เปิด 10 ทักษะ สู่ ‘มนุษย์ทองคำ’ ให้คุณเป็นที่ต้องการในตลาดงาน 2024
ส่อง 10 ทักษะที่นายจ้างมองหาจาก “แรงงาน” ในปี 2024 ยุคที่ AI เข้ามามีบทบาทสูง ทำให้ทักษะด้านเทคโนโลยีเป็นสิ่งสำคัญ แต่ยังจำเป็นต้องมีซอฟต์สกิล ซึ่งเป็นสิ่งทำให้มนุษย์เหนือกว่าจักรกล
เราต่างรู้ดีว่าตอนนี้ “AI” เข้ามามีบทบาทในการทำงานมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ดูเหมือนว่า “แรงงาน” ส่วนใหญ่ยัง “ไม่พร้อม” ใช้ปัญญาประดิษฐ์เป็นตัวช่วยในทำงานมากเท่าใดนัก ซึ่งความไม่พร้อมนี้ มีสิทธิจะทำให้พนักงานโดน AI ที่มีความสามารถเพิ่มขึ้นอยู่ทุกวัน “แย่งงาน” ได้อย่างง่ายดาย
ดังนั้นทักษะที่แรงงาน “จำเป็นต้องมี” ในปี 2024 เพื่อเพิ่มคุณค่า คุณภาพและขีดความสามารถของมนุษย์งาน ซึ่งเป็นสิ่งที่นายจ้างกำลังตามหา ตามความเห็นของเบอร์นาร์ด มาร์ ที่ปรึกษาด้านประสิทธิภาพเชิงกลยุทธ์ และกูรูด้านการวิเคราะห์ KPI, AI และบิ๊กดาต้า มองว่าจำเป็นต้องเพิ่มทักษะทั้งด้านเทคโนโลยีและทักษะทางอารมณ์ ทั้งหมด 10 ทักษะ ดังนี้
1. ใช้ AI ให้เป็น
ปี 2023 ถือเป็นปีของ “Generative AI” หรือ “Gen-AI” เป็น AI ที่ถูกออกแบบมาให้สามารถทำตามคำสั่ง โดยสร้างสิ่งต่าง ๆ ทั้งภาพวาด งานเขียน จากชุดข้อมูลที่มีอยู่ เช่น โปรแกรมแชทบอต ChatGPT หรือ DALL-E ระบบวาดรูปตามคีย์เวิร์ด ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ ได้ง่ายเพียงปลายนิ้วในเวลาไม่นาน และนับวันยิ่งเพิ่มความสามารถให้มีความสมจริงมากขึ้น และใช้ง่ายขึ้น
หลายองค์กรเริ่มนำ Gen-AI เข้ามาช่วยให้พนักงานทำงานได้ง่ายยิ่งขึ้น ทั้งเป็นระบบข้อความอัตโนมัติ ลดขั้นตอนที่ยุ่งยาก และประหยัดเวลายิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามพนักงานและองค์กรจำเป็นต้องมีทักษะในการมองเห็นโอกาสเพื่อนำ Gen-AI เข้ามาพัฒนาการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ผ่านการบริหารจัดการความเปลี่ยนแปลง รวมถึงใช้ AI อย่างมีจรรยาบรรณ ไม่กระทบต่อผลงานอันมีลิขสิทธิ์ สิทธิบัตรของบุคคลอื่น
2. ความยั่งยืน
“ภาวะโลกรวน” เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก และทุกคนจำเป็นต้องแก้ไขปัญหานี้ร่วมกัน ธุรกิจต่าง ๆ จึงจำเป็นต้องตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม และหันมาให้ความสำคัญในการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด หลายบริษัทจึงใช้นโยบายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero เพื่อต้องการสร้างสมดุลให้กับสภาพภูมิอากาศของโลก ด้วยวิธีการ “จำกัด” และ “กำจัด” การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ พร้อมทำงานร่วมกับองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานของรัฐ
