NASA แถลงยังไม่เคยพบ UAP หรือ UFO ที่มาจากต่างดาว แต่ต้องศึกษาต่อไป
องค์การอวกาศนาซา (NASA) แถลงยังไม่เคยพบ UAP หรือ UFO ที่ยืนยันได้ว่ามีต้นกำเนิดมาจากต่างดาว แต่เล็งเห็นถึงความสำคัญ และตั้งเป้าว่าเป็นสิ่งที่ควรจะศึกษาอย่างเป็นระบบต่อไปในอนาคต
องค์การอวกาศนาซา (NASA) แถลงข่าวการเปิดคณะกรรมการศึกษา “UAP - Unidentified Anomalous Phenomena” หรือที่เคยรู้จักกันในนาม “UFO” ว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีเหตุการณ์ใดที่ยืนยันได้ว่ามีต้นกำเนิดมาจากต่างดาว แต่เล็งเห็นถึงความสำคัญ และตั้งเป้าว่าเป็นสิ่งที่ควรจะศึกษาอย่างเป็นระบบต่อไปในอนาคต
เรื่องของ “UFO” (Unidentified Flying Object) ซึ่งแปลตรงตัวว่า “วัตถุปริศนาบินได้ที่ยังไม่สามารถอธิบายได้” ซึ่งรวมไปถึงสิ่งมีชีวิตต่างดาวที่อาจจะมาเยือนโลกของเรา เป็นสิ่งที่ผู้คนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ความสนใจอันล้นหลามนี้ก็มักจะนำมาซึ่งโอกาสที่คนมักจะเอาจินตนาการมาเสริมแต่ง จนกลายเป็นทฤษฎีสมคบคิดอย่างมากมาย และความกังวลในการเชื่อมโยงต่อทฤษฎีสมคบคิดเหล่านี้นั่นเอง ที่เป็นหนึ่งในอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ที่ผ่านมาไม่ค่อยมีผู้ที่จะตั้งใจศึกษาปรากฏการณ์ที่ไม่สามารถอธิบายเหล่านี้ได้อย่างเป็นระบบ
แต่ในบางครั้งการขาดแคลนการศึกษาอย่างเป็นระบบนี้นั่นเอง ที่ยิ่งทำให้เกิดการตีความที่ผิดต่างๆ นาๆ หรือเกิดความวิตกเพิ่มมากขึ้นโดยแหล่งข้อมูลที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการทางวิทยาศาสตร์อย่างแข็งขันเท่าที่ควร ตัวอย่างหนึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ ก็คือการที่มี Jaime Maussan ผู้ที่กล่าวอ้างเอาเองว่าเป็น “ผู้เชี่ยวชาญเรื่องยูเอฟโอ” ออกมาเปิดเผย “ซากของเอเลี่ยน” ในประเทศเม็กซิโกที่มีอายุนับพันปี และมี DNA ของสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่นาน Maussen เพิ่งเคยจะประกาศการค้นพบซาก “เอเลี่ยน” ที่แท้จริงแล้วเป็นเพียงมัมมี่โบราณจากนัซกาไปก่อนหน้านี้ และการที่ไม่สามารถระบุแหล่งที่มาของรหัสพันธุกรรมของวัตถุๆ หนึ่งนั้นไม่ได้เป็นการยืนยันว่าวัตถุนั้นจะต้องมีต้นกำเนิดมาจากต่างดาวแต่อย่างใด
ด้วยเหตุนี้ องค์การอวกาศนาซาจึงได้เล็งเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องตั้งคณะกรรมการในการศึกษาปรากฏการณ์ปริศนาเหล่านี้ ซึ่งในขั้นแรกเริ่มจากการระบุนิยามเสียใหม่ว่าเป็น “UAP - Unidentified Anomalous Phenomena” หรือ “ปรากฏการณ์แปลกประหลาดที่ยังไม่สามารถอธิบายได้” เพื่อพยายามจะลดอคติที่อาจจะเกิดขึ้นและทำให้นักบินหรือนักวิทยาศาสตร์ทั่วไปกล้าที่จะออกมารายงานหรือศึกษาปรากฏการณ์เหล่านี้อย่างจริงจังมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งระบุแนวทางในการรวบรวมข้อมูล รายงาน และศึกษาอย่างเป็นระบบในอนาคต
พร้อมกันนี้ องค์การอวกาศนาซาได้เล็งเห็นว่าการทำความเข้าใจ หาคำตอบ และค้นหาคำอธิบายเพื่ออธิบายปรากฏการณ์ที่ยังไม่ทราบคำตอบ รวมไปถึงการหาสิ่งมีชีวิตจากต่างดาว ไม่ว่าจะอยู่นอกโลก หรืออาจจะอยู่ในชั้นบรรยากาศของเรา ต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจที่สำคัญของนาซาด้วยกันทั้งสิ้น และไม่ควรที่จะเพิกเฉยและปล่อยให้เกิดการตีความกันโดยปราศจากการชี้นำโดยหลักการทางวิทยาศาสตร์อีกต่อไป จึงเป็นสิ่งที่ควรจะศึกษาอย่างเป็นระบบ และใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่ถูกต้องในการเก็บข้อมูลและหาคำอธิบายปรากฏการณ์เหล่านี้
อย่างไรก็ตาม ทางคณะกรรมการก็ได้นำ ปรากฏการณ์ UAP ในอดีตที่เคยบันทึกมา มาศึกษา แต่ก็ยังไม่เคยพบปรากฏการณ์ใดที่ยืนยันได้ว่ามีต้นกำเนิดมาจากนอกโลกของเรา (หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ยังไม่เคยยืนยันได้ว่าจานบินหรือมนุษย์ต่างดาวเคยมายืนบนโลกของเรา) อย่างไรก็ตาม ทางคณะกรรมการก็ยังได้ยืนยันว่ายังมีเหตุการณ์ UAP อีกเป็นจำนวนมาก ที่ยังไม่สามารถมีคำอธิบายได้ทั้งหมด และยังคงเป็นปริศนาอยู่จนถึงทุกวันนี้ ซึ่งเป็นการตอกย้ำความสำคัญที่จะต้องมีการรายงานและศึกษาปรากฏการณ์เหล่านี้อย่างเป็นระบบ ซึ่งอาจจะนำไปสู่การค้นพบปรากฏการณ์ที่เรายังไม่รู้จักที่สำคัญในอนาคตอีกต่อไป
นอกไปจากนี้ คณะกรรมการยังบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ว่าสิ่งมีชีวิตนอกโลกนั้นอาจจะมีอยู่จริง และยังคงรอคอยการค้นหาอยู่ และแม้ว่าเราอาจจะยังไม่สามารถค้นหาสิ่งมีชีวิตต่างดาวในชั้นบรรยากาศของเราได้เร็วๆ นี้ แต่เราสามารถที่จะใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบัน ทั้งดาวเทียม กล้องโทรทรรศน์ หรือกล้องโทรทรรศน์อวกาศ ที่อาจจะค้นพบชีวิตที่อาศัยอยู่บนดาวเคราะห์หินที่โคจรอยู่ในระยะห่างที่พอเหมาะที่โคจรอยู่รอบๆ ดาวฤกษ์ที่นอกเหนือจากดวงอาทิตย์ของเราได้ในอนาคตอันใกล้นี้
เรียงเรียง : ดร. มติพล ตั้งมติธรรม - นักวิชาการดาราศาสตร์ สดร.
ที่มา : NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