ชอบกัดเล็บตัวเอง ต้องรู้ ! อาการแบบไหน เข้าข่ายโรคจิตเวช

ชอบกัดเล็บตัวเอง ต้องรู้ ! อาการแบบไหน เข้าข่ายโรคจิตเวช

นิสัยที่ชอบกัดเล็บตัวเองเวลาเครียดหรือกำลังคิดอะไรอยู่จนทำให้เล็บผิดรูปผิดร่าง ไม่สวย ไม่น่ามอง จนเกิดความไม่มั่นใจในตัวเอง และถ้าหากเป็นเรื้อรังกัดเล็บบ่อย ๆ ควบคุมตัวเองไม่ได้อาจจะเสี่ยงเป็นโรคทางจิตเวชได้

Key Point :

  • นิสัยชอบกัดเล็บตัวเองเวลาเผลอ เหม่อ เครียด หรือแม้กระทั่งเวลาว่าง หลายคนคิดว่าเป็นความเคยชินและไม่ส่งผลต่อร่างกาย
  • ความจริงแล้วการติดนิสัยกัดเล็บตัวเองอาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อจากสิ่งสกปรก รูปร่างของเล็บผิดรูปผิดร่างไป และอาจจะส่งผลต่อสภาพจิตใจที่เรียกว่าโรคจิตเวชได้
  • เล็บจากการสัมผัสสิ่งของในชีวิตประจำวันแพร่กระจายเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา

 

ผศ.นพ.คมสันต์ เกียรติรุ่งฤทธิ์ ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ความรู้เกี่ยวกับ นิสัยที่"ชอบกัดเล็บตัวเอง" ว่า ในปัจจุบันยังไม่มีสาเหตุที่แน่ชัด แต่อาจเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น ความเครียด รู้สึกเบื่อ วิตกกังวล หรืออุปนิสัยส่วนตัวที่ชอบกัดเล็บนอกจากนี้พันธุกรรมก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดการกัดเล็บได้

 

พบในเพศหญิงมากกว่าชาย

พฤติกรรมชอบกัดเล็บที่พบเห็นบ่อยจะเป็นช่วงวัยเด็ก แต่ในวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ก็พบได้บ่อยเช่นกัน โดยนิสัยชอบกัดเล็บจะเกิดในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย และพฤติกรรมชอบกัดเล็บอาจเกิดขึ้นจากนิสัยของคนที่เสพติดความสมบูรณ์แบบ มีความกดดันในตัวเองสูง จึงทำให้แสดงความเครียดออกมาทางพฤติกรรม เช่น กัดเล็บ ดึงผม การดึงหรือถูผิวหนังที่บริเวณต่าง ๆ เช่น จมูกเล็บ ริมฝีปาก

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

 

 

สาเหตุ

  • เพื่อจัดการอารมณ์ เช่น เศร้า กังวล เบื่อ
  • พฤติกรรมคุ้นชินเวลาใช้สมาธิ เช่น อ่านหนังสือ คิดงาน
  • มีปัญหาสุขภาพจิต เช่น โรคซึมเศร้า สมาธิสั้น โรควิตกกังวล

 

คนชอบกัดเล็บ เขารู้สึกอย่างไร

  • ไม่สบายใจหรือวิตกกังวล
  • เครียดจากปัญหาความสัมพันธ์ในครอบครัว การเรียนและการทำงานรู้สึกโล่งใจ มีความสุขหลังจากได้กัดเล็บ
  • ละอายใจ รู้สึกผิดเมื่อมองเห็นสภาพผิวหนังและเล็บของตัวเอง
  • กลัวคนอื่นเห็นเล็บ

 

ความเสี่ยงของการกัดเล็บ

เล็บผิดรูปร่าง

  • การกัดเล็บทำให้เนื้อเยื่อของเล็บเสียหาย ส่งผลให้เนื้อเยื่อที่สร้างมาใหม่มีรูปแบบผิดปกติ ผิดรูปไปจากเดิม

ติดเชื้อ

  • การกัดเล็บอาจทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรค เพราะเล็บเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคที่เกิดจากการใช้มือหยิบจับสิ่งของในชีวิตประจำวัน การกัดเล็บจึงเสี่ยงที่จะนำเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ นอกจากนี้การกัดเล็บอาจทำให้ผิวหนังบริเวณเล็บหลุดหรือเกิดแผลทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้เช่นเดียวกัน