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่บริษัทต่าง ๆ จะต้องการผู้ที่มีทักษะและสามารถหาวิธีการขับเคลื่อนองค์กรให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสามารถทำไปใช้ได้จริง
3. การบริหารโครงการ
การบริหารโครงการ (Project Management) คือ การจัดการและใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ขององค์กร สำหรับดำเนินโครงการบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้เงื่อนไข 3 ประการ คือ เวลา งบประมาณ และ คุณภาพ
คนที่จะบริหารโครงการได้ดีจำเป็นต้องมีทักษะในการแก้ไขปัญหาภายใต้แรงกดดันได้ รวมถึงรู้จักดึงศักยภาพของแรงงานและเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด กำหนดวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ และจัดลำดับความสำคัญของงานและทรัพยากร
นอกจากนี้ผู้ที่ทำหน้าที่บริหารโครงการจำเป็นต้องมีความรู้เรื่อง AI ด้วย เพราะอาจจำเป็นต้องใช้ AI เป็นตัวช่วยในการร่างโครงการ การกำหนดเวลา การทดสอบ และการปฏิบัติตามข้อกำหนด ไปจนถึงการปฏิบัติงานจริง
4. ความสามารถในการสื่อสาร
การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของในการดำเนินธุรกิจ หากเกิดการสื่อสารผิดพลาด ไม่ว่าจะเป็นภายในองค์กรเอง หรือภายนอกองค์กรอาจส่งผลเสียร้ายแรงให้แก่องค์กรได้ ซึ่งในตอนนี้ตลาดงานกำลังมองหา ผู้ที่สามารถสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ ลดช่องว่างระหว่างวัยและเชื่อมพนักงานในแผนกต่าง ๆ ขององค์กรเข้าด้วยกัน มากกว่าเดิม
ตลอดจนผู้ที่สามารถแปลงข้อมูลเชิงลึกและการวิเคราะห์ข้อมูลออกมาให้ทุกคนสามารถเข้าใจได้ง่าย รวมถึงคนที่มีทักษะการป้อนคำสั่งและข้อมูลให้แก่เครื่องจักร โปรแกรม และ AI ให้ออกมามีผลลัพธ์ที่ดีที่สุดอีกด้วย
5. ความเชี่ยญชาญทักษะด้านสุขภาพและการแพทย์
แม้เทคโนโลยีจะก้าวหน้าขนาดไหน แต่ยังไม่สามารถมาทดแทนตำแหน่งบุคลากรทางการแพทย์ได้ และตำแหน่งนี้กำลังขาดแคลนทั่วโลกนับตั้งแต่ยุคโควิดเป็นต้นมา
แพทย์ พยาบาล บุคลากรณ์ทางแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพอื่น ๆ ยังคงเป็นที่ต้องการอยู่เสมอ เนื่องจากเป็นสาขาอาชีพต้องใช้ความเชี่ยวชาญในการดูแลรักษา การวินิจฉัยโรค หัตถการทางการแพทย์ ฯลฯ รวมถึงจำเป็นต้องมีความฉลาดทางอารมณ์ และความเห็นอกเห็นใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่เครื่องจักรและ AI ยังไม่สามารถเรียนรู้ได้
ในประเทศที่พัฒนาแล้ว ตำแหน่งทางการแพทย์มักจะได้ค่าแทนค่อนข้างดี ซึ่งสะท้อนถึงทักษะเฉพาะทาง คุณภาพ และประสบการณ์ที่จำเป็นในการทำงานเป็นอย่างดี
6. ใช้ข้อมูลให้เป็น
AI จะสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพ เมื่อมี “ข้อมูล” จำนวนมากสำหรับใช้ในการประมวลผล เช่นเดียวกับบริษัทจะประสบความสำเร็จได้ ก็ต้องมีข้อมูลเชิงลึก ได้จากข้อมูลที่ผ่านการรวบรวม และวิเคราะห์ ซึ่งจำเป็นต้องหานักวิทยาศาสตร์ข้อมูล ในการนำข้อมูลที่มีจำนวนมาก มาใช้ประโยชน์สำหรับวางแผนลงมือแก้ปัญหา
