‘หุ่นยนต์ดินสอ’ Home AI Assistance ดูแล 24 ชม.เชื่อมต่อรพ.ยามฉุกเฉิน

โซน Better Me ในงานมหกรรมด้านความยั่งยืน หรือ Sustainability Expo 2024 (SX2024) ระหว่างวันที่ 27 ก.ย. ถึง 6 ต.ค.2567 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC)ปีที่ 5 จะเป็นการเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงเมื่อเข้าสู่ช่วงสูงวัย ด้วยวิธีองค์รวมที่นำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันง่ายๆ ภายใต้แนวคิด “เตรียมตัวสูงวัยอย่างมีคุณภาพและความสุข” พบกับนวัตกรรมสำหรับผู้สูงอายุ ได้แก่ หุ่นยนต์ดินสอ หรือ หุ่นยนต์ AI ที่จะช่วยดูแลผู้สูงอายุ ทั้งเป็นเพื่อนและคอยช่วยแจ้งเตือนเรื่องสุขภาพ

เมื่อประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างเต็มขั้น จำนวนผู้สูงอายุมากขึ้นเรื่อยๆ เติมด้วยจำนวนผู้ป่วยติดเตียงและผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงที่มากขึ้นเช่นกัน ในขณะที่ผู้ดูแล ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัวหรือผู้ดูแลโดยอาชีพมีจำนวนไม่มากพอ แนวโน้มในอนาคต มนุษย์จึงอาจต้องพึ่งพา “หุ่นยนต์” ให้เข้ามาเติมเต็มคุณภาพชีวิต

“ในอนาคตอันใกล้ หุ่นยนต์จะมาช่วยมนุษย์ในพื้นที่ที่มีการขาดแคลนทรัพยากรมนุษย์ เช่นบริการด้านการดูแลสุขภาพ หุ่นยนต์สามารถช่วยลดภาระของบุคลากรทางการแพทย์และทำให้การดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุมีประสิทธิภาพมากขึ้น”

"หุ่นยนต์ดินสอ” รุ่นล่าสุด “Home AI Assistance” คือผู้ช่วยประจำบ้านเพื่อการดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมเชื่อมต่อกับโรงพยาบาลในยามฉุกเฉินอีกก้าวของหุ่นยนต์สัญชาติไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

Better Me เตรียมตัวสูงวัย อย่างมีคุณภาพและความสุข

เปิด 10 โซน SX2024 เดินหน้าเป้าหมายพัฒนาโลกยั่งยืน

หุ่นยนต์ดินสอเพื่อนผู้สูงอายุประจำบ้าน

เฉลิมพล ปุณโณทก ผู้ก่อตั้งบริษัท ซีที เอเชีย โรโบติกส์ จำกัด (CT Asia Robotics) เปิดเผยว่าการพัฒนา “หุ่นยนต์ดินสอ” โดยเฉพาะเวอร์ชันล่าสุด “Home AI Assistance” ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้ จะช่วยลดความเสี่ยงในบ้านที่มีผู้สูงอายุและผู้ป่วยที่นอนติดเตียงแต่ขาดคนดูแล ผู้สูงอายุจะได้รู้สึกปลอดภัยและมั่นใจในการดูแลสุขภาพ สามารถเคลื่อนไหวในที่พักอาศัยได้ และมีฟังก์ชันเสริมที่ทำให้ผู้สูงอายุไม่เบื่อ ไม่เหงา ที่สำคัญ ยังสามารถเชื่อมต่อกับโรงพยาบาลและช่วยในการดูแลผู้ป่วยได้ตลอดทั้งวันทั้งคืน

ตามสโลแกน “เฝ้าและเชื่อมต่อแพทย์ 24 ชั่วโมง” Home AI Assistance รุ่นนี้ทำหน้าที่หลัก 2 อย่าง คือ 

1. เฝ้าผู้สูงอายุและคนป่วยได้ตลอดทั้งวันทั้งคืน และ 

2. เชื่อมต่อกับโรงพยาบาล ด้านหลังหุ่นยนต์มีข้อมูล (Data) มากมาย เชื่อมต่อไปยังโรงพยาบาล ที่โรงพยาบาลเองก็มีหน้าจอไว้มอนิเตอร์ด้วยเช่นกันเพื่อให้รู้ว่าคนไข้เป็นอย่างไร อยู่ที่ไหน มีโรคประจำตัวหรือไม่ และหมอประจำตัวคือใคร สามารถกดพูดคุยกับพยาบาลที่โรงพยาบาลผ่านหุ่นยนต์ได้ พยาบาลจะประเมินอาการเบื้องต้นและวินิจฉัยว่าอาการลักษณะนี้ควรนอนพัก กินยา หรือรีบส่งรถฉุกเฉินไปรับ

