“แมทท์ เดมอน” เจอหางเลข ถูกถล่มยับเพราะวิกฤติเหรียญ LUNA
นักแสดงฮอลลีวูดชื่อดัง “แมทท์ เดมอน” ถูกหางเลขจากวิกฤติราคาเหรียญ LUNA ชาวเน็ตรุมสับเละในฐานะที่เป็นพรีเซนเตอร์เชิญชวนให้คนมาลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี
ปรากฎการณ์สั่นสะเทือนวงการคริปโตเคอร์เรนซี เมื่อเหรียญลูนา (LUNA) ซึ่งเคยติด 1 ใน 10 สกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าสูงสุด ราคาลดลงฮวบฮาบลงไปแตะระดับต่ำสุดภายในวันเดียว ได้ส่งผลกระทบมาถึงวงการบันเทิงด้วย
เมื่อ “แมทท์ เดมอน” ผู้กำกับและนักแสดงชื่อดังของฮอลลีวูด ถูกชาวเน็ตรุมถล่มยับเยิน เนื่องจากเขาเคยรับงานโฆษณาให้กับเว็บไซต์ Crypto.com เชิญชวนคนมาลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี
ในโฆษณาชิ้นดังกล่าว แมทท์เดินอยู่ในสถานที่หนึ่ง มีลักษณะล้ำยุคคล้ายโลกอนาคตหรือบนยานอวกาศ เขาเดินผ่านโฮโลแกรมฉายภาพเหล่านักผจญภัยในโลกยุคเก่าที่กำลังล่องเรือข้ามมหาสมุทร ปีนภูเขาหิมะ ทดลองขับเครื่องบินในยุคแรก เดินไปขึ้นยานอวกาศ พร้อมกับบอกว่า พวกเขาก็เหมือนคุณกับผมที่อ้าแขนรับ เลือกการกระทำที่กล้าและบ้าบิ่น ไม่ว่าจะเป็นการปีนเขาหรือทะยานออกไปนอกอวกาศ
ก่อนจะปิดท้ายด้วยการพูดจาเชิญชวนให้คนลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีด้วยวรรคทองว่า “โชคลาภชอบคนกล้า” หรือ “Fortune favors the brave”
การร่วมมือกันระหว่าง แมทท์ เดมอน กับ Crypto.com ถือเป็นการโฆษณาประชาสัมพันธ์แพลตฟอร์มนี้ในระดับโลกเป็นครั้งแรก โดยสำนักข่าว “บลูมเบิร์ก” รายงานว่ามีการใช้งบประมาณไปกับโครงการนี้ถึงกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โฆษณาตัวนี้ออกฉายเป็นครั้งแรกในช่วงปลายเดือนตุลาคม 2564 ก่อนจะถูกนำมาออกอากาศอีกครั้งในช่วงซูเปอร์โบลว์ ซึ่งก็ปรากฎว่ากลายเป็นกระแสพูดถึงในวงกว้าง จนมีคำเรียกเล่นๆ ว่าเป็น “คริปโต โบลว์” กันเลยทีเดียว
ดังนั้น เมื่อเกิดความระส่ำระสายในตลาดคริปโตเคอร์เรนซีที่ดำดิ่งแตะระดับต่ำสุดในรอบ 16 เดือน คนที่ต้องขาดทุน สูญเสียเม็ดเงินจำนวนมหาศาล จึงพากันพุ่งเป้ามาที่ แมทท์ เดมอน เพื่อระบายความโกรธเกรี้ยวใส่ตัวเขาแทน อย่างผู้ใช้รายหนึ่งที่ทวิตว่า
“ถ้าคุณใช้เงิน 1000 ดอลลาร์ ซื้อบิทคอย์น ETF ในวันที่โฆษณา “โชคลาภชอบคนกล้า” ของ แมท์ เดมอน ออกฉายเมื่อวันที่ 28 ตุลาคมปีที่แล้ว ตอนนี้คุณจะเหลือเงินอยู่เพียง 554 ดอลลาร์”
