‘Lewis Hamilton’ แชมป์ 7 สมัยสนาม F1 ผู้ถูกเลือกให้ร่วมแคมเปญ Rimowa กับ ‘Rosé’
กลายเป็นไวรัลในโลกโซเชียลสำหรับ “ลูอิส แฮมิลตัน” เจ้าของแชมป์โลก 7 สมัยจากสนาม “F1” หลังมีภาพร่วมงานกับ “โรเซ่ แบล็กพิงก์” ในแคมเปญจากกระเป๋าเดินทางแบรนด์ดัง “Rimowa” จนหลายคนอยากทำความรู้จัก
ชื่อของ ลูอิส แฮมิลตัน (Lewis Hamilton) กำลังเป็นที่พูดถึงเป็นอย่างมากในโซเชียลมีเดียหลายแพลตฟอร์ม หลังปรากฏภาพเขาถ่ายคู่กับ “โรเซ่” หรือ Rosé BLACKPINK ลงบนอินสตาแกรมส่วนตัวของเขาระหว่างการโปรโมตแคมเปญ Never Still ของแบรนด์กระเป๋าเดินทาง “RIMOWA” จนกลายเป็นที่ฮือฮาภายในไม่กี่ชั่วโมง เพราะโรเซ่เองก็โพสต์ภาพเดียวกันลงในอิสตาแกรมส่วนตัวของเธอเช่นกัน
ลูอิส แฮมิลตัน และ โรเซ่ แบล็กพิงก์ (IG : lewishamilton)
บางคนอาจจะไม่คุ้นชื่อของลูอิสมากนัก แต่สำหรับผู้ที่มีความสนใจหรืออยู่ในแวดวงการแข่งขัน รถสูตรหนึ่ง หรือ ฟอร์มูลาวัน ที่เรียกกันย่อๆ ว่า “F1” จะต้องรู้จักเขาอย่างแน่อนอน เพราะเขาเป็นแชมป์ FIA Formula One World Championship ถึง 7 สมัย ทำผลงานได้เทียบเท่ากับ มิชาเอล ชูมัคเกอร์ (Michael Schumacher) นักแข่งชาวเยอรมันซึ่งเป็นตำนานที่หาใครมาล้มล้างไม่ได้ จนลูอิสคว้าแชมป์สมัยที่ 7 ได้ในปี 2020
“ลูอิส แฮมิลตัน” เจ้าของแชมป์ 7 สมัย แห่งสนาม “ฟอร์มูลาวัน”
เส้นทางสู่สนาม F1 ของลูอิสเริ่มต้นขึ้นในปี 1995 โดยเขาคว้าแชมป์การแข่งโกคาร์ทมาได้เมื่อตอนอายุ 10 ขวบ หลังจากนั้นเขาเดินเข้าไปหา รอน เดนนิส (Ron Dennis) หัวหน้าทีมแมคลาเรน (McLaren)ในพิธีมอบรางวัล พร้อมแนะนำตัวว่า “สวัสดี คุณเดนนิส ผมชื่อลูอิส แฮมิลตัน ผมคว้าแชมป์อังกฤษได้ และวันหนึ่งผมอยากลงแข่งให้ทีมของคุณ” ก่อนจะขอลายเซ็นและเบอร์โทรศัพท์ของรอนไว้ในหนังสือที่เขาเตรียมไป ที่สำคัญนอกจากรอนจะมอบลายเซ็นและเบอร์โทรให้แล้ว เขายังเขียนข้อความเอาไว้ด้วยว่า “โทรหาฉันในอีก 9 ปี”
แต่ผ่านไปแค่เพียง 3 ปี กลับกลายเป็นครอบครัวแฮมิลตันที่ได้รับโทรศัพท์จากรอน โดยเขาเสนอว่าจะสนับสนุนทั้งเรื่องเงินและการก้าวขึ้นไปเป็นนักแข่งรถมืออาชีพของลูอิสในอนาคตอันใกล้ แต่ก็มีเงื่อนไขว่าลูอิสจะยังต้องตั้งใจเรียนต่อไป และแน่นอนว่าหลังจากนั้นลูอิสก็ต้องเผชิญกับแรงกดดันอย่างหนักในการพิสูจน์ตัวเองอย่างต่อเนื่องท่ามกลางความคาดหวังมากมายว่าเขาคู่ควรกับรับเงินที่ได้รับการสนับสนุน
