'Motherhood on ice' เมื่อผู้ชายดีๆ หายาก ผู้หญิงจึง 'ฝากไข่' รอคนที่ใช่กว่า

'Motherhood on ice' เมื่อผู้ชายดีๆ หายาก ผู้หญิงจึง 'ฝากไข่' รอคนที่ใช่กว่า

ปรากฏการณ์ "Motherhood on ice" กำลังแพร่ขยายในสังคมยุคใหม่ เมื่อสาววัยกลางคนที่ร่ำรวย การศึกษาสูง การงานก้าวหน้า นิยมใช้บริการ "ฝากไข่" มากขึ้น เพราะยังไม่เจอผู้ชายที่เท่าเทียมกันหรือเหมาะที่จะแต่งงานด้วย

Key Points: 

  • ยุคนี้ผู้หญิงวัยทำงานที่ยังไม่แต่งงานในสหรัฐ นิยม "ฝากไข่" มากขึ้น เพราะผู้ชายที่เหมาะสมทั้งการศึกษา-ฐานะทางสังคม หายากขึ้นทุกวัน
  • พวกเธอเหล่านั้นเป็นผู้หญิงในช่วงอายุ 30 ปีปลายๆ ซึ่งเป็นวัยทำงานที่มีรายได้สูง ส่วนใหญ่เป็นโสด และประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน
  • คาดการณ์ว่าผู้หญิงที่สำเร็จการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยในอเมริกา เมื่อเทียบกับผู้ชาย คิดเป็นอัตรา 2:1 คน ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เกิดความไม่สมดุลอย่างสิ้นเชิงในการหาคู่ที่เท่าเทียมกัน

สาวๆ วัยกลางคนในสหรัฐอเมริกาที่มีการศึกษาดี ทำงานเก่ง มีความก้าวหน้าในอาชีพการงาน นิยมใช้บริการธุรกิจ "ฝากไข่" หรือ "แช่แข็งเซลล์ไข่" มากขึ้น เพื่อที่จะยืดอายุการเจริญพันธุ์ของตน เนื่องจากพวกเธอพบว่า ผู้ชายที่เหมาะสมกับตนเองทั้งในแง่การศึกษาและฐานะทางสังคมนั้นหายากขึ้นทุกวัน จึงเลือกที่จะเก็บไข่ไว้รอคู่ครองที่เหมาะสมที่จะสร้างครอบครัวด้วย 

มาร์เซีย ซี อินฮอร์น อาจารย์หัวหน้าภาควิชามานุษยวิทยาและนักวิจัยในมหาวิทยาลัยเยล (Yale) สหรัฐอเมริกา พบว่า ในยุคนี้ผู้หญิงวัยทำงานที่ยังไม่แต่งงานนิยม "ฝากไข่" มากขึ้น จึงเกิดข้อสงสัยว่า มีเหตุปัจจัยใดที่ทำให้พวกเธอตัดสินใจอย่างนั้น 

 

  • ผู้ชายถากถางผู้หญิงที่ใช้บริการฝากไข่ว่า "เป็นพวกลัทธิสตรีนิยม"

ก่อนหน้านี้เธอเคยได้ยินคำพูดในเชิงเยาะเย้ยถากถางจากผู้ชายบางคนที่มองผู้หญิงที่ใช้บริการฝากไข่ว่า  มักเป็นผู้หญิงที่ชอบควบคุมทุกอย่าง, เป็นพวกใช้การแพทย์แทรกแซงธรรมชาติ, เป็นพวกลัทธิสตรีนิยม, เป็นพวกที่ไร้เดียงสา หรือโง่เขลา จนติดกับดักการตลาดของอุตสาหกรรมการเจริญพันธุ์ ฯลฯ

จากข้อมูลที่ยังไม่ผ่านการวิเคราะห์ดังกล่าว ทำให้อาจารย์อินฮอร์นอยากหาคำตอบที่ชัดเจนและถูกต้องมากขึ้น เธอจึงเริ่มทำการวิจัยจากการตั้งสมมติฐานว่า "อาชีพและการศึกษามีส่วนผลักดันให้ผู้หญิงวัยกลางคนในสหรัฐนิยมฝากไข่หรือไม่?" โดยอาจารย์อินฮอร์นได้ทำวิจัยแบบสัมภาษณ์เชิงลึกผ่านกลุ่มตัวอย่าง 150 คน ซึ่งถือเป็นการศึกษาทางมานุษยวิทยาที่ใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่ช่วงเกือบ 10 ปีก่อนจนถึงปัจจุบัน ในการค้นหาคำตอบว่าทำไมผู้หญิงถึงต้องแช่แข็งเซลล์ไข่ของตัวเอง

ผลการวิจัยพบว่า สาเหตุของปัญหานี้เกิดจาก "ผู้ชาย" ไม่ใช่เกิดจากตัวผู้หญิงเอง โดยปัจจัยหลักที่ผลักดันผู้หญิงในสหรัฐอเมริกานิยมไป "ฝากไข่" ก็คือ การขาดแคลนผู้ชายที่ได้รับการศึกษาที่เหมาะสมกับพวกเธอ ในบรรดาผู้หญิงทั้ง 150 คนนั้น มี 36 คนใช้บริการฝากไข่ด้วยเหตุผลทางการแพทย์ และที่เหลือเป็นผู้หญิงที่มีสุขภาพดีที่เลือกจะฝากไข่ด้วยเหตุผลส่วนตัว (มีทั้งผู้หญิงแท้ ผู้หญิงที่ชอบเพศเดียวกัน และผู้หญิงที่เป็น Bisexual)

