เปิดประวัติ 'วันพืชมงคล 2567' คำทำนายเสี่ยงทายพระโค พยากรณ์ความอุดมสมบูรณ์
เปิดประวัติ "วันพืชมงคล 2567" 10 พฤษภาคม 2567 พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ประเพณีโบราณ เสริมสร้างขวัญและกำลังใจแก่เกษตรกรของชาติ คำทำนายเสี่ยงทาย ความหมายคำทำนายพระโคเสี่ยงทายของกิน 7 สิ่ง เสี่ยงทายผ้านุ่งแต่งกาย พยากรณ์ความสมบูรณ์ของพืชพันธุ์ธัญญาหาร
ประเพณีโบราณที่ชาวไทยควรรู้ เปิดประวัติ "วันพืชมงคล 2567" 10 พฤษภาคม 2567 พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ เสริมสร้างขวัญและกำลังใจแก่เกษตรกรของชาติ คำทำนายเสี่ยงทาย ความหมายคำทำนายพระโคเสี่ยงทายของกิน 7 สิ่ง เสี่ยงทายผ้านุ่งแต่งกาย พยากรณ์ความสมบูรณ์ของพืชพันธุ์ธัญญาหาร
วันพืชมงคล 2567
เป็นพระราชพิธีเสริมสร้างขวัญและกำลังใจแก่เกษตรกรของชาติ ระลึกถึงความสำคัญของเกษตรกร โดยประกอบด้วย 2 พิธีกรรมที่ทำร่วมกัน คือ
- พิธีพืชมงคล เป็นพิธีทำขวัญเมล็ดพืชต่าง ๆ เพื่อให้เมล็ดพันธุ์ปราศจากโรคภัยและให้อุดมสมบูรณ์เจริญงอกงาม
- พิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ เป็นพิธีเริ่มต้นการไถนาเพื่อหว่านเมล็ดข้าว เพื่อให้เป็นสัญญาณว่า ฤดูกาลแห่งการทำนาและเพาะปลูกได้เริ่มขึ้นแล้ว
ซึ่งในปีนี้ พ.ศ. 2567 วันพืชมงคล หรือ วันพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ตรงกับวันศุกร์ ที่ 10 พฤษภาคม 2567 โดยแต่ละปีจะไม่ตรงกัน เนื่องจากสำนักพระราชวังเป็นผู้กำหนดวันตามฤกษ์ยาม“ปฏิทินหลวง” เป็นระยะเวลาเหมาะสมแก่การเริ่มต้นการทำนาของปีนั้น ๆ
ประวัติพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ
พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญเป็นพระราชพิธี 2 พิธีรวมกัน คือ
- พระราชพิธีพืชมงคล อันเป็นพิธีสงฆ์ อย่างหนึ่ง ซึ่งจะประกอบพระราชพิธีวันแรกในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
- พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ อันเป็นพิธีพราหมณ์ อย่างหนึ่ง ซึ่งจะประกอบพระราชพิธีในวันรุ่งขึ้น ณ มณฑลพิธีสนามหลวง
พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญมีมาแต่โบราณตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย
พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญเป็นพระราชพิธีที่มีมาแต่โบราณตั้งแต่ครั้งกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี ซึ่งในสมัยกรุงสุโขทัยนั้น พระมหากษัตริย์ไม่ได้ลงมือไถนาเอง เป็นแต่เพียงเสด็จไปเป็นองค์ประธานในพระราชพิธีเท่านั้น