หุ่นยนต์เป็นผู้ช่วยแพทย์ได้

“ผู้ช่วยประจำบ้าน” Home AI Assistance เป็นรุ่นที่มีการเพิ่มเติมความสามารถและความฉลาด อาทิ ระบบเรียกให้โทรกลับ เพื่อแจ้งให้แพทย์หรือลูกหลานติดต่อกลับหาผู้สูงอายุได้อย่างรวดเร็ว ระบบปฏิบัติการแบบ Real Time Monitoring เชื่อมต่อกับอุปกรณ์สื่อสารต่างๆ เช่น Smartphone หรือ Notebook ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ช่วยให้บุตรหลานสามารถดูแลและเห็นสภาพความเป็นไปของผู้สูงอายุจากสถานที่ต่างๆ ได้ แจ้งเตือนกรณีมีเหตุผิดปกติผ่านแอปพลิเคชัน เช่น เมื่อผู้สูงอายุหายไปจากสายตาของหุ่นยนต์ดินสอ

ติดตั้งอุปกรณ์เช็กสัญญาณชีพ (vital sign) ส่งข้อมูลตรงไปยังแพทย์ผู้มีหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุรายนั้นๆ ช่วยให้แพทย์สามารถเก็บข้อมูลผู้สูงอายุได้โดยไม่จำเป็นต้องเสียเวลาเดินทางไปที่โรงพยาบาล รวมทั้งสามารถวัดไข้ได้ ช่วยเตือนการทานยาและการดูแลสุขภาพด้วย

“หุ่นยนต์ดินสอรุ่นนี้จะเริ่มเหมือนสิ่งมีชีวิตมากขึ้น เป็นเสมือนผู้ดูแลที่คอยเตือนคุณตาคุณยายให้กินยา เป็นเพื่อนคลายเหงา ชวนฟังเพลง ฟังธรรมะ ชวนเล่นเกมๆ ฝึกความจำ ชะลอการป่วยเป็นอัลไซเมอร์ได้ มีหุ่นยนต์ดินสอ 1 ตัว ก็เพียงพอสำหรับการดูแลผู้สูงอายุตามบ้าน”   

หุ่นยนต์ดินสอ Pro4 OPD เป็นที่รู้จักและเข้ามาประจำการช่วยงานในโรงพยาบาลได้หลายปีแล้ว ในฐานะหุ่นยนต์ผู้ช่วยพยาบาล (OPD) โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ มีหุ่นยนต์ดินสอ 5 ตัว ส่วนโรงพยาบาลศิริราช 30 ตัว หุ่นยนต์รุ่นนี้ช่วยให้บริการผู้ป่วย เมื่อคนไข้เสียบบัตรประชาชน เจ้าหุ่นยนต์จะเช็กให้ทันทีว่ามีประวัติเคยป่วยเป็นอะไร มีนัดตรวจกับคุณหมอวันไหน สิทธิในการรักษามีอะไรบ้าง เป็นต้น

“หุ่นยนต์สามารถเป็นแพทย์หรือผู้ช่วยแพทย์ได้” ยกตัวอย่างหุ่นยนต์ดินสอ สามารถวัดค่าต่าง ๆ เช่น ความดัน อุณหภูมิร่างกาย ระดับออกซิเจน ตรวจลมหายใจ วัดคลื่นหัวใจ เฝ้าดูการหลับ แล้วส่งผลการวัดค่าต่างๆ เข้าแท็บเล็ตของแพทย์เจ้าของไข้เพื่อประเมินผลทางไกล นอกจากนี้ ยังมีระบบที่ส่งเสียงเตือนทันที เมื่อคนไข้มีอัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ

"เฉลิมพล" มีความสนใจด้านเทคโนโลยี AI และมองเห็นอนาคตที่ “หุ่นยนต์” จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในชีวิตมนุษย์ ตั้งแต่สมัยเรียนที่คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ หลังสำเร็จการศึกษา จึงพัฒนาซอฟต์แวร์และการผลิตหุ่นยนต์ด้วยเป้าหมายที่จะให้หุ่นยนต์ตอบโจทย์คุณภาพชีวิตของมนุษย์ อาทิ การใช้หุ่นยนต์ในภารกิจที่เสี่ยงอันตราย หุ่นยนต์ “บริกร” ที่เสิร์ฟอาหารในร้านอาหาร และหุ่นยนต์สำหรับดูแลผู้สูงอายุและช่วยเหลือการบริการด้านการแพทย์

