จริงไหม คนเรามัก ‘ตกหลุมรัก’ กันในหน้าร้อน ?

เคยสังเกตหรือไม่ ? หนังรักขึ้นหิ้งหลาย ๆ เรื่อง ทั้ง La La Land, The Notebook, Call Me By Your Name, 500 Days of Summer หรือแม้กระทั่งหนังเพลงในตำนานอย่าง Grease ล้วนเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฤดูร้อนทั้งสิ้น 

แม้ว่าฤดูอื่นก็สร้างความโรแมนติกได้ ไม่ว่าจะเป็นการหลบฝนภายใต้ร่มคันเดียวกัน หรือ การอยู่ในอ้อมกอดคนรักในบรรยากาศเทศกาลคริสต์มาสก็อบอุ่นหัวใจไม่แพ้กัน แต่ฤดูร้อนมีเวลาให้ทำกิจกรรมสานสัมพันธ์ได้มากกว่า แถมบรรยากาศของฤดูร้อนยังให้สีสันที่สดใส ต้นไม้ใบหญ้าเขียวขจี ดอกไม้บานสะพรั่ง ทำให้ภาพออกมาสวยงามมีสีสันมากกว่าฤดูอื่น ๆ นอกจากนี้มีหลาย ๆ เหตุผลที่ทำให้ “ฤดูร้อน” จึงเป็นฤดูที่ดีที่สุดสำหรับการตกหลุมรัก (แม้ว่าในไทยจะร้อนทั้งปีก็ตาม)

ภาพจากภาพยนตร์ The Notebook

 

• พบเจอผู้คนมากขึ้น

ฤดูร้อนทำให้เราได้พบเจอกับผู้คนมากยิ่งขึ้น เพราะสภาพอากาศเอื้ออำนวยต่อการออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านเพื่อคลายร้อน จับกลุ่มรวมแก๊งเพื่อน ๆ หรือชวนคนในครอบครัวออกไปท่องเที่ยว จนฤดูร้อนกลายเป็นช่วงไฮซีซันของการท่องเที่ยว ซึ่งแน่นอนว่าการออกไปนอกสถานที่ทำให้พบเจอกับคนที่หลากหลายขึ้น อาจจะเป็นคนที่เดินผ่านไปผ่านมาแต่ไม่ได้พูดคุยกัน

ความน่าสนใจของคนใหม่ที่เพิ่งเจอกัน บวกกับสภาพอากาศที่เป็นมิตร และความสัมพันธ์ที่เริ่มก่อตัว เป็นสูตรที่เหมาะให้เกิดการตกหลุมรักกัน โดย ดร. สก็อตต์ ฮอลทซ์แมน จิตแพทย์ชาวอเมริกัน ผู้ให้คำปรึกษาด้านความสัมพันธ์ เปิดเผยกับนิตยสาร Women's Health ว่า “การดูเชิงกันไปมาระหว่างคนสองคนที่เพิ่งพบกันจะช่วยเพิ่มสารโดพามีน ที่ทำให้เกิดความตื่นเต้น ความคาดหวัง และความสุข จนกลายเป็นการเพิ่มแรงดึงดูดทางเพศระหว่างกันและกันมากขึ้น”

ภาพจากภาพยนตร์  500 Days of Summer

• มีอิสระได้ทำสิ่งต่าง ๆ

ถ้าจะกล่าวว่า “หน้าร้อน” เป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนก็คงไม่ผิดนัก เพราะเป็นช่วงเวลาปิดเทอมของเด็ก ๆ ขณะที่วัยทำงานก็มักจะ “ลาพักร้อน” ในช่วงนี้ เพราะไทยเราเองมีเทศกาลหยุดยาวในช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค. หลายช่วง เช่น “สงกรานต์”

เมื่อเราไม่จำเป็นต้องคร่ำเคร่งกับการทำงานอย่างหนักเพื่อรอรับโบนัสปลายปี หรือสอบเพื่อให้ได้เกรดดี ๆ ย่อมทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น จากการปลดปล่อยภาระอันหนักอึ้งที่แบกไว้มาตลอดปี ส่งผลให้เราสร้างปฏิสัมพันธ์อย่างเป็นกันเองกับคนอื่น ๆ มากขึ้น ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับบรรยากาศ ไม่จำเป็นต้องคิดอะไรมากมาย ลดกำแพงภายในจิตใจลง อยากจะเก็บช่วงเวลาดี ๆ ไว้ให้นานที่สุด เป็นเหตุให้ความรักจึงก่อตัวได้อย่างรวดเร็ว

ภาพจากภาพยนตร์เรื่อง Call Me By Your Name

 