ครั้งถึงสมัยกรุงศรีอยุธยา พระมหากษัตริย์ ไม่ได้เสด็จไปเป็นองค์ประธาน เหมือนกับสมัยกรุงสุโขทัย และจะทรงจำศีลเงียบ 3 วัน แต่จะมอบอาญาสิทธิ์ให้ เจ้าพระยาจันทกุมาร เป็นผู้แทนพระองค์ โดยทรงทำเหมือนอย่างออกอำนาจจากกษัตริย์ ซึ่งวิธีนี้ได้ใช้ตลอดมาถึงปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา
สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ได้มีการประกอบพระราชพิธีนี้มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 แต่ผู้ทำการแรกนาเปลี่ยนเป็นเจ้าพระยาพลเทพ คู่กันกับการยืนชิงช้า แต่พอถึงรัชกาลที่ 3 ให้ถือว่าผู้ใดยืนชิงช้าผู้นั้นเป็นผู้แรกนา
ในสมัยรัชกาลที่ 4 ได้ทรงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดมีพิธีสงฆ์เพิ่มขึ้นในพระราชพิธีต่างๆ ทุกพิธี ดังนั้น พระราชพิธีพืชมงคล จึงได้เริ่มมีขึ้น แต่บัดนั้นมา โดยได้จัดรวมกับพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ และมีชื่อเรียกรวมกันว่า พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ
จุดมุ่งหมายความสำคัญพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ
ความมุ่งหมายอันเป็นมูลเหตุให้เกิดมีพระราชพิธีนี้ขึ้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระบรมราชาธิบายไว้ในพระราชนิพนธ์เรื่อง พระราชพิธีสิบสองเดือน ว่า
"การแรกนาที่ต้องเป็นธุระของผู้ซึ่งเป็นใหญ่ในแผ่นดินเป็นธรรมเนียมนิยม มีมาแต่โบราณ เช่น ในเมืองจีนสี่พันปีล่วงมาแล้ว พระเจ้าแผ่นดินก็ลงทรงไถนาเองเป็นคราวแรก พระมเหสี เลี้ยงตัวไหม
ส่วนจดหมายเรื่องราวอันใดในประเทศสยามนี้ ที่มีปรากฏอยู่ในการแรกนานี้ ก็มีอยู่เสมอเป็นนิตย์ ไม่มีเวลาว่างเว้น ด้วยการซึ่งผู้นั้นเป็นใหญ่ในแผ่นดินลงมือทำเองเช่นนี้ ก็เพื่อจะให้เป็นตัวอย่างแก่ราษฎรชักนำให้มีใจหมั่นในการที่จะทำนา
เพราะเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะได้อาศัยเลี้ยงชีวิตทั่วหน้า เป็นต้นเหตุของความตั้งมั่นและความเจริญไพบูลย์ แห่งพระนครทั้งปวง แต่การซึ่งมีพิธีเจือปนต่างๆ ไม่เป็นแต่ลงมือไถนาเป็นตัวอย่าง เหมือนอย่างชาวนาทั้งปวงลงมือไถนาของตนตามปกติ ก็ด้วยความหวาดหวั่นต่ออันตราย คือ น้ำฝนน้ำท่ามากไปน้อยไป ด้วงเพลี้ยและสัตว์ต่างๆ จะบังเกิดเป็นเหตุอันตราย ไม่ให้ได้ประโยชน์เต็มภาคภูมิ และมีความปรารถนาที่จะให้ได้ประโยชน์เต็มภาคภูมิเป็นกำลัง
จึงต้องหาทางที่จะแก้ไขและหาทางที่จะอุดหนุนและที่จะเสี่ยงทายให้รู้ล่วงหน้า จะได้เป็นที่มั่นอกมั่นใจโดยอาศัยคำอธิษฐานเอาความสัตย์เป็นที่ตั้งบ้าง ทำการซึ่งไม่มีโทษ นับว่าเป็นการสวัสดิมงคลตามซึ่งมาในพระพุทธศาสนาบ้าง บูชาเซ่นสรวงตามที่มาทางไสยศาสตร์บ้าง ให้เป็นการช่วยแรงและเป็นที่มั่นใจตามความปรารถนาของมนุษย์ซึ่งคิดไม่มีที่สิ้นสุด"
