห้งยังมีสาเหตุจากโรคทางตา อื่นๆ อีกด้วย

หลายคนอาจจะเคยมีอาการแสบตา ไม่สบายตา มีน้ำตาไหล เคืองตา ซึ่งเป็นอาการของโรคตาแห้ง สาเหตุจากอายุมากขึ้น สิ่งแวดล้อมภายนอก เช่น ฝุ่น ลม และอีกหนึ่ง สาเหตุสำคัญ คือ การจ้องหน้าคอมพิวเตอร์ หรือ จอมือถือเป็นระยะเวลานาน

 

ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล อธิบายไว้ในเว็บไซต์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ว่า "ตาแห้ง" เป็นภาวะที่มีปริมาณน้ำตาหล่อเลี้ยงผิวตาไม่เพียงพอ สาเหตุหลักมาจากการสร้างน้ำตาน้อยลง หรือน้ำตาระเหยมากไป ส่งผลให้เกิดจากการอักเสบของผิวตา ซึ่งสาเหตุเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย และสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย เช่น

  • ผู้ป่วยมีโรคบางอย่างเช่น Sjogren’s Syndrome หรือโรคแพ้ภูมิตนเองที่โรคมีการทำลายเซลล์ของต่อมน้ำตา
  • วัยทองที่มีการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย
  • หรือมีการใช้ยาบางอย่าง  
  • ยาหยอดตาบางชนิด
  • การรับประทานยาที่มีผลข้างเคียงทำให้การสร้างน้ำตาลดลง
  • ผู้ที่มีความผิดปกติของเปลือกตาหรือเส้นประสาทมาเลี้ยงเปลือกตาทำให้หลับตาไม่สนิท มีการกระพริบตาที่ผิดปกติ โดยเฉพาะในผู้ป่วยโรคระบบเส้นประสาทและสมอง
  • ในบางคนอาจมีการอักเสบของเปลือกตา ทำให้เกิดการดึงรั้งของเปลือกตาส่งผลให้ขนตาผิดทิศ งอกทิ่มเข้าตาตัวเองได้ เป็นต้น
  • นอกจากนี้ ผู้ที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีลมแรง อากาศแห้ง หรือการใช้สายตาต่อเนื่องเป็นเวลานานก็อาจเป็นเหตุทำให้เกิดภาวะตาแห้งได้

 

ปัญหาสายตาแต่ละช่วงวัย 

 

"พญ.ศศิ ใหญ่สว่าง" จักษุแพทย์เฉพาะทางด้านการแก้ไขสายตา อธิบายกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า โรคเกี่ยวกับตาคนไทย มีหลากหลายตามช่วงวัย ได้แก่

  • "วัยเด็ก" ส่วนใหญ่จะพบตากุ้งยิง ภูมิแพ้ขึ้นตา
  • "เริ่มเข้าสู่วัยรุ่น" พบสายตาผิดปกติ สายตาสั้น สายตาเอียง
  • "หลังวัยรุ่นจนถึงวัยสูงอายุ" มักจะพบปัญหาสายตาแห้ง เนื่องจากการใช้สายตาเยอะ โดยอายุ 40 ปีขึ้นไป พบสายตายาวตามอายุ มองใกล้ไม่ชัด
  • "หลังอายุ 60 ปี" ส่วนใหญ่พบว่าเป็นต้อกระจก 

 

ทำความรู้จัก \"ตาแห้ง\" โรคฮิตวัยทำงาน ในยุคติดจอ

 

ตาแห้ง ยอดฮิต คนติดจอ 

 

พญ.ศศิ กล่าวต่อไปว่า แต่ตั้งแต่วัยรุ่น – ผู้ใหญ่มักจะพบอาการ "ตาแห้ง" เพราะสอดแทรกมากับทุกโรคที่คนไข้เป็น แม้กระทั้งการรักษาโรคอื่นๆ เช่น การรักษาต้อกระจก ทำเลสิค ก็จะมีตาแห้งที่แฝงอยู่ เพราะฉะนั้น คนไข้ตาแห้งจะแทรกอยู่ในกลุ่มโรคตาทั้งหมด 

 

ทั้นี้ ข้อมูลจาก อ. พญ.ภัศรา จงขจรพงษ์ สาขาวิชากระจกตาและการผ่าตัดแก้ไขสายตา ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ในเว็บไซต์ RAMA Channel  อธิบายถึง กลุ่มอาการจากการใช้งานคอมพิวเตอร์ DES ที่เกี่ยวข้องกับโรคตาแห้ง ว่า การทำงานผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ เป็นการใช้สายตาระยะใกล้ถึงระยะกลาง ซึ่งมักใช้สมาธิและความตั้งใจสูง ส่งผลให้เกิดการเพ่งมอง