ขณะที่ผู้ใช้ทวิตเตอร์อีกรายบอกว่า
“ฉันยังจำโฆษณาที่ฉายตอนซูเปอร์โบลว์ได้อยู่เลย ที่ แมทท์ เดมอน มากล่อมว่า “โชคลาภชอบคนกล้า” แล้วฉันก็เอาเงินเก็บในชีวิตไปซื้อคริปโต เป็นช่วงเวลาที่ดี ว่าแต่ถ้าขายไตข้างหนึ่งจะได้เงินซักเท่าไรนะ”
อย่างไรก็ตาม แมทท์ เดมอน ที่มีผลงานภาพยนตร์สร้างชื่ออย่างหนังสายลับตระกูล “เจสัน บอร์น” (Jason Bourne) และหนังสำรวจอวกาศเรื่อง “The Martian” ไม่ได้เป็นคนดังเพียงรายเดียวเท่านั้นที่ออกมาชักชวนให้คนไปลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี
แต่ยังรวมถึง ผู้กำกับที่มีชื่อเสียงอย่าง “สไปค์ ลี”, นักอเมริกันฟุตบอลชั้นนำ “ทอม เบรดี้” กับภรรยาซูเปอร์โมเดล “จีเซล บุนด์เชน”, นักแสดงหญิงที่ผันตัวไปเป็นนักธุรกิจและเจ้าแม่ไลฟ์สไตล์อย่าง “กวินเนธ พัลโทรว์” และรีส วิเธอร์สปูน, นักบาสชื่อดัง “เลอบรอน เจมส์ และนักร้อง “เจ บัลวิน” โดยแต่ละคนเป็นกระบอกเสียงให้กับหลากหลายแบรนด์ต่างกันออกไป เช่น FTX, Binance, Coinbase, Crypto.com ฯลฯ
รูป : www.cryptonewsz.com
ส่วนสาเหตุที่ แมทท์ เดมอน วัย 52 ปี ถูกโจมตีมากกว่าคนอื่นอาจเป็นเพราะโฆษณาคริปโตเคอร์เรนซีของเขานั้นเป็นที่รู้จักแพร่หลายในวงกว้าง (ปัจจุบันมียอดวิว 17.7 ล้านวิวแล้ว) นอกจากนี้ แมทท์ เดมอน ไม่ได้เป็นเพียงดาราและผู้กำกับที่มีชื่อเสียงเท่านั้น แต่เขายังเป็นผู้ก่อตั้งและสนับสนุนโครงการเพื่อสังคมหลายอย่าง เช่น Water.org องค์กรไม่หวังผลกำไรที่จัดหาน้ำดื่มที่สะอาดปลอดภัยให้กับผู้ขาดแคลนทั่วโลก
โครงการ One Campaign ที่ต่อสู้กับโรคเอดส์และความยากจนในประเทศโลกที่สาม, เป็นกระบอกเสียงให้กับ Feeding America หน่วยงานบรรเทาทุกข์ผู้หิวโหยในสหรัฐอเมริกา ฯลฯ จึงทำให้ แมทท์ เดมอน เป็นคนดังที่มีความน่าเชื่อถือ สามารถโน้มน้าวใจคนได้มากนั่นเอง
สำหรับในเรื่องนี้นั้น เจสัน เดมาทา ผู้ก่อตั้งและซีอีโอบริษัท Fabric Media ซึ่งเป็นบริษัทวางกลยุทธ์ด้านการตลาด ได้ให้ความเห็นกับสำนักข่าว NBC News เอาไว้ว่า
“เวลาที่คนดังเอาชื่อเสียงของตัวเองไปผูกกับแบรนด์ในตลาดที่มีตัวเลือกอยู่หลายร้อยแบรนด์นั้น มันจะช่วยเรียกความสนใจจากผู้บริโภคได้ เพราะพวกเขานำความน่าเชื่อถือของตัวเองให้ผลิตภัณฑ์ตัวนั้นยืมไปใช้”