‘สนูป ด็อกก์’ ไปทำอะไรบ้าง ในการแข่งขัน ‘โอลิมปิก 2024’
กลายเป็นสีสันสุดปั่นของ “โอลิมปิก” เมื่อแร็ปเปอร์ตัวพ่อ “สนูป ด็อกก์” เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติสหรัฐ ซึ่งเขาทำหน้าที่หลายอย่าง ทั้งรายงานข่าว กองเชียร์ ถือคบเพลิง หรือแม้แต่แข่งกีฬากับนักกีฬาทีมชาติตัวเอง จนแทบจะกลายเป็นมาสคอตของอเมริกา
ตั้งแต่"พิธีเปิดโอลิมปิก 2024" ที่กรุงปารีส ไปจนถึงตลอดการแข่งขัน นอกจากนักกีฬาแล้ว ยังมีอีกหนึ่งคนที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าขยับตัวทำอะไรก็กลายเป็นกระแสและสร้างไวรัลได้ตลอด นั่นก็คือ “สนูป ด็อกก์” หรือ Snoop Dogg แร็ปเปอร์ชาวอเมริกันชื่อดัง ที่ขโมยซีนไปเต็มๆ ตั้งแต่พิธีเปิดโอลิมปิกด้วยการวิ่งคบเพลิงผลัดสุดท้ายก่อนส่งต่อให้ ฟาร์เรลล์ วิลเลียมส์ (Pharrell Williams)
เครดิตภาพ : reuters
Snoop Dogg หรือ คอร์โดซาร์ คาลวิน โบรดัส จูเนียร์ เป็นทั้งแร็ปเปอร์และโปรดิวเซอร์ชาวอเมริกันที่เกิดในลอสแอนเจลิส เป็นศิลปินที่อยู่กลุ่มเดียวกับ Dr.Dre หรือ ดร.เดรย์ และมีงานเพลงชื่อดังร่วมกัน เช่นเพลง “The Next Episode” สนูปเริ่มมีชื่อเสียงในฐานะศิลปินเดี่ยวประมาณปี 1998 และหลังจากนั้นก็ได้ร่วมงานกับศิลปินชื่อดังมากมาย หนึ่งในเพลงดังช่วงนั้นก็คือ Drop It Like It's Hot (ft. Pharrell Williams) และยังได้ขึ้นโชว์ใน Super Bowl LVI Halftime Show 2022 ร่วมกับ ดร.เดรย์, เอ็มมิเน็ม, แมรี เจ. ไบลจ์, เคนดริก ลามาร์ และ 50 Cent ที่ถือว่าเป็นเวทีใหญ่ที่ศิลปินหลายคนอยากมีโอกาสได้ขึ้นแสดงสักครั้ง
สำหรับมหกรรมกีฬา"โอลิมปิก 2024" ในครั้งนี้ “สนูป ด็อกก์” สร้างสีสันตั้งแต่ในพิธีเปิดเมื่อวันที่ 26 ก.ค. ที่ผ่านมา (ตามเวลาปารีส) กับการวิ่งคบเพลิงด้วยท่าวิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมทักทายผู้ชมเกือบตลอดทางทำให้ได้รับความสนใจจากประชาชนที่เข้าชมงานและผู้ชมทางบ้านเป็นอย่างมาก
แท้จริงแล้วเรื่องของ สนูป ด็อกก์ และ “โอลิมปิก 2024” ได้รับการพูดถึงตั้งแต่งานยังไม่เริ่มเสียอีก เพราะทันทีที่มีข่าวว่าเขาจะร่วมวิ่งคบเพลิงในครั้งนี้ก็มีหลายคนเริ่มจับตามองว่าวันงานจะออกมาเป็นอย่างไร นอกจากนี้เขายังมีส่วนร่วมกับทัพนักกีฬาทีมชาติสหรัฐเป็นอย่างมากเพราะบัญชีอินสตาแกรมทางการของทีมชาติสหรัฐ หรือ USA team ก็มีประกาศว่า สนูป ด็อกก์ เป็นส่วนหนึ่งของทีมอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อย
หลังจากเข้ามาอยู่ในทีมเขาก็ทำกิจกรรมร่วมกับนักกีฬามากมาย ซึ่งเขาได้รับเครื่องแบบเหมือนกับนักกีฬาแทบทุกอย่าง ตั้งแต่ชุดซ้อม ชุดแข่ง ชุดขึ้นรับรางวัล ไปจนถึงชุดทางการที่นักกีฬาสวมใส่ในพิธีเปิด หลังจากนั้นเขาก็ปรากฏตัวบนอินสตาแกรมของทีมอย่างต่อเนื่อง โดยโพสต์แรกที่เขาได้มีส่วนร่วมกับทีมแบบเต็มๆ ก็คือคลิปที่เขาโผล่ไปเซอร์ไพรส์ทีมนักกีฬาฟันดาบหญิง
