'Give Birth Great World' การ'เกิด'เป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่ของโลก

'Give Birth Great World' การ'เกิด'เป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่ของโลก

ประเทศไทยติดกลุ่ม 23 ประเทศ ประชากรลด 50 % ภายในปี 2643 คงต้องถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนความคิดที่ว่า 'มีลูกมากจะยากจน' หรือการมีลูกคือการมีภาระออกไปจากสังคมไทย แล้วมาเป็นความคิดที่ว่า 'การเกิดคือการให้ยิ่งใหญ่' เพื่อแก้ปัญหาเด็กไทยเกิดใหม่น้อย

Keypoint:

  • วิกฤตเด็กเกิดใหม่น้อย หากรัฐบาลไม่มีนโยบายช่วยให้เด็กเกิดใหม่มากขึ้น จะทำให้ประชากรวัยแรงงานลดระดับต่ำสุดภายใน 60 ปี 
  • สธ.เร่งรัดทุกหน่วยงานเพิ่มประสิทธิภาพของคลินิกส่งเสริมการมีบุตรคุณภาพเตรียมจัดทำแคมเปญใหญ่ Give Birth Great World เพิ่มอัตราเด็กเกิดใหม่
  • เปลี่ยนทัศนคติคนรุ่นใหม่ การเกิดไม่ใช้ภาระ แต่เป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่  หลับพบผลสำรวจ เหตุคนไทยไม่อยากมีลูก 

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  กล่าวว่าปัญหาภาวะเด็กเกิดน้อยที่เป็นปัญหาของหลายประเทศทั่วโลก ว่า จากข้อมูลระบุว่าหากไม่มีการแก้ไขหรือดำเนินการใด ๆ ภายในปี 2643 ค่าเฉลี่ยการมีบุตรของผู้หญิงทั่วโลกจะลดลงเหลือเพียง 1.7 คน ส่งผลให้ประชากรโลกจะปรับตัวถึงจุดสูงสุดที่ราว 9,700 ล้านคน ในปี 2607 ก่อนจะปรับตัวลดลงเหลือ 8,800 ล้านคนในปี 2643 และในอนาคตอันใกล้นี้ ไทยจะเป็นหนึ่งใน 23 ประเทศของโลกที่ได้รับผลกระทบจากภาวะดังกล่าวมากที่สุด

โดยอัตราการเจริญพันธุ์ของประเทศจะปรับลดลงถึงต่ำสุดและประชากรของประเทศจะเหลือเพียงแค่ 50% ของที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ ญี่ปุ่น ที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุก่อนหน้านี้มาแล้วหลายปี รวมทั้งสเปน อิตาลี เกาหลีใต้

ทั้งนี้ จำนวนประชากรที่ลดลงอย่างมากจะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของแต่ละประเทศอย่างใหญ่หลวงในอนาคตอันใกล้ได้ แม้แต่จีน ซึ่งเคยมีประชากรมากที่สุดในโลก ในปี 2565 ประชากรยังมีอัตราลดลงครั้งแรกในรอบ 60 ปี โดยล่าสุดอยู่ที่ 1,411 ล้านคนทำให้จำนวนประชากรของจีนน้อยกว่าประเทศอินเดียเป็นครั้งแรก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ทำไมคนยุคใหม่ "ไม่นิยมมีลูก" เด็กเกิดใหม่น้อยลง ถึงจุดวิกฤติ

ผุดแคมเปญ "Give Birth Great World" วาระแห่งชาติ แก้ปัญหาเด็กเกิดน้อย

การเกิดเป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่ของโลก

กระทรวงสาธารณสุขได้เร่งรัดให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มประสิทธิภาพของคลินิกส่งเสริมการมีบุตรคุณภาพ เช่น คลินิกส่งเสริมการมีบุตรของกรมอนามัยจำนวนทั้งสิ้น 12 แห่งใน 12 ศูนย์อนามัย ทั่วประเทศ ที่พร้อมให้คำปรึกษา, ศูนย์ส่งเสริมการมีบุตรและรักษาผู้มีบุตรยาก ทั่วประเทศ 107 แห่ง ใน 16 จังหวัด เป็นสถานพยาบาลภาครัฐ 16 แห่ง สถานพยาบาลเอกชน 91 แห่ง ที่มีการเตรียมความพร้อม 100% ในการรับมือกับปัญหาใหญ่ที่ต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

