นั่งฟังคนอกหักก็ทำเป็นอาชีพได้! 'โค้ชฮีลใจ' ทำรายได้ 90,000 บาทต่อคอร์ส
ฮาวทูเปลี่ยนแพสชันให้เป็นอาชีพใหม่ เปิดเคสอดีตสาวนักการตลาด ผันตัวสู่ "โค้ชฮีลใจคนอกหัก" สร้างธุรกิจ Breakup Bootcamp ทำรายได้สูงถึง 90,000 บาทต่อคอร์ส
KEY
POINTS
- “เอมี ชาน (Amy Chan) อดีตนักการตลาด สู่โค้ชด้านความสัมพันธ์ และเป็นผู้ก่อตั้ง Breakup Bootcamp เผยเคล็ดลับความสำเร็จ 'ธุรกิจฮีลใจคนอกหัก' ที่สร้างรายได้ถึง 90,000 บาทต่อคอร์ส
- กว่าจะมาเป็นธุรกิจ Breakup Bootcamp เธอติดกับดักความกลัวอยู่หลายปีจนใกล้จะหมดไฟ แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจพุ่งชน ทำแพสชันให้กลายเป็นอาชีพใหม่ได้
- การเปลี่ยนแพสชันให้กลายเป็นอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม สามารถเกิดขึ้นได้จริง แค่ต้องกล้าที่จะเริ่มต้นทำมัน และต้องก้าวข้ามความคิดเชิงลบในใจไปให้ได้
จริงอยู่ว่าไม่ใช่วัยทำงานทุกคนจะโชคดีได้ทำงานในฝัน แต่ก็มีบางคนที่สามารถค้นพบความหลงใหล (Passion) ของตนเองแล้วเปลี่ยนมันมาเป็นอาชีพใหม่ได้ หนึ่งในนั้นคือ “เอมี ชาน (Amy Chan)” นักเขียนและโค้ชด้านความสัมพันธ์ชาวสหรัฐ วัย 42 ปี ซึ่งก่อนหน้านั้นเธอทำงานด้านการตลาด (Marketing) มานานกว่า 10 ปี แต่ขณะเดียวกันเธอได้ค้นพบสกิลใหม่ในตัวเอง นั่นคือ การเป็นโค้ชด้านการเลิกรา ให้คำปรึกษาหญิงสาวที่เพิ่งอกหักมาแบบแผลสด ฮีลใจให้พวกเธอผ่านพ้นช่วงเวลาอันยากลำบากไปได้
จุดเริ่มต้นอาชีพใหม่ของ เอมี ชาน นั้น ย้อนกลับไปในตอนที่เธออายุได้ 25 ปี เธอได้แบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับการเลิกราของเธอบนแพลตฟอร์ม Myspace และโพสต์นั้นก็กลายเป็นไวรัล ไม่นานก็มีชาวเน็ตติดต่อหลังไมค์มาขอคำปรึกษากับเธอจำนวนมาก (ช่วงนั้นประมาณปี 2007 ผู้คนยุคนั้นยังไม่ค่อยกล้าแชร์รายละเอียดส่วนตัวในชีวิตของพวกเขาบนอินเทอร์เน็ตมากนัก)
เส้นทางจากนักการตลาด สู่อาชีพโค้ชการเลิกรา และต่อยอดเป็นธุรกิจบูธแคมป์
หลังจากนั้น เธอได้พัฒนาสกิลเพิ่มเติมและก้าวสู่อาชีพโค้ชผู้ให้คำแนะนำด้านการเลิกรา โดยเขียนแนะนำเรื่องความสัมพันธ์ให้กับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น เขียนผ่านบล็อกของเธอเอง รวมถึงเขียนให้กับสิ่งพิมพ์ชื่อดังอย่าง Huffington Post ในสหรัฐ ในขณะที่เธอยังคงทำงานด้านการตลาดควบคู่ไปด้วย
ทำไปทำมาก็พบว่ามีผู้คนให้ความสนใจมากขึ้นๆ เธอจึงเริ่มคิดต่อยอดสิ่งนี้ให้เป็นธุรกิจ Breakup Bootcamp หรือ บูธแคมป์เพื่อฮีลใจผู้คนที่เผชิญกับการเลิกรา ให้สาวๆ ที่อกหักสามารถมาค้นหาความผ่อนคลายและความสบายใจร่วมกันในแคมป์ได้
“ฉันคิดอยู่ตลอดว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคนที่เพิ่งอกหัก แล้วไม่มีเพื่อนให้ระบายความทุกข์ในใจ หรือไม่รู้ว่าจะปรึกษาใคร ไม่รู้ว่าจะหาอ่านวิธีฮีลใจตนเองได้จากที่ไหน” เธอกล่าว
แต่กว่าจะมาเป็นบูธแคมป์ฮีลใจได้ก็ใช้เวลานาน เพราะเธอเคยวางแผนจะทำบูธแคมป์นี้มาตั้งแต่ปี 2015 แล้ว แต่กลับกลัวเกินไปที่จะลงมือทำให้มันเกิดขึ้นในปีนั้น เธอเก็บความฝันไว้เป็นเวลานานจนเวลาผ่านไป 2 ปี แต่มาวันหนึ่งพอมองย้อนกลับไป เธอรู้สึกว่านั่นอาจเป็นความผิดพลาด ไม่มีเหตุผลใดๆ เลยที่จะไม่ทำให้มันเกิดขึ้น