• บรรยากาศดีทำให้อารมณ์ดี

อุณหภูมิที่สูงขึ้นช่วยให้คนเราเปิดมุมมอง ความคิดใหม่ ๆ และอารมณ์ดียิ่งขึ้น จากการศึกษาในปี 2547 ที่จัดทำโดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน พบว่า การอยู่กลางแจ้งเพียง 30 นาที สามารถทำให้ผู้คนเปิดรับประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพบปะผู้คนและมีบทสนทนาร่วมพูดคุยกันที่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของความโรแมนติก และเกิดแรงดึงดูดทางเพศได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ดร. ไมเคิล เอฟ ฮอลิก แพทย์ต่อมไร้ท่อชาวอเมริกันผู้เชี่ยวชาญด้านวิตามินดี กล่าวว่า แสงแดดกระตุ้นให้ร่างกายผลิตสารสื่อประสาทโดพามีนและเซโรโทนิน รวมถึงฮอร์โมน MSH ซึ่งจะส่งผลให้อารมณ์ดีขึ้น และกระตุ้นความต้องการทางเพศอีกด้วย

ต่างจากช่วงฤดูหนาว ที่ไม่มีแดด มีแต่ความหนาว แถมต้องอยู่ภายในห้องไปไหนก็ไม่ได้ จนเกิดเป็นความเหงาและโหยหาหาใครสักคนมาอยู่ด้วย จนถูกเรียกว่า “Cuffing Season”  แปลว่าฤดูหาคู่นั่นเอง

ภาพจากภาพยนตร์เรื่อง La La Land

• รู้สึกเซ็กซี่กว่าที่เคย

อุณหภูมิแตกต่างกันของฤดูร้อนและฤดูหนาว ย่อมส่งผลให้ผู้คนแต่งกายแตกต่างกัน ลมเย็น ๆ ในฤดูหนาวทำให้เราต้องไปหาเสื้อกันหนาว เสื้อแขนยาวต่าง ๆ มาใส่เพื่อป้องกันความหนาว ทำให้ไม่สามารถเปิดเผยทรวดทรงองเอวได้เท่ากับฤดูร้อนที่เราใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นมากกว่า แถมเสื้อผ้าที่ใส่ก็เบาบาง เพื่อระบายอากาศ ทำให้สบายตัว และเหมาะสำหรับการทำกิจกรรมนอกบ้าน แล้วยังช่วยให้ได้เผยเนื้อหนังมังสาได้มากขึ้น สามารถดึงดูดคนอื่น ๆ เผยเสน่ห์ สร้างความเย้ายวนใจในชุดว่ายน้ำ เสื้อกล้าม และกางเกงขาสั้นด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม

นอกจากนี้อาหารการกินก็มีผลต่อรูปร่างของผู้คนเช่นกัน เพราะในฤดูหนาวเราจำเป็นต้องกินของร้อนและอาหารที่มีไขมันสูง อย่างเช่น ชีส ซุปครีมข้น ๆ เพื่อสร้างความอบอุ่นแก่ร่างกาย ขณะที่แสงแดดในฤดูร้อนทำให้ร่างกายขาดน้ำ ดังนั้นผู้คนจึง มีแนวโน้มที่จะกินอาหารที่ให้พลังงานต่ำและมีน้ำมาก ซึ่งดีต่อสุขภาพมากกว่า 

ภาพจากภาพยนตร์เรื่อง Grease

 

แต่สำหรับประเทศไทยที่เป็นประเทศอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร แม้อย่างเป็นทางการเราจะมี 3 ฤดู คือ ร้อน-ฝน-หนาว แต่ในทางการรับรู้ดูเหมือนส่วนใหญ่จะรู้สึกถึงแค่ฤดูร้อนและร้อนมากเท่านั้น 

ที่สำคัญ กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศว่าประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนพ.ค. ซึ่งแม้เข้าเดือนพ.ค.มาแล้วจะมีฝนตกลงมาบ้างจากพายุฤดูร้อน แต่ดูเหมือนว่าสภาพอากาศในของไทยยังคงร้อนระอุอย่างต่อเนื่อง แถมจะต้องเจอกับปรากฏการณ์ “เอลนีโญ่” ที่จะทำให้เกิดภัยแล้งอีกด้วย

ฤดูร้อนเมืองไทยอาจจะไม่ได้โรแมนติกเท่ากับหนังฮอลลีวูด แค่เดินออกไปแดดก็พร้อมเผาไหม้ เหงื่อออกซกแล้ว แถมบรรยากาศในเมืองไม่ได้เอื้อให้ “ตกหลุมรัก” มากนัก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหน้าร้อนทำให้เรามีโอกาสได้พบผู้คนมากยิ่งขึ้น ให้เรามีเวลาได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ นานขึ้น ดังนั้นเราอาจจะได้เจอใครสักคนตอนที่เราออกไปหาอะไรทำนอกบ้านก็ได้ ที่สำคัญอย่าลืมทาครีมกันแดดก่อนออกนอกบ้านทุกครั้ง

ที่มา: Elite Daily, Redbook, Space Bar, Women's Health