สำหรับ“หุ่นยนต์ดินสอ” เกิดขึ้นในปี 2552 เป็นหุ่นยนต์บริการที่มีความสามารถในการมองเห็น การสื่อสาร และการเคลื่อนที่ได้อัตโนมัติโดยไม่ชนกับมนุษย์หรือสิ่งกีดขวาง ซึ่งบริษัทได้ผลิตหุ่นยนต์เพื่อรับคำสั่งและเสิร์ฟอาหารให้กับร้านอาหารหลายแห่ง ทั้งในประเทศและส่งออกไปยังต่างประเทศด้วย 

จนในปี 2558 ได้เปิดตัวหุ่นยนต์ดินสอสำหรับดูแลผู้สูงอายุและสนับสนุนการบริการในโรงพยาบาล ถึงปัจจุบัน หุ่นยนต์ดินสอมีใช้ในโรงพยาบาล ทั้งมหาวิทยาลัยทางการแพทย์ของรัฐและโรงพยาบาลเอกชนมากกว่า 50 แห่ง โดยแต่ละรุ่น มีการพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถและความฉลาดให้หุ่นยนต์เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

AIช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางการแพทย์

ในอนาคตอยากทำให้หุ่นยนต์ดินสอเป็นผู้ช่วยแพทย์ที่สามารถเข้าถึงทุกคนได้ ไม่ว่าจะอยู่ในเมืองหรือชนบท ต้องการลดความเหลื่อมล้ำทางการรักษาและทำให้การดูแลสุขภาพเป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ถ้าเราขยายการใช้งานหุ่นยนต์ดินสอให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เป็น “1 ตำบล 1 หุ่นยนต์ดินสอ” ก็คงจะดี”ข้อมูลเกี่ยวกับหุ่นยนต์ดินสอ เข้าไปดูได้ที่ :https://www.dinsaw.com/

สำหรับงาน Sustainability Expo จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ถือเป็นแพลตฟอร์มความร่วมมือด้านความยั่งยืนที่เชื่อมโยงทุกภาคส่วนในระดับภูมิภาค นำเสนอองค์ความรู้ ไอเดีย เทรนด์นวัตกรรม และเทคโนโลยี ผลักดันการลงมือทำ และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง

โดยน้อมนำพระปฐมบรมราชโองการตามพระราชปณิธานในการสืบสาน รักษา ต่อยอด ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรมาเป็นแนวทางการจัดงาน เพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลก (SDGs) ในทศวรรษแห่งการลงมือทำ ที่จะสร้างผลลัพธ์ให้เกิดเป็นรูปธรรมได้อย่างแท้จริงและยั่งยืน

หุ่นยนต์ดูแลผู้สูงอายุอุตสาหกรรมแห่งอนาคต

นอกจากโรงพยาบาลในประเทศไทย หุ่นยนต์ดินสอยังได้รับการยอมรับจากประเทศญี่ปุ่น “แสดงให้เห็นว่าเราสามารถสร้างนวัตกรรมที่มีคุณค่า และ เป็นที่ยอมรับในระดับสากลได้”

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนการขยายตลาดหุ่นยนต์ดินสอไปยังประเทศแคนาดา ฮ่องกง เกาหลี และอินโดนีเซียในอนาคต ซึ่งทั้งหมดสะท้อนให้เห็นถึงโอกาสและศักยภาพที่ประเทศไทยจะเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการผลิตหุ่นยนต์ทางการแพทย์และการดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุ

“ในเวทีแข่งขันหุ่นยนต์ระดับนานาชาติ ทีมจากประเทศไทยไม่น้อยหน้าชาติใดในโลก เราต้องใช้จุดแข็งของชาติที่มีนี้ในการผลิต AI ที่จะตอบสนองความต้องการในอนาคตของประเทศที่เข้าสู่สังคมสูงวัย นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างคุณค่าและมูลค่าให้ประเทศด้วย”

ตัวช่วยผู้สูงอายุใช้ชีวิตสะดวกและปลอดภัย

หุ่นยนต์ดินสอเป็นนวัตกรรมที่ก้าวหน้าในวงการเทคโนโลยีดูแลผู้สูงอายุ โดยได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้สูงอายุในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่การแจ้งเตือนเรื่องการทานยา การออกกำลังกายเบาๆ ไปจนถึงการเป็นเพื่อนคุยคลายเหงา หุ่นยนต์ดินสอช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายและปลอดภัยมากขึ้น

ความพิเศษของหุ่นยนต์ดินสอคือความสามารถในการปรับตัวให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละบุคคล เช่น การสื่อสารผ่านเสียง หรือการใช้แอปพลิเคชันที่ใช้งานง่าย หุ่นยนต์ยังสามารถติดตามสภาพร่างกายของผู้สูงอายุผ่านเซนเซอร์ต่างๆ เพื่อแจ้งเตือนหากมีความเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติ

การใช้หุ่นยนต์ดินสอในการดูแลผู้สูงอายุไม่เพียงแค่ช่วยลดภาระของครอบครัวและผู้ดูแล แต่ยังเสริมสร้างความมั่นใจให้ผู้สูงอายุสามารถดำเนินชีวิตอย่างมีคุณภาพได้

Dinsaw Pro4  OPD

Dinsaw Pro4  OPD เป็นหุ่นยนต์ที่พัฒนาโดย CT Asia Robotics เพื่อนำมาใช้ในงานบริการทางการแพทย์ โดยเฉพาะในโรงพยาบาลและคลินิก มีจุดประสงค์หลักเพื่อช่วยลดภาระงานของบุคลากรทางการแพทย์และเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการแก่ผู้ป่วยในแผนกผู้ป่วยนอก (Outpatient Department หรือ OPD)

• ความสามารถและฟังก์ชันของ Dinsaw Pro4  OPD:

1.ช่วยให้คำแนะนำเบื้องต้น: Dinsaw Pro4  OPD สามารถให้คำแนะนำและข้อมูลเบื้องต้นแก่ผู้ป่วยเกี่ยวกับกระบวนการรับบริการในแผนก OPD เช่น แจ้งลำดับคิว ชี้นำเส้นทางภายในโรงพยาบาล หรือแนะนำข้อมูลทางการแพทย์พื้นฐาน

2.เชื่อมต่อกับระบบโรงพยาบาล: หุ่นยนต์สามารถเชื่อมต่อกับระบบคอมพิวเตอร์และระบบข้อมูลของโรงพยาบาล เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการเก็บและดึงข้อมูลของผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็ว

3.การทำงานร่วมกับบุคลากรทางการแพทย์: หุ่นยนต์สามารถสื่อสารกับผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์เพื่อลดภาระการทำงาน เช่น การสื่อสารข้อมูลที่เป็นกิจวัตร ลดเวลาการทำงานซ้ำซ้อน

4.รองรับหลายภาษา: เนื่องจากใช้ในโรงพยาบาลที่อาจมีผู้ป่วยชาวต่างชาติเข้ารับบริการ Dinsaw Pro4  OPD สามารถรองรับหลายภาษาเพื่อให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพมากขึ้น

5.ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ : ในสถานการณ์ที่ต้องควบคุมโรคระบาด การใช้หุ่นยนต์เพื่อติดต่อกับผู้ป่วยแทนบุคลากรจะช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายของเชื้อโรค

• ประโยชน์ของ Dinsaw Pro4  OPD :

- ลดเวลาการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์

- เพิ่มประสิทธิภาพในการบริการผู้ป่วย โดยเฉพาะในช่วงที่มีผู้ป่วยจำนวนมาก

- ลดความเสี่ยงของการแพร่กระจายเชื้อโรคในการติดต่อระหว่างบุคลากรกับผู้ป่วย

Dinsaw AI-Nose

Dinsaw AI-Nose คือชุดตรวจคัดกรองมะเร็ง จากกลิ่นลมหายใจ ในรุ่นแรกนี้สามารถตรวจคัดกรอง มะเร็งปอด และมะเร็งเต้านมได้แม่นยำ

การใช้งานง่ายเพียงแค่เป่าลมใส่ถุงที่เตรียมให้  และใส่เข้าไปในเครื่องตรวจ เซ็นเซอร์จะตรวจกับสาร ไอระเหยอินทรีย์ที่ปะปนในลมหายใจ และทำการ ส่งข้อมูลให้ AI ที่อยู่บน Server ผ่านระบบ Wi-fi และใช้เวลาประมาณ 20 นาที ในการรายงานผลมายัง Web Application 

การตรวจจะต้องเริ่มจากการเก็บข้อมูลผู้ป่วย ณ จุดบริการอย่างต่ำ 100 Cases และข้อมูล คนปกติ 100 Cases เพื่อให้มั่นใจว่าสารไอระเหยอินทรีย์ ในบริเวณจุดบริการนั้นมีลักษณะอย่างไร ในสิ่งแวดล้อมดังกล่าว ยิ่งข้อมูลมากขึ้นความแม่นยำ ก็จะสูงขึ้น 

ทั้งนี้ ดินสอ AI Nose ต้องใช้งานคู่กับหุ่นยนต์ดินสอ และเป็นเพียงการตรวจคัดกรองความเสี่ยงของมะเร็งปอด และมะเร็งเต้านม เพื่อแนะนำให้ผู้ป่วย และแพทย์พิจารณาในการตรวจทางมาตรฐานทางการแพทย์ต่อไป