อีกทั้งนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลจะช่วยให้ AI ทำงานได้อย่างถูกต้อง เกิดความโปร่งใส อธิบายได้ มีจริยธรรม และสามารถเชื่อถือในการตัดสินใจของ AI ได้
7. สร้างคอนเน็กชัน
คนที่รู้จักผูกมิตรสร้างสัมพันธ์กับคนที่สร้างผลประโยชน์ให้แก่ตนเองได้ มักจะไปได้ไกลเสมอ เพราะการสร้างคอนเน็กชัน (ซึ่งบางทีอาจเรียกว่า “เส้นสาย”) สามารถช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายและช่วยเหลือในการพัฒนาตนเองได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยจำเป็นต้องสร้างความสัมพันธ์บนพื้นฐานของความไว้วางใจและมีเป้าหมายร่วมกัน
แน่นอนว่าบริษัทต่าง ๆ ย่อมต้องการคนที่มีคอนเน็กชัน หรือมีทักษะสร้างเครือข่ายได้มาร่วมงาน เพื่อจะได้หาช่องทางขยับขยาย สร้างธุรกิจให้เติบโตขึ้นได้ แม้ว่าจะอยู่ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากก็ตาม
8. ใช้ระบบคลาวด์เป็น
จากข้อมูลของ Fortune Business Insights บริษัทสำรวจตลาดและบริการให้คำปรึกษาแก่ธุรกิจระดับโลก พบว่า ในช่วงปี 2022-2023 คาดว่าตลาดคลาวด์ คอมพิวติงทั่วโลกจะเติบโตจาก 570,000 ล้านดอลลาร์เป็นเกือบ 2.5 ล้านล้านดอลลาร์
หมายความว่าบริษัททั่วโลกจะต้องการผู้ที่มีทักษะเกี่ยวข้องกับระบบคลาวด์ พร้อมใช้งานตามต้องการของทรัพยากรระบบคอมพิวเตอร์ สามารถช่วยโยกย้ายข้อมูลไปยังระบบคลาวด์ และจัดเก็บข้อมูลได้
ยิ่งผู้เชี่ยวชาญในเครื่องมือและแพลตฟอร์มของการประมวลผลแบบคลาวด์ในระดับหัวกะทิจะยิ่งต้องการตัวเป็นพิเศษและได้ค่าตอบแทนสูง
9. แมชชีน เลิร์นนิง
รายงานของ World Economic Forum ประจำปี 2023 ระบุว่า ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI และแมชชีน เลิร์นนิง เป็นตำแหน่งงานในอันดับต้น ๆ ที่จะเติบโตอย่างรวดเร็ว และถึงแม้ Gen-AI จะพัฒนาไปในปีที่ผ่านมา จนแม้แต่คนทั่วไปก็สามารถใช้งานได้ แต่วิศวกรรมแมชชีน เลิร์นนิง ผู้ทำหน้าที่พัฒนาระบบ วางแผนโปรแกรม เขียนโค้ด และเขียนโปรแกรม ยังคงเป็นงานที่มีความต้องการสูงอยู่ดี
10. ความปลอดภัยทางไซเบอร์
ปี 2023 เราเห็นข่าวการโจรกรรมข้อมูล การโจมตีทางไซเบอร์ ความพยายามในการแฮ็กข้อมูล ตลอดจนข้อมูลของลูกค้ารั่วไหล เกิดขึ้นบ่อยครั้งและทวีความรุนแรงขึ้นอยู่เสมอ
องค์กรต่าง ๆ จึงต้องให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ที่เปรียบเสมือนการสร้างเกราะป้องกันให้แก่องค์กรของตนเอง ซึ่งต้องคอยอัปเดตและหาวิธีการรับมือต่อกรกับเหล่าอาชญากรที่ก็พัฒนาเทคโนโลยีการก่อการร้ายทางไซเบอร์อยู่ตลอดเช่นกัน ดังนั้นทักษะด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ จึงเป็นอีกหนึ่งสายงานที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในปี 2024
ที่มา: Forbes