โดยได้เตรียมจัดทำแคมเปญใหญ่ Give Birth Great World เป็นโครงการระดับประเทศและอาจเชิญชวนประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคนี้เข้าร่วม ด้วยการเปลี่ยนทัศนคติของการเกิดเป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่ของโลก เพราะเมื่อจำนวนประชากรสูงอายุมีมากกว่าวัยหนุ่มสาวและเด็กเกิดใหม่ จะทำให้เกิดปัญหาใหญ่เชิงโครงสร้างประชากร เช่น ขาดแคลนวัยแรงงาน ประชากรสูงอายุในกลุ่มที่มีภาระพึ่งพิงจะมีจำนวนเพิ่มขึ้น กลายเป็นยอดของปิรามิด

ขณะที่ฐานปิรามิดประชากรแคบลงเรื่อยๆ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงด้านประชากรของประเทศ ดังนั้น ปัญหา 'เด็กเกิดน้อย'ไม่ใช่แค่วาระแห่งชาติ แต่เป็นปัญหาของโลก 

\'Give Birth Great World\' การ\'เกิด\'เป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่ของโลก

ปัจจุบันโครงสร้างประชากรไทย ขณะนี้เข้าสู่วัยผู้สูงอายุมากกว่า ร้อยละ 20 ขณะที่อัตราการเกิดใหม่น้อยมาก โดยอัตราเจริญพันธุ์รวมหรือจำนวนบุตรโดยเฉลี่ยของผู้หญิง 1 คน ที่เหมาะสมหรือที่เรียกว่าระดับทดแทนคือ 2.1 คน แต่ปัจจุบันพบว่าจำนวนบุตร

โดยเฉลี่ยของผู้หญิงไทยลดลงเหลือเพียง 1.08 คนเท่านั้น จึงต้องเอาความคิดที่ว่าลูกมากจะยากจนออกไป โดยเฉพาะคนที่พื้นฐานการศึกษาที่ดี หรือกลุ่มคนที่มีฐานเศรษฐกิจรองรับ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

 

อัตราเด็กเกิดใหม่ไทยต่ำสุดในรอบ 70 ปี 

พญ.อัจฉรา นิธิอภิญญาสกุล รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย เผยว่า ข้อมูลจากสถิติสาธารณสุข ปี 2565 พบว่าประเทศไทยมีจำนวนเด็กเกิดใหม่ลดลงเหลือเพียง 485,085 คน ซึ่งเป็นจำนวนการเกิดที่ต่ำที่สุดและเป็นครั้งแรกในรอบ 70 ปี ที่ประเทศไทยมีเด็กเกิดใหม่ต่ำกว่า 500,000 คน สวนทางกับจำนวนผู้สูงอายุที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยในปี 2565 มีประชากรผู้สูงอายุมากถึงกว่า 12 ล้านคน 

ทั้งนี้ ภายในปี 2626 หรือ 60 ปีจากนี้ หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป ประชากรไทยจาก 66 ล้านคนจะลดเหลือเพียง 33 ล้านคน และประชากรสูงอายุ 65 ปีขึ้นไป จะเพิ่มจาก 8 ล้านคนเป็น 18 ล้านคน ส่งผลให้เกิดภาวะพึ่งพิงเพิ่มขึ้น งบประมาณในการรักษาสุขภาพเพิ่มขึ้น

ส่วนวัยทำงาน อายุ 15-64 ปี จะลดลงจาก 46 ล้านคนเหลือเพียง 14 ล้านคน ซึ่งหมายถึงจำนวนแรงงานที่ลดลง ผลผลิตโดยรวมของประเทศลดลง และภาษีที่จัดเก็บได้ลดลง ขณะที่ประชากรวัยเด็กอายุตั้งแต่ 0 - 14 ปีจะลดจาก 10 ล้านคน เหลือเพียง 1 ล้านคน เท่านั้น

\'Give Birth Great World\' การ\'เกิด\'เป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่ของโลก

การเกิดไม่เป็นภาระครอบครัว

หลังพบว่าปี 2564 ถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่มีอัตราการตายมากกว่าอัตราการเกิด และรัฐบาลเตรียมประกาศให้เรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติ  สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ เคยระบุว่า วันนี้โครงสร้างประชากรของประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไป เราก้าวเข้าสู่สังคมสูงอายุ ในขณะเดียวกันคนในปัจจุบันกลับไม่ต้องการมีบุตร ส่งผลให้เด็กเกิดน้อย ในอนาคตจะเกิดปัญหาทั้งด้านแรงงาน การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การแบกรับสังคมสูงวัย ฯลฯ