และเมื่อพิธีเปิดโอลิมปิกมาถึง สนูป ด็อกก์ ก็ไม่ทำให้แฟนๆ และชาวอเมริกันที่รอดูเขาวิ่งคบเพลิงต้องผิดหวัง เพราะเจ้าตัวไม่ได้แค่วิ่งอย่างเดียว แต่ยังมาพร้อมท่าเต้นสุดปั่นอันเป็นเอกลักษณ์อีกด้วย นอกจากนี้เขายังรับหน้าที่เป็น “ผู้สื่อข่าว” ของสถานีโทรทัศน์ชื่อดังในอเมริกาอย่าง “NBC” โดย สนูป ด็อกก์ จะคอยรายงานความเคลื่อนไหวต่างๆ ในการแข่งขันโอลิมปิกผ่านรายการ Olympic Primetime Show
เครดิตภาพ : IG snoopdogg
ไม่ใช่แค่นั้นแต่ “สนูป ด็อกก์” ยังทำหน้าที่เป็นกองเชียร์ได้เป็นอย่างดี เพราะเกือบทุกการแข่งขันที่เขาเข้าชม ก็มักจะสวมเสื้อที่สกรีนภาพของนักกีฬาทีมชาติที่ลงแข่งในรายการนั้นๆ เช่น ซิโมน ไบลส์ นักยิมนาสติก และ โคโค กอฟฟ์ นักเทนนิส และความปั่นอยู่ที่หลังจากที่โคโค เอาชนะคู่แข่งได้เมื่อวันที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา (ปัจจุบันตกรอบแล้ว) เธอก็ได้รับ “พิน” หรือเข็มกลัดที่ระลึกเป็นรูป สนูป ด็อกก์ ที่ได้มาจาก สนูป ด็อกก์ อีกที โดยเธอโพสต์ภาพพินดังกล่าวลงในสตอรีอินสตาแกรมส่วนตัวของเธอ
เครดิตภาพ : IG cocogauff
นอกจากนี้เขายังเข้าร่วมกิจกรรมกีฬาต่างๆ กับทีมชาติสหรัฐ ไม่ว่าจะเป็น กรีฑา บาสเกตบอล ว่ายน้ำ ฟันดาบ หรือแม้แต่ยกน้ำหนัก ซึ่งในขณะที่เขาวิ่งแข่งกับตัวเอง โดยทำสถิติการวิ่ง 200 เมตร ในเวลา 34.4 วินาที ก็ได้สวมเสื้อที่สกรีนภาพของ “โคบี ไบรอันต์” นักบาสทีมชาติสหรัฐในตำนานผู้ล่วงลับด้วย
เท่านั้นยังไม่พอแต่ สนูป ด็อกก์ ได้มีโอกาสไปกระทบไหล่ “บิลลี จีน คิง” อดีตนักเทนนิสมือวางอันดับหนึ่งของโลกชาวอเมริกันในวัย 80 ปี และถ่ายภาพร่วมกันเป็นที่ระลึก
เครดิตภาพ : IG nbc
การที่ สนูป ด็อกก์ เข้าไปมีส่วนร่วมกับทีมชาติสหรัฐในการแข่งขันโอลิมปิกที่ปารีสครั้งนี้กลายเป็นกระแสบนโลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว โซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มต่างๆ เต็มไปด้วยภาพและวิดีโอสุดปั่นของเขา ทำให้แฟนคลับบางคนแซวว่า เหมือนกับเป็น SnoopOlympics เสียมากกว่า ทั้งยังมีการตั้งคำถามว่าทำงานเยอะขนาดนี้ได้ค่าตัวเท่าไร ?
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าโมเมนต์ต่างๆ ที่เราได้เห็นจาก “สนูป ด็อกก์” ก็กลายเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ “โอลิมปิก 2024” จริงๆ ทำให้ชาวอเมริกันหลายคน โดยเฉพาะแฟนคลับของเขาต่างเข้าไปคอมเมนต์ในอินสตาแกรมของเขาว่าอยากเห็นเขาในทุกวันของการแข่ง จนเปรียบเสมือนมาสคอตอย่างไม่เป็นทางการของอเมริกา
อ้างอิงข้อมูล : NBC, USA team, Billboard, USA today และ People