 

พฤติกรรมนี้มักทำให้เกิดปัญหาการกระพริบตาน้อยลงตามมา บวกกับการทำงานในห้องแอร์ ซึ่งมีสภาพอากาศที่แห้ง ประกอบกับแสงจ้าจากคอมพิวเตอร์ คือ สิ่งแวดล้อมที่ส่งผลให้ตาแห้งได้ง่าย โดยเฉพาะการทำงานติดต่อกัน 2 ชั่วโมงเป็นต้นไปโดยไม่พัก จะส่งผลให้เกิดตาแห้งได้ง่ายมาก หากปล่อยไว้ไม่ดูแล จะกระตุ้นให้เกิดการอักเสบของเยื่อบุตา มีอาการตาแดงแสดงออกมา และถ้าหากตาแห้งมาก ๆ กระจกตาสามารถถลอกได้หรือเป็นแผล ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย

 

 

การรักษา

 

การปรับพฤติกรรมการใช้สายตาให้เหมาะสมร่วมกันการใช้น้ำตาเทียมหยอดตา ซึ่งมีส่วนประกอบของน้ำและไขมัน อาจใช้แว่นกอกเกิลส์เพื่อป้องกันการระเหยของน้ำตาร่วมด้วยโดยเฉพาะในผู้ที่อยู่กับลมแรง เช่นคนที่ทำงานขับขี่มอเตอร์ไซค์ส่งของทั้งวัน เป็นต้น

 

การใช้น้ำตาเทียมเพื่อหยอดตาสามารถใช้งานได้ในทุก 1-2 ชั่วโมง เมื่อเกิดอาการตาแห้งระหว่างทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์หรืออ่านหนังสือเป็นเวลานานและกิจกรรมอื่นๆ หากในเวลาปกติที่ไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรในการใช้สายตาระยะใกล้สามารถหยอดได้ทุก 4-6 ชั่วโมง หรือหยอดตามอาการเมื่อรู้สึกว่าตาแห้ง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับชนิดของน้ำตาเทียมด้วย

 

ชนิดของน้ำตาเทียม

  • ชนิดที่มีสารกันเสีย
  • ชนิดที่ไม่มีสารกันเสีย

 

หากเป็นชนิดที่ไม่มีสารกันเสียสามารถหยอดได้ตามความต้องการหรือทุกครั้งที่มีอาการตามที่กล่าวไว้ในข้างต้น แต่ถ้าหากเป็นชนิดที่มีสารกันเสีย ไม่ควรหยอดบ่อยเกินไป คือภายใน 4 ชั่วโมงไม่ควรหยอดเกิน 1 ครั้ง หรือไม่ควรหยอดเกินวันละ 4-6 ครั้ง

 

สปาดวงตา (Eyelid Spa)  

 

การนวดและทำความสะอาดเปลือกตา หรือ สปาดวงตา (Eyelid Spa)  ก็เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาที่จะช่วยชะลอความรุนแรงของภาวะตาแห้งและทำให้อาการตาแห้งเรื้อรังดีขึ้นได้ ซึ่งจะช่วยกำจัดสิ่งสกปรกและสิ่งอุดตันที่อยู่บริเวณเปลือกตา ทำให้เปลือกตาสะอาดขึ้น รวมถึงยังช่วยกำจัดตัวไรที่อยู่บริเวณโคนขนตา ทำให้ช่วยบรรเทาการอักเสบและระคายเคืองตา ส่งผลให้ภาวะตาแห้งดีขึ้นได้

 

สปาตา ที่บ้านตอบโจทย์ปัญหา "ตาแห้ง" 

 

พญ.ศศิ อธิบายว่า สาเหตุหลักของตาแห้ง คือ ต่อมไขมันที่เปลือกตาอุดตัน ทำให้ไม่มีไขมันมาเคลือบชั้นน้ำตา น้ำตาจึงระเหยเร็ว และทำให้ตาแห้ง ทั้งนี้ จากประสบการณ์การรักษาคนไข้ โรคตาแห้ง มามากกว่า 1,000 ราย พบว่า คนไข้ที่มีต่อมไขมันเปลือกตาอุดตัน ที่ประคบอุ่น-รีด-สครับ 3 ขั้นตอน เช้า-เย็น ทุกวันอย่างเคร่งครัด อาการดีขึ้นภายใน 1 เดือน

 