หลังจากนั้นเขาก็สามารถคว้าแชมป์การแข่งรถโกคาร์ทได้ถึง 8 รายการในรอบ 6 ปี และยังได้รับชัยชนะจากรายการที่มีชื่อเสียงที่สุดอย่าง GP2 Championship อีกด้วย ต่อมาในปี 2006 จากการออกสตาร์ททั้งหมด 21 ครั้ง ก็ได้รับชัยชนะถึง 5 ครั้ง จะเรียกว่าลูอิสในตอนนั้นเป็นดาวรุ่งรุ่นเยาว์ของอังกฤษในวงการนี้ก็ว่าได้ ทำให้แมคลาเรนตัดสินใจเลื่อนตำแหน่งเขาสู่ทีม “ฟอร์มูลาวัน”
ต่อมาในปี 2007 ลูอิสก็ได้เข้าร่วมการแข่งขัน F1 อย่างเป็นทางการ และทำผลงานได้เหนือกว่าผู้ร่วมทีมที่มีฉายาว่าเทพแห่ง F1 อย่าง เฟร์นานโด อลอนโซ่ (Fernando Alonso) อย่างต่อเนื่อง สามารถชนะการแข่งขันได้ถึง 4 ครั้ง และพ่ายแพ้ให้กับทีมของ Ferrari เพียงแต้มเดียวเท่านั้นในการแข่งรอบสุดท้าย แต่ด้วยความสามารถทำให้เขากลายเป็นนักแข่งอนาคตไกลที่ยังมีอายุน้อย
ลูอิส แฮมิลตัน ในปี 2007
เมื่อเข้าสู่ปี 2008 ผลงานของลูอิสก็เริ่มโดดเด่นมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะบนสนามแข่ง Interlagos ที่ขึ้นชื่อเรื่องความคดเคี้ยวและยังมีฝนตกลงมาระหว่างการแข่ง ทำให้เป็นการแข่งขันที่น่าตื่นเต้นลุ้นระทึกที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ ลูอิสสามารถเอาชนะเจ้าถิ่นอย่าง เฟลิเป้ มาสซ่า (Felipe Massa) ไปได้โดยทิ้งห่างไปเพียง 300 เมตรเท่านั้น และชัยชนะครั้งนั้นทำให้เขาคว้าแชมป์แรกในชีวิตมาได้ด้วยวัยเพียง 23 ปี และยังเป็นแชมป์โลกอายุน้อยที่สุดอีกด้วย
ในฤดูกาลต่อๆ มาเขาก็ยังคงทำผลงานได้ดีเสมอ แม้จะมีช่วงที่ต้องเจอกับปัญหาส่วนตัวบ้าง หลังจากนั้นลูอิสก็ได้ประกาศออกจากทีม แมคลาเรน เข้าไปร่วมทีม Mercedes ในปี 2013 และเขาก็ยังสามารถสร้างผลงานได้อย่างต่อเนื่อง
หลังจากเข้าสู่วงการแข่ง F1 มืออาชีพ ลูอิสสามารถคว้าแชมป์ได้รวมทั้งหมด 7 สมัย ได้แก่ 2008, 2014, 2015, 2017, 2018, 2019 และ 2020
ไม่ใช่แค่แข่งรถ แต่ยังโดดเด่นในแวดวง “แฟชั่น” และได้รับตำแหน่ง “ท่านเซอร์”