อย่ากลัวที่จะลองทำตามแพสชัน สิ่งนั้นอาจกลายเป็นอาชีพใหม่ที่สร้างรายได้ดี
เมื่อถึงจุดหนึ่ง เธอก็ตระหนักได้ว่า “ถ้าฉันไม่ทำตอนนี้ ฉันก็จะไม่อยากทำมันอีกเลย” เธอบอกกับตัวเองแล้วฮึดสู้ เริ่มลงมือทำบูธแคมป์อย่างจริงจัง ในที่สุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2017 เธอได้เปิดบูธแคมป์แห่งการเลิกราครั้งแรก ซึ่งเป็นแคมป์ดูแลจิตใจ 3 วัน 2 คืน ในพื้นที่ส่วนตัวทางตอนเหนือของนิวยอร์ก
ภาพจากเว็บไซต์ RenewBreakup Bootcamp
ในแคมป์มีกิจกรรมมากมายหลายอย่าง เช่น การทำสมาธิด้วยโยคะ การทำกลุ่มบำบัดให้แต่ละคนแชร์ประสบการณ์การอกหัก รวมถึงการเข้าปรึกษานักจิตบำบัด มีข้อมูลจาก New york Times ระบุว่า สนนราคาของการเข้าบูธแคมป์แห่งนี้อยู่ที่ประมาณ 1,295 - 2,495 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 46,000-90,000 บาท) ต่อคอร์ส ขึ้นอยู่กับที่พักและค่าบริการหากขอคำปรึกษาเพิ่มเติมแบบตัวต่อตัวกับนักจิตบำบัด
อย่างไรก็ตาม จากประสบการณ์ความกล้าๆ กลัวๆ ของเธอในทำธุรกิจดังกล่าว เธอจึงอยากให้คำแนะนำกับผู้คนที่อยากทำตามความฝัน ว่า “การเปลี่ยนแพสชันให้กลายเป็นอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม มันสามารถเกิดขึ้นได้จริง คุณแค่ต้องกล้าที่จะเริ่มต้น แม้บางครั้งจิตใจเรามักจะโน้มน้าวให้หาเหตุผลร้อยแปดมาบอกว่าเราทำไม่ได้ เรายังไม่พร้อม แต่คุณต้องก้าวข้ามความคิดเชิงลบเหล่านั้นไปให้ได้” เธอย้ำ
ฮาวทูเปลี่ยนแพสชันให้เป็นอาชีพ เริ่มจากเล็กๆ ก่อน แล้วค่อยขยายออกไป
เธอบอกอีกว่า หากสิ่งที่คุณอยากทำตามแพสชันนั้น ดูยากเกินไปที่จะทำทั้งหมดในคราวเดียว เธอแนะนำว่าแทนที่จะคิดถึงทั้งโครงการ ให้แยกมันออกเป็นส่วนๆ
'เอมี ชาน' ภาพจากเว็บไซต์ RenewBreakup Bootcamp
“ให้ทำเหมือนกับสิ่งที่นักเขียนทำ คุณไม่ต้องคิดถึงการเขียนเนื้อเรื่องทั้งหมด 500 หน้า คุณแค่คิดถึง 50 คำแรก ทำมันให้เสร็จ จากนั้นค่อยคิดถึงหน้าถัดไป หากคุณกำลังเปลี่ยนอาชีพ นั่นอาจหมายถึงการอ่านบทความเกี่ยวกับวิธีเริ่มต้นอาชีพนั้นหรือติดต่อไปหาคนที่ทำอาชีพนั้นเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม
หากคุณกำลังเริ่มต้นธุรกิจใหม่ นั่นอาจหมายถึงการสร้างบัญชีโซเชียลมีเดียบัญชีแรกสำหรับโปรเจ็กต์ของคุณและเริ่มสร้างฐานผู้ชม รวมถึงมองหาพาร์ทเนอร์ที่จะเข้ามาเสริมทัพในธุรกิจได้ ในกรณีของเธอคือการหานักจิตบำบัดหรือนักจิตวิทยาวิชาชีพให้มาร่วมทำงานนี้ไปด้วยกัน” เธอ อธิบาย
ชาน เล่าอีกว่า พอลงมือทำมันจริงๆ มันอาจไม่เป็นไปตามที่ต้องการทุกอย่างตั้งแต่ครั้งแรก และก็ไม่จำเป็นต้องเริ่มทำทุกส่วนประกอบในคราวเดียว แต่หากลองเริ่มทำจากเล็กๆ ดูก่อน แล้วเรียนรู้มันไปเรื่อยๆ เราก็จะเริ่มเข้าใจและรู้ว่าจะพัฒนาต่อได้จากจุดไหน
ต่อมาไม่นานธุรกิจบูธแคมป์ฮีลใจของ เอมี ชาน ก็เติบโตขึ้นอย่างมาก และด้วยความช่วยเหลือจากสื่อสิ่งพิมพ์อย่าง Fortune และ The Cut ในที่สุด เธอก็ได้รับความสนใจจากเอเจนซีจัดหางานชื่อดัง พวกเขาได้วางแนวทางอาชีพให้เธอในฐานะ “โค้ชด้านการเลิกรา” และในเดือนสิงหาคม 2017 เธอก็ลาออกจากงานด้านการตลาด เพื่อเริ่มต้นอาชีพที่เน้นความสัมพันธ์แบบเต็มเวลา แถมยังสามารถปิดดีลใหญ่ในการผลิตหนังสือเล่มแรกของเธอที่มีมูลค่าถึง 6 หลักเลยทีเดียว