แต่ปัจจุบันปัญหาของคนไข้โรคตาแห้งส่วนใหญ่ คือ ไม่มีเวลา กว่าจะเลิกงานก็เหนื่อย ทำให้ไม่สามารถทำ 3 ขั้นตอนด้วยตัวเองได้อย่างถูกต้องทุกวัน จึงเริ่มมีหลายสถานพยาบาลเปิดให้บริการ รีดไขมันเปลือกตา เพื่อช่วยรักษาตาแห้งอย่างถาวร อย่างไรก็ตาม การบริการตามสถานพยาบาลมีข้อจำกัด ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง หรือการรอคิว 

 

จึงเกิดบริการ Lid Spa at Home รีดไขมันเปลือกตาที่บ้าน เพื่อตอบโจทย์ทุกท่านที่มีปัญหา ตาแห้ง ด้วยการส่งพยาบาลวิชาชีพประสบการณ์สูง ไปดูแลเปลือกตา ประคบอุ่น-รีด-สครับ 3 ขั้นตอนให้ที่บ้าน ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

 

3 ขั้นตอน สปาตา

 

1. ประคบอุ่น หากอยู่ใน รพ. อาจจะต้องใช้เครื่องประคบอุ่นใหญ่ เสียบปลั๊ก แต่หากไปที่บ้านจะเป็นเครื่องประคบอุ่นชนิดพกพา

2. รีด มีตั้งแต่คนไข้ทำเองซึ่งอาจใช้นิ้วรีด หากพยาบาลไปทำอาจจะใช้แท่งแก้วที่มน 360 องศา ไม่มีคม รีดออกมาทีละต่อม หรือบางคนอาจจะใช้คล้ายๆ คีมบีบทีละต่อม หรือ ใน รพ. จะเป็นเครื่องรีดที่คล้ายๆ เครื่องปั๊มนมวัว สิ่งสำคัญ คือ ต้องรีดให้ออก

3. การสครับ ทำความสะอาดเอาสิ่งที่รีดออกไป อาจจะมีหลายขั้นตอน หลายวิธี เพื่อให้ทำความสะอาดได้หมด 

 

"ทั้งนี้ พยาบาลที่ให้บริการ Lid Spa ต้องผ่านการเทรนด์ และรู้โครงสร้างของตาก่อน จึงจะสามารถให้ออกไปทำตามบ้าน เนื่องจากพยาบาลจะไปคนเดียวไม่มีแพทย์ ดังนั้น จึงต้องเชี่ยวชาญระดับหนึ่ง" พญ.ศศิ กล่าว 

 

ทำความรู้จัก \"ตาแห้ง\" โรคฮิตวัยทำงาน ในยุคติดจอ

 

4 วิธี ถนอมสายตา ง่ายๆ ด้วยตนเอง 

 

ท้ายนี้ พญ.ศศิ แนะวิธีการดูแลถนอมสายตา ง่ายๆ ด้วยตัวเอง ว่า ในคนทั่วไปที่สายตาปกติ  แต่อยากถนอมสายตาให้สบายขึ้น และ ตาแห้งน้อยลง หลักๆ มี 4 ข้อ คือ

1. พักสายตาด้วยสูตร 20-20-20 เป็นสูตรพักสายตาที่หมอตาทั่วโลกแนะนำ คือ

  • การพักสายตาทุก 20 นาที ที่มองใกล้
  • มองไกล 20 ฟุต
  • เป็นระยะเวลา 20 วินาที

2. การหมั่นดูแลเรื่องของผิวตา ชั้นน้ำตา ไม่ให้ตาแห้งด้วยการประคบอุ่นสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้ต่อมไขมันอุดตัน หากต่อมไขมันเปลือกตาอุดตัน จะทำให้ตาแห้ง

3. หลีกเลี่ยงดวงตาจากแสงยูวีทุกกรณี เพราะเป็นอันตรายต่อดวงตา ไม่ว่าจะทำให้เกิดต้อลม ต้อเนื้อ ต้อกระจก จอประสาทตาเสื่อม เพราะฉะนั้น เวลาออกแดดต้องใส่แว่นตาป้องกัน

4. ต้องตรวจคัดกรอง โรคตา หลังอายุ 40 ปี เป็นช่วงอายุที่มีความเสี่ยงต้อหินเพิ่ม เนื่องจากเป็นโรคที่ไม่ตรวจก็ไม่รู้ เพราะมักไม่มีอาการในช่วงแรก

 

"เป็นคำแนะนำ 4 ข้อของคนที่จะถนอมสายตา พักสายตา 20-20-20 หมั่นประคบอุ่นดูแลผิวตา หลีกเลี่ยงดวงตาจากแสงยูวีทุกกรณี และเช็กสุขภาพตาหลังอายุ 40 ปี" 

 

 

อ้างอิง : คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล , RAMA Channel , โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์