ด้วยความสามารถอันโดดเด่นของลูอิสทำให้ในปี 2021 ลูอิสในวัย 36 ปี เจ้าของแชมป์โลก 7 สมัย ผู้สร้างผลงานอันยอดเยี่ยมบนเส้นทางการแข่งขันในฐานะมืออาชีพ ได้รับการเสนอชื่อให้เข้ารับพระราชทานยศอัศวินเป็น “ท่านเซอร์” จากเจ้าฟ้าชายชาร์ล (พระยศในขณะนั้น) ณ พระราชวังวินด์เซอร์ เรียกได้ว่าลูอินเป็นนักแข่งรถที่ได้รับยศอัศวินเป็นคนที่ 4 ตามรอยรุ่นพี่ที่เป็นนักแข่งระดับตำนาน ได้แก่ เซอร์ สเตอร์ลิง มอสส์ (Sir Stirling Moss), เซอร์ แจ๊คกี สจวร์ต (Sir Jackie Stewart) และ เซอร์ แจ๊ค บรับแฮม (Sir John Arthur Brabham)
ลูอิส แฮมิลตัน ขณะเข้ารับพระราชทานยศอัศวิน (telegraph)
นอกจากเรื่องของการแข่งขันแล้วลูอิสก็ได้รับการยอมรับจากแวดวงแฟชั่นด้วยเช่นกัน ทำให้แบรนด์ระดับโลก “TOMMY HILFIGER” เลือกให้เข้ามารับตำแหน่ง Global Brand Ambassador และได้ร่วมสร้างคอลเลกชัน TommyXLewis ถึง 4 คอลเลกชัน โดยเป็นการหลอมรวมสไตล์ที่ลูอิสชื่นชอบให้เข้ากับความเป็นอเมริกันของแบรนด์
ไม่ใช่แค่นั้นด้วยความที่ลูอิสต้องการต่อยอดความชื่นชอบด้านแฟชั่น เขายังดำรงตำแหน่งทูตเสื้อผ้าบุรุษของ British Fashion Council อีกด้วย โดยเขาจะมีส่วนร่วมในการดูแล สนับสนุน และให้คำแนะนำในประเด็นสำคัญที่อุตสาหกรรมการออกแบบของอังกฤษกำลังเผชิญอยู่
นอกจากนี้เขายังกลายเป็นคนที่ได้รับเชิญให้นั่งแถวหน้าในงานแฟชั่นโชว์ชั้นนำของโลกและร่วมงานที่เกี่ยวกับแฟชั่นอีกมากมาย เช่น The Fashion Awards, The Met Gala และ CFDA Fashion Awards โดยลูอิสยังปรากฏตัวบนปกนิตยสารชั้นนำอย่าง Esquire, L'Officiel, Vogue, ICON และ Men's Health ที่สำคัญเขายังได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน “Fashionable 50 Icons” ของ Sports Illustrated ในปี 2019 อีกด้วย
และที่เรียกเสียงฮือฮาล่าสุดก็คือการปรากฏตัวในการโปรโมตแคมเปญ Never Still ของแบรนด์กระเป๋าเดินทางชื่อดัง “RIMOWA” พร้อมกับเซเลบริตีชื่อดังหลากหลายวงการ และหนึ่งในนั้นก็คือ “โรเซ่” ที่ทำให้ภาพคู่ของทั้งคู่กลายเป็นไวรัลบนโลกอินเตอร์เน็ตอย่างรวดเร็ว จนทำให้ใครหลายคนที่ได้เห็นก็อยากจะทำความรู้จักกับ “ลูอิส แฮมิลตัน” กันมากขึ้น
หลังจากนี้ก็เป็นเรื่องที่น่าติดตามกันต่อไปว่าลูอิสจะสามารถคว้าแชมป์สมัยที่ 8 จนก้าวขึ้นสู่อันดับหนึ่งของทำเนียบแชมป์ได้หรือไม่ และจะมีผลงานอะไรจากฝั่งแฟชั่นมาให้ได้ติดตามกันอีก
อ้างอิงข้อมูล Racefans, Formula1, Tommy newsroom และ Rimowa