Inside Out 2 สะท้อนอารมณ์หลากหลายของวัยรุ่น แม้แต่อารมณ์เชิงลบก็มีข้อดี

Inside Out 2 สะท้อนอารมณ์หลากหลายของวัยรุ่น แม้แต่อารมณ์เชิงลบก็มีข้อดี

"Inside Out 2" อารมณ์หลากหลายที่เพิ่มเข้ามาเมื่อก้าวสู่ "วัยรุ่น" เปิดข้อดี-ข้อเสีย ของอารมณ์ต่างๆ นักวิชาการชี้ เด็กจะจัดการอารมณ์ได้ดีขึ้นเมื่อผู้ปกครองเข้ามาสนับสนุนให้รู้วิธีการรับมือที่เหมาะสม

KEY

POINTS

  • Inside Out 2” ภาพยนตร์ที่สะท้อนถึงพัฒนาการทางอารมณ์และจิตใจของเด็กหญิงที่ก้าวสู่ช่วงวัยรุ่น พร้อมอารมณ์ใหม่ๆ หลากหลายอารมณ์ 
  • นักวิชาการชี้ พ่อแม่ควรเข้ามาสนับสนุนด้านอารมณ์ให้เด็ก เพื่อที่พวกเขาจะได้รับมือกับอารมณ์ต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม 
  • อารมณ์เชิงลบที่เกิดขึ้นกับเราไม่ได้แย่เสมอไป หากมีในระดับพอดีและจัดการอย่างเหมาะสมก็มีประโยชน์และมีข้อดีเช่นกัน 

Inside Out 2” ภาพยนตร์ที่กำลังเป็นกระแสมาแรง สะท้อนถึงแง่มุมของพัฒนาการทางอารมณ์และจิตใจของเด็กหญิงคนหนึ่ง ที่กำลังก้าวเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นไว้อย่างน่าสนใจ โดยในภาคสองนี้มาพร้อมกับคาแรกเตอร์อารมณ์ใหม่ๆ ที่หลากหลายมากขึ้น และยังมีบางช่วงบางตอนที่ชี้ให้เห็นว่า แม้แต่อารมณ์เชิงลบก็มีประโยชน์ต่อตัวละครหลักของเรื่องอย่าง “ไรลีย์”

หนังภาคต่อเรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการเริ่มสร้างตัวตนใหม่ของไรลีย์ในช่วงวัยรุ่น ที่แตกต่างไปจากเมื่อครั้งที่เธอยังเป็นเด็กหญิงในภาคแรก โดยในภาคนี้ได้เธอได้พบกับประสบการณ์ใหม่เข้ามาในชีวิตเธอมากขึ้นไปอีกสเต็ป ส่งผลให้มีอารมณ์ใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาในศูนย์บัญชาการในสมองของไรลีย์ ได้แก่ ว้าวุ่น (ANXIETY), อิจฉา (ENVY), เขิ้นเขินอ๊ายอาย (EMBARRASSMENT), เฉยชิล (ENNUI) ซึ่งช่วงแรกเธอก็ยังรับมือกับบางอารมณ์ได้ไม่ดีนัก แต่ในท้ายที่สุดเธอก็เรียนรู้และรับมือกับมันได้ในทางที่เหมาะสม

Inside Out 2 สะท้อนอารมณ์หลากหลายของวัยรุ่น แม้แต่อารมณ์เชิงลบก็มีข้อดี

อารมณ์ต่างๆ ของคนเรา คืออะไร ? 

ข้อมูลจากเว็บไซต์อูก้า (OOCA) เครือข่ายการให้บริการด้านสุขภาพจิตในไทย อธิบายไว้ว่า อารมณ์ หมายถึง ภาวะที่เกิดขึ้นช่วงสั้นๆ ชั่วคราว เพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นพัฒนาการตามธรรมชาติของการเติบโต ช่วยให้คนเราปรับตัวได้ตามสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป

ทั้งยังเป็นแรงจูงใจอย่างหนึ่งที่ทำให้เกิดเป็นพฤติกรรมต่างๆ โดยอารมณ์ที่เป็นพื้นฐานของมนุษย์มีทั้งอารมณ์เชิงบวกและอารมณ์เชิงลบ ซึ่งทุกอารมณ์จะพัฒนาขึ้นตามวัย ตามประสบการณ์ของคนเรา และการจัดการอารมณ์ให้ได้อย่างเหมาะสมถือเป็นทักษะสำคัญอย่างหนึ่งในชีวิต

นอกจากนี้ หากลองหยิบประเด็นเรื่อง “การจัดการอารมณ์” จากในหนังมาเทียบกับชีวิตจริงจะพบว่า ไม่ใช่เด็กทุกคนที่จะรับมือกับสภาวะอารมณ์ต่างๆ ได้อย่างเหมาะสมเสมอไป หลายครั้งพ่อแม่หรือครูต้องเผชิญกับปัญหาว่าลูกหรือเด็กในความดูแลแสดงออกทางอารมณ์ที่เข้มข้น (ทั้งอารมณ์เชิงบวกและอารมณ์เชิงลบ) เช่น งอแง ร้องไห้โวยวาย อาละวาด การกระโดดโลดเต้น วิ่งไปมา ตะโกนชอบใจ ฯลฯ จนบางครั้งก็เอาไม่อยู่ 

Inside Out 2 สะท้อนอารมณ์หลากหลายของวัยรุ่น แม้แต่อารมณ์เชิงลบก็มีข้อดี

นักวิชาการด้านจิตวิทยา เผย การสนับสนุนทางอารมณ์ให้เด็กเป็นสิ่งสำคัญ

อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมเหล่านี้สามารถปรับปรุงได้ด้วย “การสนับสนุนทางอารมณ์” จากพ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือครูผู้ดูแล ซึ่งอาจารย์อาภาพร อุษณรัศมี ภาควิชาจิตวิทยาพัฒนาการ คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ในบทความวิชาการไว้ว่า การสนับสนุนทางอารมณ์ คือการที่ผู้ใหญ่เข้าไปช่วยให้เด็กรับรู้อารมณ์ของตนว่า กำลังมีอารมณ์อะไรอยู่ และทำให้เด็กเท่าทันอารมณ์ ควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น และจะทำให้เด็กเริ่มรับฟังเหตุผลมากขึ้นตามลำดับ

ก่อนที่เด็กจะจัดการกับอารมณ์ของตัวเองได้ เด็กต้องรู้ก่อนว่าในตอนนั้นตนเองมีอารมณ์อย่างไร (หลายครั้งเด็กยังไม่รู้ว่าตัวเองมีอารมณ์ไหนกันแน่) เช่น ดีใจ เสียใจ โกรธ พอใจ ดังนั้นผู้ใหญ่จึงจำเป็นต้องเข้ามามีบทบาทในการสนับสนุนและถามไถ่เพื่อให้เด็กตระหนักว่าตัวเองกำลังมีอารมณ์อย่างไรอยู่ ทำให้เกิดการทบทวนอารมณ์ของตัวเด็กเอง ไปพร้อมๆ กับการสื่อสารให้ผู้ใหญ่เข้าใจตรงกัน เมื่อเด็กรู้ถึงอารมณ์ของตัวเองแล้ว อารมณ์ที่พลุ่งพล่านอยู่ก็จะค่อยๆ สงบลง เปิดโอกาสให้ผู้ใหญ่เริ่มใช้เหตุผลกับเด็กๆ ได้มากขึ้น

ในระยะยาวเด็กจะเข้าใจอารมณ์ที่เกิดขึ้นของตัวเองได้เร็วขึ้น ตระหนักรู้อารมณ์แต่ละรูปแบบ นำไปสู่พฤติกรรมการตอบสนองที่เหมาะสมกว่าเดิม เช่น โกรธก็บอกกับอีกฝ่ายดีๆ ว่ากำลังโกรธ หรือนับเลขเพื่อให้อารมณ์ของตนเองเย็นลงก่อนจะพูดคุยกันใหม่ ฯลฯ การที่เด็กตอบสนองอย่างเหมาะสม จะช่วยให้เด็กสามารถสร้างความสัมพันธ์ในสังคมได้ดีกว่า เข้าหาเพื่อนได้ง่ายกว่าอีกด้วย