การเสี่ยงทายในพระราชพิธี
ในพระราชพิธีฯ แต่ละปีจะมีการ พยากรณ์ ความสมบูรณ์ของพืชพันธุ์ธัญญาหารของปีนั้น ๆ 2 ช่วง
ช่วงที่ 1
- พระยาแรกนาจะตั้งสัตยาธิษฐาน เสี่ยงทายผ้านุ่งแต่งกาย แล้วไปไถหว่าน ด้วยการไถดะไปโดยรี 3 รอบ เพื่อพลิกดินให้เป็นก้อน
- ไถโดยขวาง 3 รอบ เพื่อย่อยดินให้ละเอียด พร้อมหว่านเมล็ดพันธุ์พืช
- ไถกลบอีก 3 รอบ เพื่อกลบเมล็ดพันธุ์พืชลงในดิน เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนการไถแล้ว
ช่วงที่ 2
- เป็นการ เสี่ยงทายของกิน 7 สิ่งตั้งเลี้ยงพระโค
คำทำนายพระโคการเสี่ยงทายของกิน 7 สิ่ง
ของกิน 7 สิ่ง ที่นำมาตั้งเลี้ยงพระโค ได้แก่ ข้าวเปลือก, ข้าวโพด, ถั่วเขียว, งา, เหล้า, น้ำ, หญ้า ถ้าพระโคกินสิ่งใดก็มีคำทำนายไปตามนั้น
- ถ้าพระโคกินข้าว หรือ ข้าวโพด พยากรณ์ว่า ธัญญาหาร ผลาหาร จะบริบูรณ์ดี
- ถ้าพระโคกินถั่ว หรือ งา พยากรณ์ว่า ผลาหาร ภักษาหาร จะอุดมสมบูรณ์ดี
- ถ้าพระโคกินน้ำ หรือ หญ้า พยากรณ์ว่า น้ำท่าจะบริบูรณ์พอสมควร ธัญญาหาร ผลาหารภักษาหาร มังสาหารจะอุดมสมบูรณ์
- ถ้าพระโคกินเหล้า พยากรณ์ว่า การคมนาคมจะสะดวกขึ้น การค้าขาย กับต่างประเทศดีขึ้น ทำให้เศรษฐกิจรุ่งเรือง
คำทำนายการเสี่ยงทายผ้านุ่งแต่งกาย
ผ้านุ่งแต่งกาย เป็นผ้านุ่ง วางไว้ให้พระยาแรกนาตั้งสัตยาธิษฐาน เป็นผ้าลาย 3 ผืน คือ หกคืบ, ห้าคืบ, สี่คืบ วางเรียงบนโตกมีผ้าคลุม ให้พระยาแรกนาหยิบ ถ้าหยิบได้ผืนใดก็จะมีคำทำนายไปตามนั้น คือ
- ถ้าหยิบผ้าได้ 4 คืบ พยากรณ์ว่า น้ำจะมากสักหน่อย นาในที่ดอนจะได้ผลบริบูรณ์ดี นาในที่ลุ่มอาจจะเสียหายบ้าง ได้ผลไม่เต็มที่
- ถ้าหยิบได้ผ้า 5 คืบ พยากรณ์ว่า น้ำในปีนี้จะมีปริมาณพอดี ข้าวกล้าในนาจะได้ผลบริบูรณ์ และผลาหาร มังสาหาร จะอุดมสมบูรณ์ดี
- ถ้าหยิบได้ผ้า 6 คืบ พยากรณ์ว่า น้ำจะน้อย นาในที่ลุ่มจะได้ผลบริบูรณ์ดี แต่นาในที่ดอน จะเสียหายบ้าง ได้ผลไม่เต็มที่
ทั้งนี้ในทุกปี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะเป็นเจ้าภาพจัดงานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ เพื่อเป็นตัวอย่างแก่ราษฎรในการทำนา เป็นสิริมงคลและบำรุงขวัญแก่เกษตรกร
ช่องทางรับชมถ่ายทอดสดพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ประจำปี 2567
พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ 2567 ประชาชนสามารถร่วมรับชมถ่ายทอดสด พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ประจำปี 2567 และติดตามผลการเสี่ยงทายได้ ในวันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป
ผ่านทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย (คลิก)