ฉะนั้น การแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ นอกจากจะต้องแสวงหาแนวทางทำให้เด็กเกิดมากขึ้นแล้ว ยังต้องมีระบบรองรับเพื่อให้เด็กที่เกิดขึ้นมาแล้วมีคุณภาพชีวิตที่ดี เจริญเติบโตขึ้นอย่างมีสุขภาวะดี ประเด็นสำคัญในเรื่องนี้คือ ‘การสร้างระบบรองรับ’ เพื่อให้การเกิดไม่เป็นภาระของครอบครัว และช่วยให้พ่อแม่มีความมั่นใจว่าเมื่อลูกเกิดมาแล้วจะมีความปลอดภัย เจริญเติบโตในประเทศนี้ได้อย่างมั่นคง

นางพรรณวดี ลดาวัลย์ ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้จัดการและหัวหน้ากลุ่มงานพัฒนาความรู้ตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)กล่าวว่า ปัญหาเด็กเกิดน้อยส่งผลกระทบต่อโครงสร้างเศรษฐกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตัวชี้วัดหนึ่งคือดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นภาพสะท้อนเศรษฐกิจในขณะนั้นๆ โดยดัชนีเหล่านี้มาจากผลการดำเนินธุรกิจของธุรกิจในประเทศไทยทั้งหมด

โครงสร้างของประชากรที่เปลี่ยนแปลงไป จะส่งผลต่อการลดลงของประชากรในวัยแรงงาน และเมื่อสัดส่วนของผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น ตรงนี้จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยและจะสะท้อนออกมาผ่านดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ดังนั้นการเตรียมการรับมือจึงเป็นเรื่องสำคัญและเร่งด่วน ฉะนั้นพลังจากหลายภาคส่วนจึงเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเรื่องนี้

\'Give Birth Great World\' การ\'เกิด\'เป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่ของโลก

เปลี่ยนทัศนคติของ Generation

น.ส.วรวรรณ พลิคามิน รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย อธิบายว่า ความท้าทายในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นคือ การเปลี่ยนแปลงทัศนคติของ Generation ที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างประชากรและโครงสร้างครอบครัว

โดยในอนาคตประชากรรุ่นใหม่จะเพิ่มมากขึ้น มีค่านิยมแต่งงานช้าลง อยู่เป็นโสดมากขึ้น ที่สำคัญคือการมีลูกไม่ใช่เป้าหมายลำดับต้นๆ ของคนรุ่นใหม่ ส่งผลต่ออัตราการเจริญพันธุ์ที่ลดลงในอนาคต และในอนาคตมีแนวโน้มที่ประชากรรุ่นใหม่จะเป็นผู้สูงอายุที่อยู่ลำพัง ไม่มีบุตรหลานพึ่งพิง

อีกทั้งยังมีความท้าทายในเรื่องปัญหาการขาดแคลนคนวัยแรงงาน นำไปสู่ความท้าทายทางการคลังของประเทศ การเกิดน้อยจะส่งผลให้จำนวนวัยแรงงานในอนาคตลดลง ซึ่งในระยะยาวจะทำให้การจัดเก็บภาษีรายได้น้อยลง ตรงนี้ถือเป็นความท้าทายต่อการคลังของประเทศ พร้อมกันนี้ในระยะยาว ส่วนต่างระหว่างรายรับและรายจ่ายทางสังคม มีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องด้วย

“ประเด็นที่ควรให้ความสำคัญหลังจากนี้ ประการแรกคือการสร้างรากฐานที่ดีตั้งแต่ช่วงต้นของชีวิต ทั้งมิติครอบครัว การศึกษา ประการถัดมาคือการพัฒนาประชากรให้มีรายได้อย่างต่อเนื่อง อาทิ การยกระดับการพัฒนาคนด้านเศรษฐกิจ การส่งเสริมการ Upskill-Reskill การขยายโอกาสการทำงานของผู้สูงอายุ และประการสุดท้ายคือปรับรายได้ยามชราภาพให้เพียงพอ เช่น การส่งเสริมการออมภาคบังคับ การปฏิรูประบบการจัดเก็บภาษี”  