Inside Out 2 สะท้อนอารมณ์หลากหลายของวัยรุ่น แม้แต่อารมณ์เชิงลบก็มีข้อดี

เปิดข้อดี-ข้อเสีย ของอารมณ์ต่างๆ ผ่านคาแรกเตอร์ Inside Out ทั้งสองภาค

ตัดกลับมาที่คาแรกเตอร์อารมณ์ต่างๆ ในภาพยนตร์ “Inside Out 2” เนื้อหาในภาพยนตร์สื่อให้เห็นว่า ตัวละครหลัก ไรลีย์ ที่ก้าวสู่วัยรุ่นนั้นมีอารมณ์เชิงลบเกิดขึ้น แต่บางครั้งอารมณ์เหล่านั้นกลับมีประโยชน์ต่อไรลีย์อย่างไม่น่าเชื่อ ทุกอารมณ์จึงมีข้อดีในตัวเอง ซึ่งต้องการการจัดการอารมณ์ที่เหมาะสม กรุงเทพธุรกิจ ได้รวบรวมข้อดี-ข้อเสีย ของอารมณ์เชิงลบต่างๆ จากคาแรกเตอร์ใน Inside Out จากทั้งสองภาคมาให้ทราบกัน ดังนี้

ว้าวุ่น (ANXIETY) 

เป็นความรู้สึกวิตกกังวล ประหม่า รู้สึกปั่นป่วนในท้อง เหงื่อออก ตัวสั่น หายใจเร็วและตื้นขึ้น เกิดความเครียด อยากจะถอยกลับหรือหาทางหนี 
ข้อดี: การมีภาวะความวิตกกังวลในระดับพอดี จะช่วยให้คนเราตื่นตัว พร้อมรับมือกับสถานการณ์ ตื่นเต้นกับชีวิต มีแรงบันดาลใจ และทำงานได้ดีขึ้น 
ข้อเสีย: หากมีมากไปหรือจัดการอารมณ์ไม่ได้ จะทำให้เกิดความเครียดสูง เสียสมาธิ ไม่สบายกายใจ เกิดความคิดเชิงลบ เชื่อมโยงกับความกลัว

อิจฉา (ENVY)

เกิดขึ้นเมื่อเรารับรู้ว่าอีกฝ่ายหนึ่งมีข้อได้เปรียบ ทั้งในแง่ของความสำเร็จ การครอบครอง หรือคุณสมบัติที่เราอยากมีแต่เรากลับขาดไป
ข้อดี: เป็นตัวควบคุมทางสังคม กระตุ้นให้มีจุดยืน กระตือรือร้น มีแรงจูงใจ มุ่งมั่นพัฒนาตนเอง
ข้อเสีย: อาจเป็นอารมณ์ที่ทำลายล้างทั้งทางร่างกายและจิตใจ ไม่เป็นมิตร ไม่พอใจ โกรธ ฉุนเฉียว ไม่ซาบซึ้งกับคุณลักษณะและสถานการณ์เชิงบวกของตนเอง เชื่อมโยงกับภาวะซึมเศร้า

เขิ้นเขินอ๊ายอาย (EMBARRASSMENT)

เป็นสภาวะทางอารมณ์ที่เจ็บปวดแต่ก็สำคัญ รู้สึกแย่เกี่ยวกับความผิดพลาดทางสังคมหรือเรื่องส่วนตัวของตน มีอาการหน้าแดง เหงื่อออก พูดตะกุกตะกัก 
ข้อดี: ช่วยซ่อมแซมความสัมพันธ์ทางสังคม กระตุ้นลักษณะนิสัยเชิงบวก กล้าเข้าสังคม มีน้ำใจ ใจดีและใจกว้าง 
ข้อเสีย: เกิดความรู้สึกผิดอย่างลึกซึ้ง คิดว่าตนเองล้มเหลว อาจตัดสินใจได้ไม่ดีเท่าที่ควร หลีกเลี่ยงสังคม

เศร้าซึม (SADNESS)

