เปิดไอเดียสุดล้ำ! ‘หมูสามชั้น’ Plant-Based ชุ่มฉ่ำที่สุดเท่าที่เคยมีมา?
อาหาร “มังสวิรัติ” ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะเนื้อสัตว์เทียมที่สร้างจากพืช (Plant-Based) ถือเป็นเมนูทางเลือกอันดับต้นๆ แต่บางครั้งเนื้อยังแห้งเกินไป ไม่ชุ่มฉ่ำเหมือนเนื้อสัตว์จริง แต่วันนี้มีเทคโนโลยีที่พัฒนาสูตรจนได้ “หมูสามชั้น” ที่เหมือนของจริงสุดๆ
- ทุกวันนี้ “Plant-Based” หรือเนื้อสัตว์สังเคราะห์จากพืช กำลังได้รับความนิยมในหมู่คนรักสุขภาพและสิ่งแวดล้อม มากขึ้นเรื่อยๆ
- เนื้อสัตว์สังเคราะห์บางชนิด ยังยากที่จะเลียนแบบให้มีรสชาติและรสสัมผัสเหมือนกับเนื้อสัตว์จริง เช่น หมูสามชั้น
- หมูสามชั้นจากแบรนด์ PhytoFat ถูกพัฒนาขึ้นให้มีลักษณะใกล้เคียงกับของจริงมากที่สุด ด้วยการทำให้ “น้ำมันมะพร้าว” ที่เป็นส่วนประกอบในเนื้อสัตว์เทียม มีจุดหลอมเหลวสูงมากขึ้น
ปัจจุบันอาหารมังสวิรัติ หรือเนื้อสัตว์สังเคราะห์จากพืช (Plant-Based) ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เริ่มต้นจากผู้ที่รับประทานมังสวิรัติ ผู้ที่ควบคุมน้ำหนัก ไปจนถึงคนธรรมดาทั่วไปที่เริ่มหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น แม้ว่าจะมีเทคโนโลยีมากมายที่ทำให้อาหารสังเคราะห์เหล่านี้มีความสมจริงและมีรสชาติอร่อยรับประทานง่าย แต่ในบางเมนูก็ยังถือว่าแห้งเกินไป หากเทียบกับเนื้อสัตว์จริงๆ เช่น “หมูสามชั้น”
- ทำไม Plant-Based จึงดีกับสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
ด้วยลักษณะที่โดดเด่นของหมูสามชั้น คือ ไขมันเรียงเป็นชั้นหนาตลอดชิ้นเนื้อ ทำให้เนื้อหมูมีความชุ่มฉ่ำและมีรสชาติอร่อยเป็นเอกลักษณ์ แต่เมื่อมีความพยายามในการผลิตหมูสามชั้นในเวอร์ชัน “วีแกน” ที่ต้องใช้ไขมันจากพืชมาเป็นส่วนประกอบ เวลานำไปปรุงด้วยความร้อน ไขมันพืชเหล่านั้นมักจะหลอมเหลวไปอย่างรวดเร็ว เหลือไว้เพียงเนื้อเทียมแห้งๆ ทำให้ลักษณะเด่นของหมูสามชั้นหายไป แต่ปัจจุบันการเพิ่มความชุ่มฉ่ำให้หมูสามชั้นเทียม ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ด้วยเทคโนโลยี “ไมโครเอนแคปซูเลชัน”
อาหาร Plant-Based คือ การรับประทานอาหารประเภท ผัก ผลไม้ ธัญพืชและถั่วต่างๆ เป็นหลัก โดยหลีกเลี่ยงการรับประทานเนื้อสัตว์ หรือรับประทานแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น คือ ไม่เกินร้อยละ 5 ต่อหนึ่งมื้ออาหาร เพราะประเด็นสำคัญของการรับประทาน Plant-Based ก็คือเลี่ยงการทานเนื้อสัตว์ให้ได้มากที่สุด ไม่เหมือนกับอาหารเจและมังสวิรัติที่ไม่มีส่วนผสมจากเนื้อสัตว์เลย (มังสวิรัติยังบริโภคไข่ เนย นม ได้ แต่ต้องงดเนื้อสัตว์)
ด้วยความต้องการบริโภคอาหารจากพืชผักเป็นหลัก แต่ยังอยากคงความอร่อยของอาหารไว้ให้ครบถ้วน จึงมีการใช้เทคโนโลยีสร้าง “เนื้อเทียม” ขึ้นมาจากโปรตีนพืช ผัก แป้ง ถั่ว ธัญพืช และเห็ดชนิดต่างๆ เรียกว่า Plant-Based Meat โดยถูกปรุงแต่งให้ใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์จริง ตั้งแต่รูปลักษณ์ รสชาติ กลิ่น และเนื้อสัมผัส
นอกจากอาหารเหล่านี้จะช่วยในเรื่องควบคุมน้ำหนัก และลดความเสี่ยงเกิดโรคร้ายต่างๆ แล้ว Plant-Based ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยรักษาสมดุลของทรัพยากรธรรมชาติ ลดการทำลายสิ่งแวดล้อมจากการทำฟาร์มปศุสัตว์ อีกด้วย
- หมูสามชั้นจากพืชอาจแห้งเกินไป ทำอย่างไรให้ชุ่มน้ำมันเหมือนของจริง ?
