"มารายห์ แคร์รี่" ถูกฟ้องเกือบ 700 ล้านบาท ใช้ชื่อเพลงฮิต คริสต์มาส ซ้ำคนอื่น
“มารายห์ แคร์รี่” นักร้องระดับตัวแม่ของโลก ถูกฟ้องในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์เพลง “All I Want For Christmas Is You” เพลงสุดฮิตประจำเทศกาลคริสต์มาส ด้วยมูลค่ากว่า 20 ล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 700 ล้านบาท หลังจากที่เพลงนี้ถูกปล่อยมาแล้วเกือบ 3 ทศวรรษ
เพลง “All I Want For Christmas Is You” ของ “มารายห์ แคร์รี่” ถูกปล่อยออกมาครั้งแรกในปี 2537 ในอัลบั้ม “Merry Christmas” และได้รับความนิยมสุดขีดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จนกลายหนึ่งในเพลงประจำเทศกาลคริสต์มาส ร่วมกับเพลงในตำนานอื่น ๆ อย่าง “Jingle Bell” “Silent Night” และ “Santa Clause Is Coming To Town”
นอกจากนี้ยังเป็นเพลงแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถกลับขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ของชาร์ต Billboard Hot 100 ได้ทุกปี นับตั้งแต่ขึ้นอันดับ 1 ครั้งแรกในปี 2562 จนแคร์รี่ถูกหลายสื่อขนานนามให้เป็น “ราชินีแห่งเทศกาลคริสต์มาส” (The Queen of Christmas)
“แอนดี้ สโตน” นักแต่งเพลงชาวสหรัฐ หนึ่งในผู้ร่วมแต่งเพลง “All I Want For Christmas Is You” เวอร์ชันที่ขับร้องโดย “Vince Vance & The Valiants” ปล่อยออกมาครั้งแรกในปี 2532 หรือ 5 ปีก่อนที่เพลง All I Want For Christmas Is You ของแคร์รี่จะปล่อยออกมา ได้ยื่นฟ้องต่อศาลแขวงสหรัฐในเขตตะวันออกของรัฐลุยเซียนา โดยอ้างว่า แคร์รี่ได้ใช้ประโยชน์จาก “ความนิยม” (Popularity) และ “สไตล์” (Style) ของเขา
แม้ทั้ง 2 เพลงจะมีชื่อเพลงเดียวกัน แต่แนวเพลงนั้นแตกต่างกันชัดเจน โดย All I Want For Christmas Is You ของแคร์รี่นั้นเป็นแนวป๊อป มีจังหวะสนุก ขณะที่เพลงของ Vince Vance & The Valiants นั้นเป็นเพลงช้าแนวบัลลาดคันทรี อีกทั้งยังไม่มีเนื้อเพลงที่มีส่วนใดที่คล้ายกันเลย โดยสโตนอ้างว่า แคร์รี่ ไม่ได้ขออนุญาต ขอความยินยอม หรือซื้อลิขสิทธิ์ในการใช้ชื่อ ซึ่งทำให้เกิดความสับสนแก่ผู้ฟัง
ด้วยเหตุนี้ สโตนซึ่งใช้ชื่อในวงการดนตรีว่า “Vince Vance” และวงดนตรีในชื่อ Vince Vance and the Valiants จึงยื่นฟ้องร้องต่อศาลเพื่อเรียกค่าเสียหายอย่างน้อย 20 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 700 ล้านบาทจากแคร์รี่ ในคำฟ้องศาลระบุว่า แคร์รี่, วอลเตอร์ อฟานาเซียฟ ผู้ร่วมเแต่งเพลง และค่ายเพลง Sony Music Entertainment ต้นสังกัด “ไม่สมควรได้รับผลกำไร” จากเพลงนี้ โดยให้เหตุผลว่าจำเลย “รู้ดี มีเจตนา และจงใจร่วมกันในการละเมิดลิขสิทธิ์”
จากรายงานของ เซเลบริตี้เน็ตเวิร์ธ (Celebritynetworth) ระบุว่า ในทุก ๆ ปี แคร์รี่จะมีรายได้จากเพลงนี้ที่ประมาณ 600,000-1,000,000 ดอลลาร์ หรือราว 20-30 ล้านบาท และมียอดสตรีมมิงทั่วโลกผ่านสปอติฟาย (Spotify) มากกว่า 1,000 ล้านครั้งตั้งแต่ปี 2564
ขณะที่เพลงของสโตน ติดอันดับ 1 ของชาร์ต Billboard's Hot Country Singles & Tracks จนถึงปี 2543 เท่านั้น แต่เพลงนี้กลายเป็นที่รู้จักของคนส่วนใหญ่จากการที่ “เคลลี่ คลาร์กสัน” นักร้องชื่อดังนำมาคัฟเวอร์ลงในอัลบั้ม “When Christmas Comes Around…” เมื่อปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ สโตนให้เหตุผลว่า เขาไม่เคยอนุญาตให้ใช้เพลงของเขาเพื่อจุดประสงค์ใด ๆ รวมถึง “การสร้างสรรค์ผลงานลอกเลียนแบบ” แต่กลับไม่มีเหตุผลว่าทำไมสโตนถึงเลือกจะฟ้องร้องแคร์รี่ หลังจากที่เพลงปล่อยออกมานานกว่า 28 ปีแล้ว
ทั้งนี้ ในคำร้องยังระบุอีกว่า ทนายความส่วนตัวของสโตนได้ติดต่อกับแคร์รี่และจำเลยร่วม เป็นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว แต่ยังไม่สามารถตกลงกันได้ ขณะที่แคร์รี่ยังไม่มีการออกมาให้ความเห็นใด ๆ
อันที่จริงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เพลงของศิลปินต่าง ๆ จะมีชื่อเหมือนกัน โดยเว็บไซต์ สำนักงานลิขสิทธิ์แห่งสหรัฐ ระบุว่า มีงานลิขสิทธิ์กว่า 177 รายการที่ใช้ชื่อว่า All I Want For Christmas Is You
ในหนังสือ “The Meaning of Mariah Carey” ของแคร์รี่ ได้เล่าถึงกระบวนการการแต่งเพลงนี้ว่า เดิมทีเธอไม่ได้รับแรงบันดาลใจในการแต่งเพลงนี้จากเทศกาลคริสต์มาส “จริง ๆ แล้วฉันแต่งเพลงส่วนใหญ่ด้วยคีย์บอร์ดตัวเล็ก ๆ ของ Casio ฉันอยากให้เพลงนี้มันจับต้องได้ มีความอ่อนหวาน ความชัดเจน และความบริสุทธิ์อยู่ในนั้น”
ที่มา: BBC, Billboard, People, The Guardian