เป็นอารมณ์ที่โต้ตอบตามปกติต่อสถานการณ์ที่ทำให้อารมณ์เสีย ผิดหวัง เสียใจ สิ้นหวัง ไม่มีความสุข ส่งผลให้สีหน้าหม่นหมอง เคลื่อนไหวช้าลง ร้องไห้ แต่จะดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปสักครู่
ข้อดี: ทำหน้าที่เป็นเครื่องเตือนใจ เพิ่มความระมัดระวังให้ตนเอง หลังร้องไห้ช่วยให้ผ่อนคลายจิตใจ
ข้อเสีย: หากเกิดขึ้นบ่อยๆ เลี่ยงสังคม เหนื่อยล้าทางจิตใจกินเวลายาวนาน ซึ่งจะนำไปสู่ภาวะซึมเศร้า

Inside Out 2 สะท้อนอารมณ์หลากหลายของวัยรุ่น แม้แต่อารมณ์เชิงลบก็มีข้อดี

โกรธ, ฉุนเฉียว (ANGER)

หนึ่งในอารมณ์ที่ทรงพลังที่สุดของคนเรา เกิดจากความขัดแย้ง ถูกแทรกแซง ถูกตัดสินอย่างไม่ยุติธรรม ถูกทำร้ายทางร่างกายหรือจิตใจ เกิดขึ้นได้พร้อมๆ กับความกลัว และขยะแขยง 
ข้อดี: ช่วยให้รับมือกับความเครียด ช่วยให้สงบสติอารมณ์ รู้ผิดรู้ชอบ ส่งเสริมความแข็งแกร่ง กระตุ้นให้แก้ปัญหา
ข้อเสีย: นำไปสู่การทะเลาะวิวาท การทำร้ายร่างกายผู้อื่นและตนเอง ปวดหัว นอนไม่หลับ หัวใจเต้นเร็วขึ้น ความดันโลหิตสูงขึ้น 

กลั๊วกลัว (FEAR)

เป็นอารมณ์ที่ตอบสนองต่อความอยู่รอด เกิดขึ้นเมื่อเจอกับสิ่งอันตราย หายใจถี่ขึ้น หัวใจเต้นแรง ตาเบิกกว้าง เกิดการหาทางเอาตัวรอด เชื่อมโยงกับความวิตกกังวล 
ข้อดี: กระตุ้นความระมัดระวัง ตื่นตัวสูง ประเมินความเสี่ยง กระตุ้นการเอาตัวรอด เกิดการเรียนรู้จากประสบการณ์ความกลัว
ข้อเสีย: เกิดความเครียดสูง อาจพัฒนาไปสู่ภาวะวิตกกังวล ซึมเศร้า และโรคกลัว (Phobia) ได้

หยะแหยง (DISGUST)

ความรู้สึกรังเกียจสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เกิดจากการรับรู้ผ่านประสาทสัมผัส เช่น ได้กลิ่นที่เหม็น กินอาหารที่ไม่ชอบ หรือพฤติกรรมที่ไม่น่าพึงพอใจ อาจทำให้อาเจียน ย่นจมูก ขมวดคิ้ว 
ข้อดี: กระตุ้นให้หลีกหนี ปิดกั้น หรือกำจัดสิ่งที่น่ารังเกียจ สิ่งที่อันตราย เป็นพิษ ปนเปื้อน หรือสิ่งที่ผิดศีลธรรม
ข้อเสีย: อาจเป็นแรงผลักดันในการลดทอนความเป็นมนุษย์ของผู้อื่น หรืออาจทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสียได้

สุดท้ายนี้ แม้ในช่วงชีวิตของคนเราจะเจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบากแค่ไหนก็ตาม แต่ด้วยทักษะการจัดการอารมณ์ที่ดี (ที่ควรถูกฝึกฝนมาตั้งแต่เด็ก) ก็จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คนเรารับมือกับสถานการณ์​ต่างๆ ในชีวิตได้ดีและเหมาะสมมากขึ้นนั่นเอง

 

-----------------------------------

อ้างอิง: psy.chulaOOCA, Verywellmind, Verywellmind2, MentalHelp, Paul Ekman, Everydayhealth, APA.org, Goodtherapy, MedicalNewsToday