โดยพวกเธอเหล่านั้นเป็นผู้หญิงที่แช่แข็งเซลล์ไข่มักจะอยู่ในช่วงอายุ 30 ปลายๆ ซึ่งเป็นมืออาชีพที่มีรายได้สูง (ทั้งในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร) และส่วนใหญ่เป็นโสด อีกทั้งพวกเธอเป็นผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน และในขณะเดียวกันก็มองหาคู่ครอง แต่พวกเธอกลับไม่สามารถหาคู่ครองที่เหมาะสมที่จะแต่งงานและมีทายาทกับพวกเธอได้

 

  • การ "ฝากไข่" ที่เพิ่มขึ้น สะท้อนช่องว่างทางการศึกษาที่กว้างขึ้น

อาจารย์อินฮอร์น อธิบายว่า สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงช่องว่างที่เพิ่มขึ้นระหว่างชายและหญิงในการเข้าสู่การศึกษาระดับอุดมศึกษา มีข้อมูลจากหลายแหล่งรายงานว่า ในปี 2019 มีผู้หญิงสำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษามากกว่าผู้ชายถึง 28% ในสหรัฐอเมริกา

ต่อมาเมื่อเร็วๆ นี้ ก็มีข้อมูลอัปเดตใหม่ที่คาดการณ์ว่า ผู้หญิงที่สำเร็จการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยในอเมริกา เมื่อเทียบกับผู้ชายที่สำเร็จการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยนั้น จะเพิ่มขึ้นอีกโดยคิดเป็นอัตรา 2:1 คน ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เกิดความไม่สมดุลอย่างสิ้นเชิงในการหาคู่ที่เท่าเทียมกัน

ช่องว่างทางการศึกษานี้ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงสหรัฐอเมริกาเท่านั้น มีความเหลื่อมล้ำทางเพศในแง่ของการศึกษาสูงนั้น กำลังเพิ่มมากขึ้นทั้งในแคนาดาและยุโรป โดยเฉพาะในสหราชอาณาจักร

ผู้หญิงหลายคนที่เข้าร่วมเป็นกลุ่มตัวอย่างของงานวิจัยชิ้นนี้ ระบุว่า พวกเธอต้องการความสัมพันธ์ที่เท่าเทียม ซึ่งมักหมายถึงการหาคนที่มีการศึกษาระดับเดียวกัน แต่ก็ยังมีบางคนบอกว่า แม้ไม่ได้มองหาผู้ชายที่การศึกษาเท่าเทียม แต่เธอก็ยังหาคู่เดทในแอปฯ หาคู่ได้ยากอยู่ดี 

 

  • ยิ่งผู้หญิงเรียนจบสูง โปรไฟล์ดี การงานดี ก็ยิ่งหาสามียาก?!

เนื่องจากพอผู้ชายเห็นโปรไฟล์ของพวกเธอและพบว่าหญิงสาวคนนี้เรียนจบสูง มีหน้าที่การงานดี ก็มักจะไม่สานต่อความสัมพันธ์เพราะรู้สึกถูกข่มขู่โดยความสำเร็จของผู้หญิง ทำให้ผู้หญิงที่เรียนจบสูงต้องปรับเปลี่ยนโปรไฟล์ โดยลดระดับทางการศึกษาลง บางคนถึงขั้นจ้างผู้เชี่ยวชาญมาช่วยจัดทำโปรไฟล์ให้ก็มี

“บางครั้งเมื่อผู้ชายเจอผู้หญิงที่โปรไฟล์ดีกว่า พวกเขาจะพูดล้อเล่นหรือดูถูกตัวเองเกี่ยวกับงานของพวกเขา เช่น ผู้ชายมักจะพูดว่า 'คุณฉลาดกว่าผม ผมเลยไม่สามารถออกไปเดทกับคุณได้' ซึ่งผู้ชายบางคนเป็นแบบนี้จริงๆ” อาจารย์นักมานุษยวิทยากล่าว

นอกจากนี้ อาจารย์อินฮอร์นยังพบด้วยว่า อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผู้หญิงยุคนี้นิยมไปฝากไข่มากขึ้น เนื่องมาจากพวกเธอมักเจอกับผู้ชายพวกที่ไม่อยากออกเดทกับผู้หญิงที่การงาน-การศึกษาดี หรือไม่ก็เจอแต่ผู้ชายที่รักสนุก ไม่เต็มใจที่จะผูกพันกับพวกเธออย่างลึกซึ้ง และไม่พร้อมสำหรับการเป็นพ่อคน บางคนเรียกผู้ชายกลุ่มนี้ว่า "ปีเตอร์ แพน" หรือผู้ชายที่ไม่รู้จักโต แม้พวกเขาจะมีการศึกษาดี ร่ำรวย มีฐานะทางสังคม แต่พวกเขาแค่อยากสนุกไปวันๆ ไม่ใช่คนที่จะเป็นคู่ชีวิตของใครได้ในช่วงวัย 40-50 ปี

ในอนาคตอาจารย์อินฮอร์นคาดการณ์ว่า การฝากไข่เพื่อการวางแผนชีวิตครอบครัวของผู้หญิง จะเพิ่มขึ้นในหมู่ผู้หญิงช่วงอายุ 20 กลางๆ ถึง 20 ปลายๆ แต่ปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ที่ไม่เท่าเทียมกับผู้ชายนั้น จะยังคงเป็นแรงผลักดันสำคัญให้ผู้หญิงเลือกฝากไข่มากขึ้น

-----------------------------------

อ้างอิง : TheGuardian