5 วิธีกิน”ทุเรียน”อย่างรู้เท่าทันความอร่อย
โปรดระวังกับความอร่อยในการกิน"ทุเรียน" เนื่องจากน้ำตาลสูง พลังงานเยอะ มีข้อห้ามบางอย่างที่คนป่วยบางกลุ่มไม่ควรบริโภค และไม่ควรกินคู่กับอาหารบางชนิด...ความอร่อยที่ต้องระวังมีอะไรบ้าง
ทุเรียน เป็นผลไม้ไทยที่คนไทยรอคอยทุกปีว่า ปีนี้จะได้กินทุเรียน...ถูกหรือแพง
คนส่วนใหญ่รู้ดีว่า ทุเรียนเป็นผลไม้ให้พลังงานสูง ต้องกินอย่างระวัง เพราะทุเรียน 100 กรัม ให้พลังงานเฉลี่ยประมาณ 147 กิโลแคลอรี่ ปกติผลไม้ทั่วไปปริมาณเท่ากันให้พลังงาน 60-70 กิโลแคลลอรี่ ทุเรียนให้พลังงานมากกว่าผลไม้อื่นประมาณ 2 เท่า
เนื่องจากทุเรียน มีคาร์โบไฮเดรตและไขมันสูง รวมทั้งในเนื้อทุเรียน ยังมีโปรตีนและแร่ธาตุ เช่น แคลเซียมและฟอสฟอรัสสูง
ถ้าอย่างนั้นลองอ่านคำแนะนำ 5 ข้อเพื่อประโยชน์ในการกินทุเรียนแบบรู้เท่าทัน กินให้อร่อยแล้วไม่ป่วยไข้ก็ย่อมดีกว่า ไม่ระวังในการกิน
1. ทุเรียน ผลไม้พลังงานสูง
- ไม่ควรกินทุเรียนเกินวันละ 2 เม็ดขนาดกลาง (หนักประมาณ 80 กรัม) ไม่กินถี่ทุกวัน ถ้ากินทุเรียน ควรลดอาหารกลุ่มข้าว-แป้ง 1 ทัพพี และของหวานในมื้อที่กินทุเรียน
- การกินทุเรียน 4 - 6 เม็ด จะเทียบเท่าการดื่มน้ำอัดลม 2 กระป๋อง (พลังงานประมาณ 400 กิโลแคลอรี) หรือเท่ากับกินข้าวมันไก่ 2 จาน หรือเท่ากับการกินอาหาร 2 มื้อ
-มื้อใดที่กินทุเรียน ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ให้พลังงานสูง เช่น อาหารประเภททอด อาหารที่ปรุงด้วยกะทิ อาหารหวานต่างๆ และต้องลดอาหารกลุ่ม ข้าวและแป้งลงมื้อละ 1 ทัพพี หรือลดอาหารในมื้อต่อไป
-ทุเรียนต่างสายพันธุ์ ให้พลังงานไม่เท่ากัน
ทุเรียนก้านยาวให้พลังงาน 181 กิโลแคลอรี่
ทุเรียนรวง ให้พลังงาน 157 กิโลแคลอรี่
ทุเรียนหมอนทอง ให้พลังงาน 156 กิโลแคลอรี่
ทุเรียนชะนี ให้พลังงาน 139 กิโลแคลอรี่
ทุเรียนกระดุมให้พลังงาน 129 กิโลแคลอรี่
2.กินทุเรียน ถอนด้วยมังคุด
-ควรกินทุเรียนสลับกับการกินผลไม้ที่หลากหลายชนิดในแต่ละวัน เช่น กินทุเรียนคู่กับมังคุด เพราะมังคุดเป็นผลไม้ที่มีน้ำในปริมาณมาก จึงทำให้มีฤทธิ์เย็นช่วยต้านความร้อนที่เกิดจากกินทุเรียนได้ รวมทั้งมีเส้นใยอาหารสูง และสารต้านการอักเสบช่วยแก้ร้อนใน เหมาะกับการกินคู่กับทุเรียน
-เนื้อของทุเรียนมีสารซัลเฟอร์หรือกำมะถันตามธรรมชาติในปริมาณมาก ทำให้กลิ่นทุเรียนคล้ายกลิ่นกำมะถัน ด้วยเหตุนี้คนโบราณจึงจัดให้ทุเรียนเป็นอาหารร้อน เมื่อกินแล้วต้องแก้ด้วยผลไม้เย็น คือมังคุด
3. คนป่วยกลุ่มไหนต้องระวัง
คนที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคไต โรคเบาหวาน โรคหัวใจและโรคความดันโลหิตสูง ควรระมัดระวังเรื่องการกินทุเรียนมากกว่าคนทั่วไป
อาจกินได้ แต่ต้องกินในปริมาณน้อยกว่าคนปกติและไม่บ่อย เพราะการกินทุเรียนปริมาณมากหรือกินทุเรียนบ่อยๆ จะส่งผลต่อปริมาณน้ำตาลและไขมันในเลือดของผู้ป่วยได้
4 กินทุเรียนกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
คำถามยอดฮิตทุกปี...
-ทุเรียนเป็นอาหารที่มีไขมันและคาร์โบไฮเดรตสูง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็ให้พลังงานสูง เมื่อกินทุเรียนร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร่างกายจะได้รับพลังงานที่มากเกินไป ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดกระบวนการเผาผลาญเพื่อกำจัดของเสียเพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ กรดกำมะถันในทุเรียนจะทำให้เอนไซม์ที่กำจัดสารพิษจากกระบวนการเผาผลาญลดลง หากมีปัญหาสุขภาพ หรือโรคประจำตัว อาจทำให้เกิดอาการหน้าแดง ชา วิงเวียนและอาเจียน หากนำส่งโรงพยาบาลไม่ทันอาจเสียชีวิตได้
-มีข้อแนะนำว่าไม่ควรกินทุเรียนกับเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะสารซัลเฟอร์ในทุเรียนจะทำปฏิกิริยากัน ก่อให้เกิดพิษกับร่างกาย เนื่องจากสารซัลเฟอร์ละลายได้ดีในแอลกอฮอล์ ซึ่งจะทำให้ถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือดได้เร็วขึ้น ฤทธิ์ร้อนของซัลเฟอร์ที่แผ่เข้าสู่กระแสเลือดอย่างรวดเร็วไม่เป็นผลดีต่อร่างกาย
5 ปริมาณน้ำตาลในทุเรียนสูงมาก
กองโภชนาการ กรมอนามัยระบุว่า
-ทุเรียน1 พูใหญ่ 31 กรัม มีปริมาณน้ำตาล 3.2 ช้อนชา
-มังคุด4ผล ( 64 กรัม ) ปริมาณน้ำตาล 0.73 ช้อนชา
-กล้วยหอม1 ผล (108 กรัม) ปริมาณน้ำตาล 5.15 ช้อนชา
-แอปเปิ้ลแดง 1 ผล (130 กรัม)ปริมาณน้ำตาล 3.44 ช้อนชา
-ฝรั่ง ครึ่งผล(200 กรัม) ปริมาณน้ำตาล 2.82 ช้อนชา
...................
อ้างอิงข้อมูล :
-กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
-สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร(องค์กมหาชน)
.