\'Give Birth Great World\' การ\'เกิด\'เป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่ของโลก

เปิดเหตุคนไทยไม่อยากมีลูก  

ผลสำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล  สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)  เรื่อง 'มีลูกกันเถอะน่า' ที่ทำขึ้นระหว่าง 26-28 ก.ย. 2566 จากจำนวนกลุ่มตัวอย่าง 1,310 คน ในผู้ที่มีอายุระหว่าง 18-40 ปี โดยกระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้

สำหรับประเด็นการอยากมีลูก (เฉพาะผู้ที่ยังไม่มีลูก)พบว่า

  • คนอยากมีลูก 53.89%
  • ไม่อยากมี 44%

โดยที่ไม่อยากมีลูกเนื่องจาก

  • ไม่อยากเพิ่มค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงลูก 38.32%
  • เป็นห่วงว่าลูกเราจะอยู่อย่างไรในสภาพสังคมปัจจุบัน 38.32%
  • ไม่อยากมีภาระต้องดูแลลูก 37.72%
  • ต้องการชีวิตอิสระ 33.23%
  • กลัวเลี้ยงลูกไม่ดี 17.66%
  • อยากให้ความสำคัญกับงานมากกว่า 13.77%
  • สุขภาพตนเองหรือคู่ครองไม่ค่อยดี 5.39%
  • ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ 2.11%
  • กลัวพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ไม่ดี ทำให้ลูกเกิดมาไม่ดีไปด้วย 2.1%
  • กลัวกรรมตามสนองเนื่องจากเคยทำไม่ดีไว้กับพ่อ แม่ 0.9%

สิ่งที่อยากให้มีมาตรการรัฐสนับสนุนเพื่อให้คนไทยมีลูกนิด้าโพลพบว่า

  • สนับสนุนการศึกษาฟรีในประเทศจนถึงขั้นสูงสุดสำหรับคนมีลูก 65.19%
  • รัฐอุดหนุนค่าเลี้ยงดูลูกจนถึงอายุ 15 ปี 63.66%
  • ลดภาษีเงินได้สำหรับคนมีลูก 30%
  • เพิ่มวันลาให้และพ่อในการเลี้ยงดูลูก 29.47%
  • มีเงินรางวัลจูงใจที่สูงสำหรับเด็กแรกเกิด 21.91%
  • อุดหนุนทางการเงินแม่และพ่อเลี้ยงเดี่ยว 19.92%
  • พัฒนาและอุดหนุนการเงินศูนย์เด็กเล็ก 17.18%
  • มีบริการฟรีศูนย์ผู้มีบุตรยาก 9.85%
  • เพิ่มภาษีเงินได้สำหรับคนไม่มีลูก 7.48%
  • รัฐเปิดช่องทางในการอุ้มบุญมากขึ้น 5.5%
  • รัฐมีหน่วยงานจัดหาคู่ให้กับคนไทย 4.89%
  • รัฐไม่จำเป็นต้องมีมาตรการใดๆ 2.75%
  • ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ 0.76%

\'Give Birth Great World\' การ\'เกิด\'เป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่ของโลก

ความกังวลต่อจำนวนเด็กเกิดใหม่ในอนาคตว่าจะมีน้อยหรือมากผลสำรวจพบว่า

  • ไม่กังวลเลย 50.53%
  • ไม่ค่อยกังวล 23.13%
  • ค่อนข้างกังวล 17.79%
  • กังวลมาก 8.55%

ในส่วนสถานะการแต่งงานและการมีลูกนิด้าโพลระบุว่า

  • คนไทยแต่งงานจดทะเบียนสมรสและมีลูกแล้ว 28.57%
  • เป็นโสดและไม่มีแฟน 22.39%
  • เป็นโสดแต่มีแฟนแล้ว 20.92%
  • แต่งงานไม่ได้จดทะเบียนสมรสและมีลูกแล้ว 10.99%
  • แต่งงานจดทะเบียนสมรสแต่ไม่มีลูก 4.58%
  • เป็นแม่หรือพ่อเลี้ยงเดี่ยว 2.52%
  • แต่งงานไม่ได้จดทะเลียนสมรสแต่ไม่มีลูก 1.98%
  • มีคู่ครอง (อยู่ด้วยกันแต่ไม่ได้แต่งงาน) มีลูกแล้ว 1.98%