คนที่เพิ่งเข้าสู่วงการอาหาร Plant-Based มักจะเจอปัญหาเรื่องรสชาติและรสสัมผัสของเนื้อเทียมบางเมนู ที่แห้งและจืดเกินไปจนทำให้รับประทานยาก โดยเฉพาะ “หมูสามชั้นเทียม” อย่างที่บอกไปข้างต้นว่ามันมักจะค่อนข้างแห้ง กินยาก ด้วยความที่หมูสามชั้นของจริงจะมีชั้นไขมันแทรกระหว่างชิ้นเนื้อ จึงไม่ง่ายเลยที่จะนำพืชมาสังเคราะห์ให้เหมือนของจริง เนื่องจากพืชไม่ได้มีน้ำมันในตัวมากขนาดนั้น
แต่ไม่ใช่กับหมูสามชั้นจาก Lypid บริษัทสตาร์ทอัพในซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ที่ผลิตเนื้อเทียมออกจำหน่ายภายใต้แบรนด์ “PhytoFat” ซึ่งมีรสชาติและรสสัมผัสแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ โดยพวกเขาคิดค้นสูตรใหม่ ด้วยการพยายามเลียนแบบไขมันสัตว์ด้วยไขมันพืช (เช่น น้ำมันมะพร้าว) และปรับปรุงให้ไขมันจากพืชที่เป็นส่วนประกอบของหมูสามชั้นเทียมเหล่านี้ มีจุดหลอมเหลวสูงมากขึ้น ด้วยการใช้เทคโนโลยี “ไมโครเอนแคปซูเลชัน” โดยการหยดน้ำมันขนาดเล็กๆ ให้ล้อมรอบชิ้นเนื้อไว้ เพื่อสร้างแคปซูลไขมันเคลือบบนเนื้อสัตว์สังเคราะห์ จากนั้นจะสามารถจัดโครงสร้างผลิตภัณฑ์ทั้งหมดให้มีลักษณะเหมือนไขมันสัตว์ได้
ไม่ใช่แค่หมูสามชั้นเท่านั้น แต่ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์จากแบรนด์ PhytoFat ยังมีอีกมากมายให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อหามารับประทาน และที่สำคัญมันยังทนต่อการทอดในกระทะ การอบในเตาอบ การตุ๋น และการปรุงอาหารด้วยอุณหภูมิสูงทุกประเภท ถือเป็นข่าวดีของคนรักสุขภาพที่เพิ่งเริ่มต้นรับประทานอาหารที่ทำจากพืช แต่ก็ไม่อยากรับประทานเนื้อเทียมที่มีความแห้งหรือรสชาติห่างไกลจากเนื้อสัตว์จริงๆ จึงไม่น่าแปลกใจ หาก “หมูสามชั้นเทียม” รุ่นอัปเดตนี้ จะกลายเป็นทางเลือกใหม่ที่ช่วยให้การกิน Plant-Based อร่อยถูกปากยิ่งขึ้น
อ้างอิงข้อมูล : Fastcompany และ Vogue