ฟันเสียหาย

  • การกัดเล็บอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพฟัน เช่น ฟันร้าว ฟันบิ่น หรือแตกหัก นอกจากนี้อาจส่งผลให้กรามหรือกระดูกขากรรไกรเกิดความผิดปกติได้

บุคลิกภาพต่อบุคคลรอบข้าง

  • ทำให้สูญเสียความมั่นใจและบุคลิกภาพที่ดีต่อบุคคลรอบข้าง

 

 

กัดเล็บบ่อย ๆ เสี่ยงติดเชื้อโรค

การกัดเล็บนอกจากจะทำให้เล็บไม่สวย ยังมีความเสี่ยงทำให้เชื้อโรคและแบคทีเรียที่มาจากช่องปากรวมไปถึงเชื้อโรคที่ติดอยู่รอบ ๆ เล็บจากการสัมผัสสิ่งของในชีวิตประจำวันแพร่กระจายเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา เช่น เชื้อราที่เล็บ ปัญหาช่องปากและลำคออักเสบจากการติดเชื้อ และเนื้อบริเวณนิ้วอักเสบติดเชื้อได้

 

กัดเล็บแบบไหนเข้าข่ายโรคจิตเวช

การกัดเล็บตัวเองหากไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยหรือทำเป็นประจำ จนทำให้เกิดปัญหาในชีวิตประจำวัน เช่น ติดเชื้อ มีการทะเลาะเบาะแว้งในครอบครัวหรือคนรอบข้างก็ไม่มีอันตรายอะไร เพียงแค่ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

แต่หากเกิดการกัดเล็บตัวเองจริงจังเกินไป ห้ามตัวเองไม่ได้ และกัดเล็บจนก่อให้เกิดผลเสียตามมา อาการแบบนี้อาจเข้าข่ายภาวะของโรควิตกกังวล โรคซึมเศร้า โรคสมาธิสั้นได้ หรือโรคกัดเล็บ (onychophagia) เป็นคำใช้เรียกคนที่มีพฤติกรรมชอบกัดเล็บเป็นประจำหรือเรื้อรัง ซึ่งจะมีอาการดังต่อไปนี้ 

  • กัดเล็บขณะเหม่อลอย
  • ไม่รู้ตัวว่ากำลังกัดเล็บตัวเองอยู่
  • กัดเล็บจนผิดรูป หรือเป็นแผล
  • รู้สึกอายเล็บตัวเอง พยายามไม่ให้ใครเห็นเล็บมือ
  • มีอาการอื่นแสดงร่วมกับการกัดเล็บ เช่น ดึงผม แกะเกาผิวหนัง กัดริมฝีปาก หรือเขย่าขา
  • ต้องทะเลาะกับผู้อื่นบ่อย เนื่องมาจากพฤติกรรมกัดเล็บของตัวเอง

 

วิธีป้องกันการ กัดเล็บตัวเอง

  • ตัดเล็บให้สั้น
  • ทาครีมหรือเจลเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับมือ
  • ทาบอระเพ็ดหรือวัตถุดิบที่มีรสขมบริเวณนิ้ว
  • ทาเล็บ แต่งตกเล็บ
  • ติดพลาสเตอร์แปะแผล
  • สวมถุงมือ
  • เคี้ยวหมากฝรั่งเพื่อช่วยให้ปากไม่ว่าง
  • รับมือกับภาวะอารมณ์ต่าง ๆ อย่างถูกต้อง
  • ผ่อนคลายสมองและอารมณ์ เช่น นอนหลับให้เพียงพอ ออกกำลังกาย และทำสมาธิ
  • หากมีปัญหาด้านอารมณ์อย่างรุนแรงควรปรึกษาแพทย์
  • ค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทีละน้อย

พฤติกรรมการกัดเล็บตัวเองจนส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพทั้งทางกายและจิตใจ ควรสังเกตพฤติกรรม อารมณ์ ความรู้สึกของตัวเองให้ดี หากไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัย ประเมินอาการ และรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป

 

 

อ้างอิง : คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี