เยียวยา 'ลองโควิด-ลองวัคซีน' ด้วยศาสตร์ แพทย์แผนตะวันออก

เยียวยา 'ลองโควิด-ลองวัคซีน' ด้วยศาสตร์ แพทย์แผนตะวันออก

โควิด-19 เมื่อหายแล้ว หลายคนอาจต้องเจอกับภาวะ 'ลองโควิด' หรือบางคนอาจมีผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน การดูแล รักษา ไม่เพียงแค่แพทย์แผนปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังมีศาสตร์ของแพทย์แผนตะวันออก อย่าง 'แพทย์แผนไทย' และ 'แพทย์แผนจีน' ในการบรรเทาอาการอีกด้วย

Key Point : 

  • หลายคนเมื่อหายจากการติดเชื้อ 'โควิด-19' แล้ว ต้องพบเจอกับภาวะ 'ลองโควิด' ซึ่งส่งผลให้เกิดอาการต่างๆ อาทิ สมาธิสั้น คัดจมูก ไอ หอบเหนื่อย นอนไม่หลับ เป็นต้น 
  • นอกจากนี้ มีงานวิจัย พบว่า นอกจากลองโควิดแล้ว ยังมีผลกระทบจากลองวัคซีน ทำให้เกิดการอักเสบที่เกิดขึ้นในร่างกายได้เช่นกัน 
  • ศาสตร์แพทย์แผนจีน ในการรักษาลองโควิด และ ผลกระทบจากวัคซีนโควิด ระบุว่า แม้ผู้ป่วยจะรักษาอาการต่างๆ แล้ว ต้องกลับมาให้ความสำคัญในการปรับสมดุลของร่างกาย ฟื้นฟูให้เร็วที่สุด

 

เข้าสู่ปีที่ 4 ของการอยู่กับโควิด-19 คนส่วนใหญ่ผ่านการติดเชื้อและฉีดวัคซีน สิ่งที่อาจตามมาจากการติดเชื้อโควิดคือ ภาวะลองโควิด (Long Covid-19) ซึ่งส่งผลให้เกิดอาการ อาทิ สมาธิสั้น คัดจมูก ไอ หอบเหนื่อย นอนไม่หลับ เป็นต้น หรือบางคนได้รับผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน เหล่านี้สามารถบูรณาการทั้งแพทย์แผนปัจจุบันและแพทย์ทางเลือกในการบรรเทาอาการ

 

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวในงาน เสวนาและหน่วยแพทย์เคลื่อนที่สำหรับภาวะ Long Covid-19 และผลกระทบต่อวัคซีน โดยระบุว่า โควิดแม้จะหาย แต่ไวรัสยังอยู่ในร่างกาย ขณะที่วัคซีน พบว่า อยู่ได้ในทุกอวัยวะ ในกระแสเลือด อยู่ในร่างกายกว่า 6 เดือน

 

ซึ่งส่งผลให้ผมร่วง นอนไม่หลับ ปวดข้อ ปวดเข่า ปวดเส้นเอ็น หายใจไม่ออก สติปัญญาถดถอย เฉื่อยชา การเรียนรู้ด้อยลง เป็นต้น ลักษณะตรงนี้ ซ่อนอยู่ในร่างกายแม้ไม่มีอาการ พอถูกสิ่งกระทบใหม่ เช่น PM2.5 สารเคมีในพืชผัก อาจทำให้อาการเหล่านี้เกิดขึ้นมาได้

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

 

 

โครงการ ดัชนีชี้วัดผลกระทบจากโควิดและวัคซีน ได้รับการสนับสนุนจาก กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สำนักงานวิจัยแห่งชาติ ติดตามผู้ป่วยติดโควิด-19 และผู้ป่วยอาการลองโควิด ตลอดระยะเวลา 1ปี พบว่า การอักเสบที่เกิดขึ้นในลองโควิด และลองวัคซีน เหมือนกัน คือ การอักเสบเกิดขึ้นได้ทั้งในสมองและนอกสมอง เมื่ออาการเหล่านี้หายไปแล้ว จากการติดตาม ไม่มีอาการ แต่การอักเสบในสมองและนอกสมองยังคงอยู่ ถ้ามีตัวจุดปะทุ อย่าง สภาวะสิ่งแวดล้อม หรือไม่ดูแลสุขภาพ มีโรคอ้วน โรคไขมัน เบาหวาน จะทำให้เกิดอักเสบภาวะในสมองและนอกสมองเกิดขึ้นได้

 

ลองโควิด-ลองวัคซีน 3 ระยะ

ทั้งนี้ ระยะอาการลองโควิด-19 ลองวัคซีน แบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ

1.ระยะสั้น เกิดในระยะเวลา 2 อาทิตย์ ไม่ว่าจะเกิดจากโควิด หรือวัคซีน จะเสียชีวิต มีลิ่มเลือดเกิดขึ้น มีสมองอักเสบ

 

2.ระยะกลาง เกิดในเวลา 2-3 อาทิตย์-3 เดือน มีผลกระทบต่อร่างกายตั้งแต่หัวจดเท้า และมีผลต่อหัวใจและปอด ไม่สามารถทำงานได้ปกติ เช่น คนที่เป็นนักวิ่งมาราธอน ต้องนอนอยู่บ้าน หรือคนที่สติปัญญาเฉียบแหลม เป็นโปรแกรมเมอร์ อายุเพียง 30 ปี แต่ทำงานไม่ได้ เป็นต้น

 

3.ระยะยาว เกิดขึ้นเมื่อมีระยะเวลาเกิน 3 เดือน จะมีปัญหาระบบทางสมอง และจิตใจ ยังไม่แก่แต่คิดอะไรไม่ออก และคิดแบบไม่มีเหตุผล ตัดสินใจอะไรไม่ได้ มีอารมณ์ซึมเศร้า หรือก้าวร้าว เชื่อมโยงต่อกับโรคที่เคยควบคุมได้ทุกอย่าง เช่น คนไข้ที่มีโรคสมองเสื่อมเล็กน้อย แต่ภายหลังติดโควิด หรือฉีดวัคซีน พบว่าสมองเสื่อมเกิดขึ้นอย่างชัดเจน รุนแรง จนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้

 

 

ปรากฎการณ์สมองอักเสบทั้งที่ไม่มีประวัติว่าป่วย แต่จะเกิดขึ้นหลังจากฉีดวัคซีน มีภาวะอักเสบในร่างกายทั้งหมด อาทิ อักเสบผิวหนัง อักเสบบริเวณใบหน้า มีกล้ามเนื้อเป็นตะคริว ไม่มีความรู้สึกทางเพศ หรือประจำเดือนไม่มา ลำไส้หงุดหงิด ลำไส้แปรปรวน ท้องผูก หรือท้องเสีย

 

เยียวยา \'ลองโควิด-ลองวัคซีน\' ด้วยศาสตร์ แพทย์แผนตะวันออก

 

วัคซีนโควิด อยู่ในร่างกายได้นานแค่ไหน ?

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เผยข้อมูลการศึกษาของรัฐบาลออสเตรเลีย ในสัตว์ทดลองจากการฉีดวัคซีน mRNA เข้าที่กล้ามเนื้อและดูการกระจายตัวของวัคซีนจากการติดตามตัวด้วย radioactive particle ซึ่งเป็น มาตรฐานในการศึกษาทั่วไปทำในเดือน กุมภาพันธ์ปี 2021 และข้อมูลไม่มีการเปิดเผยจนกระทั่งในปี 2023พบว่า การฉีดเข้ากล้าม จะแทรกซึมเข้าไปในกระแสเลือดและเข้าไปในทุกส่วนของร่างกาย

 

หมายความว่า ตัววัคซีนนั้นจะเข้าไปกำหนดให้เซลล์ในอวัยวะต่างๆ ผลิตโปรตีนหนามขึ้นมาและหมายความว่าจะสามารถอยู่ในร่างกายได้นานกว่าที่ข้อมูลที่เราได้รับทราบแต่ต้นว่า วัคซีนจะอยู่เฉพาะที่กล้ามเนื้อที่แขนตรงตำแหน่งที่ฉีดเท่านั้นและจะสลายหายไปภายในสองถึงสามวัน

 

ความจริงดังกล่าวได้รับการยืนยันจากการติดตามผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข้ากล้ามและรายงานในปี 2023โดยพบว่าจะมีวัคซีนล่องลอยอยู่ในกระแสเลือดได้นานอย่างน้อย 28 วันด้วยกันและอาจจะเป็นเครื่องอธิบายได้ว่า ทำไมผลแทรกซ้อนของวัคซีนซึ่งดูเหมือนว่าตามรายงานว่าจะไม่มากก็ตาม แต่ สามารถเกิดขึ้นได้ และยังเกิดได้ในระยะเวลาที่ห่างจากการฉีด ได้เป็นสัปดาห์ หรือเป็นเดือนก็ได้ (จากผู้ป่วยที่ได้รับและพิสูจน์ว่ามีส่วนของวัคซีนจริงในอวัยวะสำคัญที่ทำให้เกิดการอักเสบอย่างรุนแรง)

 

เยียวยาด้วยแพทย์แผนตะวันออก

อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวถึงการเยียวยารักษาภาวะ Long Covid-19 และผลกระทบจากวัคซีนในแนวทางของการแพทย์แผนตะวันออก (การแพทย์แผนไทยและการแพทย์แผนจีน) โดยระบุว่า ความรุนแรงของการเกิด Long Covid-19 และผลกระทบจากวัคซีน ขึ้นอยู่กับธาตุสมุฏฐาน ของบุคคล การแก้อาการต้องแก้ตามพระคัมภีร์ด้วยการวางยาตามกำลังของอาการ ที่กำเริบ หย่อน พิการ เพื่อให้เกิดความสมดุลของธาตุ

 

“การเกิด Long Covid-19 และผลกระทบจากวัคซีนโควิด-19 นั้น การเกิดโรคในทางการแพทย์แผนไทย เป็นทฤษฎีความสมดุลของตัวคุมธาตุทั้ง 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ ที่ต้องวินิจฉัยว่าอาการเจ็บป่วยจากธาตุใด ชนิดใด เสียสมดุลอย่างไร โดยปัจจัยภายใน คือ ธาตุสมุฏฐาน และ อายุสมุฏฐาน ส่วน ปัจจัยภายนอก ได้แก่ อุตุสมุฏฐาน กาลสมุฏฐาน ประเทศสมุฏฐาน และ มูลเหตุการก่อโรค หากธาตุเสียสมดุล เกิดความเจ็บไข้”

 

ตัวอย่าง คือ การนำเชื้อโรคเข้าไป หรือ วัคซีนเพื่อป้องกันโรคหนึ่ง แต่ก็จะทำร้ายตัวคุมธาตุอีกตัวหนึ่ง ส่งผลให้คนๆ หนึ่งนั้นเกิดโรคด้วยตัวคุมธาตุที่ควบคุมอาการนั้นถูกกระทบ เกิดอาการปะทุขึ้นมา แสดงว่าร่างกายเริ่มเสียสมดุลด้วยการนำเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย

 

แผนไทย-จีน ปรับสมดุลสุขภาพ

ในปี 2564 ที่โควิด-19 ระบาดรุนแรงและมีคนเสียชีวิตจำนวนมาก กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้ร่วมกับ 9 โรงพยาบาลของรัฐ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ศึกษาวิจัย โดยได้จ่ายยาฟ้าทะลายโจรในการรักษาผู้ป่วย โควิด–19 ที่มีอาการรุนแรงน้อย ร่วมกับการรักษาทางแพทย์แผนปัจจุบัน จำนวน 309 ราย พบว่า ผู้ป่วย 306 ราย อาการดีขึ้นชัดเจน จนสามารถออกจาก รพ. ได้ ส่วนอีก 3 ราย เป็นกลุ่มที่มีอาการแย่ลง มีภาวะปอดบวม คิดเป็นผู้ป่วยอาการแย่ลง 0.97% แต่ที่สุดก็รักษาหาย ไม่มีใครเสียชีวิต

 

อาจารย์ปานเทพ กล่าวต่อไปว่า บัญชียาหลักแห่งชาติ กำหนดให้ฟ้าทะลายโจรบรรเทาหวัดกินได้ขั้นต่ำ 1.5 กรัมต่อครั้ง 4 ครั้งต่อวัน หรือเท่ากับ 6 กรัมต่อวัน (15 แคปซูลต่อวัน ขนาดแคปซูล 400 มิลลิกรัม) สูงสุด 3 กรัมต่อครั้ง 4 ครั้งต่อวัน หรือเท่ากับ 12 กรัมต่อวัน (30 แคปซูลต่อวัน ขนาดแคปซูล 400 มิลลิกรัม) นอกจากนี้ งานวิจัยปี 2554 มีการวิจัยในสัตว์ทดลอง โดยให้หนูกินยาพาราเซตามอลจนตับอักเสบ และให้ทานยาฟ้าทะลายโจร พบว่า สามารถลดการอักเสบลงอย่างมีนัยะสำคัญ

 

“ขณะเดียวกัน ศาสตร์แพทย์แผนจีน ในการรักษาลองโควิด และ ผลกระทบจากวัคซีนโควิด ระบุไว้ว่า การรักษาโรค แต่ไม่รักษาคน จะทำให้เกิดภาวะลองโควิดได้ง่าย แม้ผู้ป่วยจะรักษาอาการต่างๆ แล้ว จึงต้องกลับมาให้ความสำคัญในการปรับสมดุลของร่างกาย ฟื้นฟูให้เร็วที่สุด คือ ปรับสมดุลของร่างกายตามภาวะกลุ่มอาการ ตามสภาพร่างกายผู้ป่วยแต่ละราย ด้วยวิธีฝังเข็ม ทุยหนา สมุนไพรจีน ปรับวิถีชีวิต การกิน การนอน ออกกำลังกาย สมาธิ อารมณ์ เพศสัมพันธ์ จุดมุ่งหมายเพื่อรักษาอาการและฟื้นฟูศักยภาพร่างกายให้มีภูมิคุ้มกันสร้างสมดุลจากภายในในการต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บ” อาจารย์ปานเทพ กล่าว